หัวเว่ยผนึกกำลังเซ็นทรัลเวิลด์ ส่งพลัง 5G + Cloud ร่วมถ่ายทอดสดเคาท์ดาวน์แบบนิว นอร์มัล
สร้างปรากฏการณ์แห่งการฉลองศักราชใหม่ที่มอบประสบการณ์อย่างไม่รู้จบ
กรุงเทพฯ, 4 มกราคม 2564 – เพื่อร่วมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกกับการนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ หนึ่งในแลนด์มาร์คแห่งการเคาท์ดาวน์ของโลก บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสนับสนุนศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผสานพลังเทคโนโลยี 5G + Cloud และ VR ที่ผู้ชมทางบ้านสามารถร่วมเฉลิมฉลองรูปแบบใหม่ได้เสมือนเข้าร่วมงานจริง ใน “Central World Bangkok Countdown 2021 – A Symbol of Hope”
เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมการจุดพลุและดอกไม้ไฟอันเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองสู่ปี 2021 และยังเป็นการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ช่วยโปรโมทและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคการท่องเที่ยวของไทยในช่วงเวลาของความท้าทายเช่นนี้ นอกจากจะยกระดับด้านการเชื่อมต่อ (Connectivity) ช่วยให้การถ่ายทอดสดผ่านออนไลน์ (Live-streaming) มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นพร้อมความคมชัดระดับ 8K ผ่านเทคโนโลยี 5G จากหัวเว่ยแล้ว ยังเป็นการสร้าง Immersive Experience ด้วยรูปแบบ Virtual Reality หรือ VR เสริมการท่องเที่ยวในประเทศที่แตกต่าง ชาวไทยยังมีโอกาสร่วมรับประสบการณ์แห่งความสุขของการเฉลิมฉลองย้อนหลังได้และไม่จำกัดผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ทั้งของเครือบางกอกโพสต์และสื่อต่างๆ ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังร่วมกับพันธมิตร LETINVR มอบโซลูชัน Cloud VR บนเทคโนโลยี 5G และคลาวด์จากหัวเว่ย เพื่อนำเสนอการไลฟ์ เคาท์ดาวน์กับ Central World Bangkok Countdown 2021 – A Symbol of Hope ในรูปแบบ VR อย่างสมจริงที่สุด เสริมประสบการณ์รับชมการเคาท์ดาวน์เสมือนจริงอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นผ่านแว่น VR บนเครือข่าย 5G โซลูชัน Cloud VR นี้ยังนำเทคโนโลยีของคลาวด์ คอมพิวติ้ง และคลาวด์ เรนเดอริง มาใช้ในแอปพลิเคชัน VR เมื่อร่วมกับแบนด์วิดท์ระดับสูงและความหน่วงต่ำของเครือข่าย 5G คอนเทนต์ VR ก็จะถูกถอดรหัสและบีบอัดโดยคลาวด์ คอมพิวติ้ง และคลาวด์ เรนเดอริง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังเทอร์มินัลของผู้ใช้งาน
สำหรับการสร้าง Immersive Experience อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อการรับชมที่เสมือนจริงและมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องอาศัยศักยภาพของเทคโนโลยี Cloud และ 5G ในการประมวลผลภาพวีดีโอ VR 360 องศา อย่างรวดเร็ว และการส่งผ่านข้อมูลความเร็วสูงระหว่างระบบ Cloud Computing กับแว่น VR บนเทคโนโลยีโครงข่าย 5G ทั้งนี้ หัวเว่ย คลาวด์ ได้ใช้ประสิทธิภาพคอมพิวติ้งอันทรงพลังเพื่อเรนเดอร์และจัดเก็บคอนเทนต์ในคลาวด์ ก่อนที่จะถ่ายทอดเป็น Immersive VR Experience สู่ผู้ใช้งานผ่านเครือข่าย 5G คุณภาพสูง
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของหัวเว่ย ประเทศไทย ที่ได้ร่วมสนับสนุนในงาน Central World Bangkok Countdown 2021 แลนด์มาร์คของไทยแห่งการเคาท์ดาวน์ระดับโลก เราเชื่อว่านอกจากการจุดพลุและดอกไม้ไฟผสานจอดิจิทัลยักษ์แห่งเดียวในประเทศไทยครั้งนี้ ชาวไทยจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยยกระดับการใช้ชีวิต พร้อมสร้างช่วงเวลาแห่งความทรงจำร่วมกันในระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเฉลิมฉลองได้เป็นพันๆ ครั้งอย่างไม่รู้จบ”
ทั้งนี้ หัวเว่ย ประเทศไทย ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการผลักดัน 5G ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเชิงดิจิทัล (Digital Transformation) โดยภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญมากสำหรับประเทศ ซึ่งไทยมีความก้าวหน้าด้านการนำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้เป็นอันดับแรกๆ ในภูมิภาคอาเซียน เมื่อนำศักยภาพที่มีอยู่มาใช้งานได้อย่างเต็มที่และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็จะยกระดับประเทศไทยให้เป็น “ไทยแลนด์ 4.0” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเปิดทางสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
“หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมไอซีที จะร่วมกับพันธมิตรทั้งหมดของเราอย่างต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกัน พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทยอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อช่วยสร้างประเทศไทยที่มีความอัจฉริยะ สนับสนุนประเทศสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ ยุคดิจิทัล และกลายเป็นดิจิทัลฮับของอาเซียนได้สำเร็จ สะท้อนวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ” นายอาเบล เติ้ง กล่าวสรุป
ภาพเพิ่มเติม
You must be logged in to post a comment.