สรุปงานของ AMD FAD Event – Vega Frontier Edition, Threadripper, EPYC, Ryzen APUs & อื่นๆ

บทความนี้เป็นบทสรุปทั้งหมดในงานแถลงการดำเนินงานและการเงินของทาง AMD ที่จัดกันขึ้นมาภายในบริษัทถึงสี่ชั่วโมง/Financial Analyst Day. เราได้รวมเอาเนื้อหาสำคัญไม่ว่าจะเป็น Radeon Vega Frontier Edition และ Radeon Pro Vega SSG. high-end desktop CPUs ที่มาพร้อมแกน 16 cores Threadripper. และอีกรุ่นที่เป็นรุ่นแรงสุดมีจำนวนแกนทั้งสิ้น 32 cores สำหรับใช้ในกลุ่ม datacenter รหัสชื่อ “EYPC รวมกันมาให้ดูกันอีกรอบ.

Vega

นาย Raja Koduri กูรูทางด้านกราฟฟิกการ์ดจากค่ายแดงออกมาโชว์ Vega graphics architecture หลายแขนงด้วยกันไม่ว่าประสิทธิภาพทางด้าน machine learning/การเรียนรู้, High Bandwidth Cache architecture และความละเอียดระดับ 4K gaming.

Deep Learning

Vega จะเป็นสถาปัตยกรรมทางด้านกราฟิก/graphics architecture ตัวแรกๆของทางบริษัทที่จะเดินตามแนวทางนี้. ทางด้านซอร์ฟแวร์สำหรับ machine learning ทาง AMD ยังเลือกที่เดินต่อเกี่ยวกับการเปิดกว้างในด้านตัวซอร์ฟแวร์โดยผ่านทาง Radeon Open Compute platform หรือ ROCm – เป็นโครงสร้างฐานแบบเปิดสำหรับ HPC และ Ultrascale GPU Computing/ที่มีขนาดใหญ๋ เพื่อประโยชน์และเอื้อต่อนักพัฒนานำเอาข้อดีของ Vega ไปใช้สำหรับ AI และ deep learning workloads.

ในงานได้มีการโชว์ Vega ขับเคลื่อน DeepBench, ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ฮิตมากสำหรับบททดสอบ deep learning. Radeon Vega Frontier Edition มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า NVIDIA P100 accelerator เกือบ 30%. และน่าจะเป็นการ์ดจอตัวแรกที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ในตลาด.

4K Gaming

สำหรับการโชว์สดทางด้านเกมส์ ได้นำเอา Vega ไปขับเคลื่อนเกมส์ Sniper Elite 4 ในระดับความละเอียดที่ 4K, สามารถทำเฟรมเรทได้ที่ 60-70 FPS แบบนิ่งๆและบางครั้งกระโดดไปที่ 80 FPS ก็มี. และได้นำเอา GTX 1080 Ti มาเปรียบ-ตัวการ์ดก็สามารถกระโจนไปแถวๆ 60-70 average frame rate เช่นกัน. สำหรับเกมส์ Sniper Elite 4 เป็นอีกเกมส์ที่เป็น AMD optimized title/ปรับปรุงมาเรียบร้อยแล้ว, เพราะฉนั้นไม่น่าแปลกใจว่า Vega’ จะไปได้ไกลกว่าหน่อย.

ข้อจำกัดสำหรับ Memory จะหมดไปเมื่อมี – HBCC

ต่อมามีการโชว์ประสิทธิภาพทางด้าน memory ของ Vega ซึ่งนำเอาเกมส์ Tomb Raider มาลอง. ในการโชว์นี้ทางผู้จัดใช้แค่หรือ enabled 2GB ที่เป็น memory บน graphics card เท่านั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Vega High Bandwidth Cache controller ทางด้าน streaming data/ถ่ายโอน ในรูปแบบ in และ out จาก High Bandwidth Memory pool/แหล่ง โดยบังคับอยู่ในสภาพที่มีขนาดความจุของ memory ที่จำกัด. อันนี้ Vega ผ่านชิวๆ.

มาพร้อมเทคโนโลจีใหม่ HBCC และลองเปิดใช้ดู, เล่นกันในรูปแบบกลางๆหรือ average และน้อยที่สุดของเฟรมเรทและเปรียบเทียบดู เห็นได้ชัดจากภาพด้านล่างว่าระหว่างเปิดและไม่เปิดใช้เป็นเช่นไร. และดูเหมือนการจำกัด memory ไว้ที่ 2GB และ HBCC ยังเปิดใช้เกมส์ยังวิ่งได้สบายๆลื่นไหลดี-ลองคิดดูว่าอีกหน่อยข้อจำกัดทางด้าน memory นั้นไม่ใช่ตัวสำตัญแล้ว.

ตัวเป็นๆ Vega, เปิดเผย Radeon Vega Frontier Edition Graphics Card

สำหรับการ์ดจอใหม่นี้มาพร้อม 64 Vege compute units/หน่วยคำนวณและเร็วที่ 12.5 TFLOPS ในรูปแบบ single precision compute, 25 TFLOPS ในรูปแบบ half precision computeและ pixel rate ที่ 90Gpiexls/s. พกพา 16GB ที่เป็น stacked HBM2/ชั้นๆเร็วได้ 480GB/s ที่เป็น bandwidth.

ทาง AMD ออกมากล่าวย้ำอีกครั้งว่าการ์ดจอนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อเกมส์เมอร์ แต่เหมาะสำหรับกลุ่มที่ต้องการวิ่งข้อมูลที่มีขนาดมหาศาลหรือ data scientists, engineers และ product designers. Radeon Vega Frontier Edition มีมาด้วยกันสองเวอร์ชั่นแตกต่างกันนิดหน่อยทางด้านสีและฟีเจอร์c. สีฟ้าจะใช้ระบบทำความเย็นด้วยอากาศและสีทองใช้ระบบทำความเย็นด้วยน้ำ.

เวลาและวางจำหน่ายของ Vega – Radeon RX Vega & Radeon Instinct

The Radeon Vega Frontier Edition graphics card จะเปิดวางจำหน่ายในสิ้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้. และสำหรับ Radeon Instinct AI accelerators และสำหรับ gaming Radeon RX graphics cards ยังไม่มีการเอ่ยถึง.

Radeon Pro Vega SSG

AMD เคยได้กล่าวถึงตัวคอนเซ็ปของ SSGs เมื่อปีที่แล้วมา. ทาง AMD เรียกมันว่า Soild State Graphics boards สรุปมันก็คือตัว GPUs ที่เชื่อมต่อ solid state drives โดยตรงเพื่อเพิ่มขนาดความจุของ memory (pool). แทนที่จะมีแค่ 16GB ที่เป็น memory บนบอร์ดเหมือนกับ Radeon Vega Frontier Edition, แต่สำหรับ Radeon Pro Vega SSG สามารถเร่งความเร็วได้มากถึงหรือเข้าถึง 2 terabytes ที่เป็น non-voltatile memory ในรูปแบบ NVMe device/อุปกรณ์. และนี้ก็คือ ultra fast หรือเร็วมากๆ 16GB ที่เป็น high bandwidth cache.

หน่วยความจำถาวร Non-volatile memory คือหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บรักษาข้อมูลได้อยู่โดยไม่ต้องอาศัยไฟฟ้า ตัวอย่างหน่วยความจำถาวรเช่น รอม, แฟลช

และสำหรับระดับมืออาชีพที่ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนที่ไม่สามารถคำนวณได้หรือมหาศาล ด้วยวิธีการนี้จะสามารถเพื่มประสิทธิภาพในด้าน memory pool ได้อย่างดียิ่ง. ยกตัวอย่างเช่น ray-tracing., ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับตัวลำแสงไฟหรือ light rays นั้นอ่านและจำลองอุปนิสัยของ photons ให้สะท้อนให้เห็นในโลกความจริงออกมาเช่น จังหวะไฟจังหวะต่างๆ/lighting effects. สำหรับชนิดของ workloads หรือปริมาณขนาดนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่การ์ดจอธรรมดาจะทำหรือจะสะท้อนออกมาให้เห็นได้.

เพื่อให้เห็นภาพให้ชัด ทาง AMD โชว์ ray-tracing แบบ real-time โดยใช้ Radeon Vega SSG พร้อมทั้งให้เห็นข้อแตกต่างระหว่าง solid state storage บนบอร์ด แบบ disabled/ไม่ใช้ และ enabled/ใช้. ในรูปแบบ disabled ภาพที่ได้จะเสมือนกับดูภาพสไลด์เลื่อนไปหรือเปลี่ยนสลับไปเรื่อย แต่หาก enabled ภาพจะลื่นไหลดีขึ้น.

การตามรอยลำแสง (ray tracing) ซึ่งเป็นการคำนวณโดยอาศัยหลักไล่ตามรอยทางเดินของแสงที่มาจากแหล่งกำเนิดแสงมาตกกระทบที่วัตถุแล้วสะท้อนเข้าตาหรือกล้อง โดยไล่ตรวจสอบย้อนรอยแสง ไปดูค่าความสว่างของวัตถุที่จะแสดงในแต่ละจุดภาพบนอุปกรณ์แสดงผล

AMD Ryzen APUs พร้อมด้วย Vega Graphics Cores มาแน่ภายในปีนี้

มาแน่ Ryzen APUs พร้อมด้วย Vega graphics engines สำหรับตลาดระดับ premium รูปแบบ mobile. มันจะมีขนาดที่เล็กและสามารถใส่เข้าในอุปกร์ณพกพาที่เบาบางหรือ Ultra portable devices, 2-in-1s และ gaming notebooks.

การเข้ามาของ Ryzen ในกลุ่มตลาดอุปกรณ์พกพาหวังไว้ว่าจะทำให้สินค้ากลุ่มนี้ประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้นถึง 50 เปอร์เซนต์หากเทียบกับ AMD APUs รุ่นที่เจ็ดที่ใช้กัน ณ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นทางด้านปริมาณงานหรือ CPU workloads และอีก 40% ในด้าน graphics. แต่นี้ยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด-แต่สิ่งที่เคลมเอาไว้ก็คือสามารถประหยัดพลังงานได้มากกกว่าครึ่งหรือถ้าคืดกันแบบต่อวัตท์ มันดีขึ้นถึง 100% เลยทีเดียวในด้านประสิทธิภาพ. Ryzen APUs จะเริ่มวางตลาดในครึ่งปีหลังของ 2017.

Ryzen Threadripper – ลู่ทางสู่ High-End Desktop

Threadripper เป็นชิปตระกูลใหม่จากทาง AMD, มันจะเป็นชิปที่อาศัยเวลาร่วมสิบปีที่จะมาแข่งกับทาง Intel แบบตรงในส่วนของ high-end desktop. Threadripper CPUs จะมีจำนวนแกนมาให้เลือกมากถึง 16 corers และ 32 threads. มี memory bandwidth, cache และฟังค์ชั่นของ I/O มากกว่าหากเทียบกับ Ryzen processors.

AMD ได้ประกาศเอาไว้ว่า Ryzen Threadripper จะพร้อมวางตลาดในฤดูร้อนที่จะถึงนี้. สำหรับ AMD Ryzen 7 1800X, ตอนนี้มีราคาขายอยู่ที่ $499. Threadripper CPUs น่าจะเคาะราคามาแพงกว่า.

AMD“EPYC” สำหรับ Datacenter CPUs

EPYC ก็คือ AMD Opteron ที่เกิดขึ้นมาใหม่. ออกแบบมาเพื่อมาท้าทายกับทาง Intel ในกลุ่ม server. จะมีจำนวนแกนที่มากถึง 32 cores และ 64 threads. และใช้กระบวนการผลิตแบบ 14nm FinFET แบบเดียวกันกับ Ryzen processors และยังอ้างอิงถึง Zen microarchitecture. หากจะให้เห็นภาพให้ชัด-มันก็คือ Ryzen 8 core dies ที่ถูกนำมาต่อเชื่อมกันโดยใช้เทคโนโลจีของ AMD Infinity Fabric.

ด้วยจำนวนแกนที่มีมาให้มากกว่าถึง 45%, 122% ทางด้าน bandwidth และ 60% มากกว่าทางด้าน I/O bandwidth หากเทียบกับคู่แข่ง. และรวมเอาสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Zen เข้ามาด้วยโดยเฉพาะทางด้านการใช้พลังงานเพื่อมาสนองต่อกลุ่มสินค้าของ server.

มาพร้อมประสิทธิภาพและขนาดที่ไม่ธรรมดา, จำนวนแกน 32-core System บนชิป (SoC) design, พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่สูง สอง threads per/ต่อ core
เกรดระดับอุตสาหกรรมใช้ขั้นแนวหน้า/Industry-leading memory bandwidth, ให้มามากถึง 8-channels ที่เป็น memory per/ต่อ “Naples” device. มาในรูปแบบ 2-socket server, รองรับการทำงานร่วมได้มากถึง 32 DIMMS ที่เป็น DDR4 บน 16 memory channels, ขีดความสามารถขนาดความจุทั้งหมดด้าน memory ให้ได้มากถึง 4 terabytes.
เป็นชิปเอนกประสงค์หรือ SoC, รองรับและสนับสนุน high-speed I/O มีมากถึง 128 lanes ที่เป็น PCIe 3
ประสิทธิภาพของ cache structure เกรดระดับสูง, ประหยัดพลังงานทางด้านการคำนวณ
รองรับและเชื่อมต่อ “Naples” CPUs ได้สองตัวใน 2-socket system/เป็นระบบเดียว
มีความปลอดภัยและมั่นคงสูง

และทาง AMD ยังเกริ่นออกมาว่าสำหรับ EPYC lineup จะมีรุ่น refresh/ปรับปรุงใหม่ตามมาอีกด้วย, โดยจะใช้กระบวนการผลิตรูปแบบ 7nm ซึ่งจะใช้ชื่อว่า “Rome” และ “Milan” designs และมันจะเป็น Zen2 และ Zen3 cores ภายในอีกสามปีข้างหน้า.

ทั้งหมดนี้คือบทสรุปทั้งหมดจากงาน FAD ของทางฝ่ายแดง ด้านล่างเป็นภาพสไลด์ภายในงานทั้งหมดเอามาให้ชมกัน Threadripper, Ryzen APUs, Vega และ EPYC.