Review: AMD R9 NANO 4GB HBM สุดยอดกราฟิคการ์ดขนาดเล็กแค่ความสามารถไม่เล็กตาม

กราบสวัสดีครับทุกๆท่านชาว ExtremePC ครับทุกๆท่าน สำหรับวันนี้ทางผมก็ได้รับกราฟิคการ์ดอีกรุ่นหนึ่งที่ทาง AMD พึงได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมา สำหรับการ์ดจอรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าความแรงของการ์ดจอ AMD R9 NANO 4GB HBM แทบจะแรงเท่า AMD R9 FURY X  แต่การบริโภคไฟนั้นน้อยกว่ากันเยอะมากเลยทีเดียวครับโดยถ้าเทียบกับการ์ดจอ AMD R9 290X นั้น ความแรงของเจ้า AMD R9 NANO 4GB HBM  ก็เยอะกว่าแถมกินไฟน้อยลงถึง 30 % เลยทีเดียวโดยได้ใช้งานปลักไฟเลี้ยงเพื่มเติมจำนวน 1 หัวด้วยกัน โดยใช้งานแบบ 8 pin สำหรับการใช้งานนั้นก็ต้องบอกเลยครับพาเวอร์ 550-650 W นั้น ใช้งานได้เหลือๆสบายๆเลยทีเดียวครับ สำหรับรายละเอียดต่างๆนั้นจะเป็นอย่างไรเดียวเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

มาดูกันดีกว่ารับ สำหรับตระกูล Fury นั้นตอนนี้จะแบ่งด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน โดยตอนนี้จะมี R9 FuryX  R9 Fury R9 Nano นั้นเองครับ

สำหรับตัว  Nano นั้นก็ยังคงการใช้งานเทคโนโลยี่ HBM หรือการที่นำ  Ram มาจากด้านนอกนมารวมเอาไว้ในชิพ GPU
เลยทีเดียวทให้การเชื่อมต่อนั้นใกล้มากยิ่งขึ้นหรือจะเรียกอีกแบบหนึ่งก็น่าจะว่ามันเป็นแคสขนาดใหญ่เลยก็ได้ครับ

สำหรับตัวการ์ดนั้นความยาวของตัวการ์ดจอถ้าเทียบกับตัว R9 290X แล้วนั้นความสั้นมันลดลงไปมากถึง 40% เลยทีเดียว

เรื่องของความร้อนหลายๆคนอาจจะสงสัยในจุดนี้ว่าขนาดและสเปคต่างๆมันแทบจะเท่า R9 FURY  X
แต่ทว่ารุ่นนั้นทาง AMD ได้ใส่ชุดน้ำมาให้เลยแต่รุ่นนี้ซิงค์ปกติแถมเล็กลงแต่เรื่องความร้อนนั้นก็ไม่ต้องกังวล
ไปครับเพราะมันยังเย็นกว่าตัว R9 290X มาถึง 20 % ด้วยกันเลยทีเดียวครับ

สำหรับช่องการจ่ายไฟหรือการเชื่อมต่อไฟเลี้ยงนั้นจะลดลงไป 30% หรือจะพูดง่ายก็คือมันใช้ไฟเลี้ยงเพิ่มเติมเหลือแค่ 8 Pin เท่านั้น

แน่นอนว่าการ์ดรุ่นนี้ออกมาเพื่อตอบสนองคนที่จะประกอบคอมแบบ ITX ตัวการ์ดนั้นสั้นมากจริงๆครับโดยความยาว
ถ้าจะให้เทียบง่ายๆก็คือมันยาวเพียงแค่ตัวสล๊อต PCI-E 16x เท่านั้นเองครับ

เปรียบเทียบความแรงของ R9 290x กับ R9 Nano นั้นเรียกว่าแรงกว่ากันเยอะเลยทีเดียว

ลองมาเทียบกับการ์ดจอของทางคู่แข่งในขนาด ITX รุ่นต่างๆนั้น จะเห็นว่า Nano ทำได้ดีกว่ากันแบบเท่าตัวเลยทีเดียวครับ

เอาละครับหลังจากพูดให้ดูไปสะยาวมาดูกันที่พระเอกของงานนี้กันเลยดีกว่า สำหรับการ์ดจอ AMD R9 Nano ตัวนี้เรียกว่าขนาดมันน่ารักมากๆเลยทีเดียวดูแล้วสวยงามมากๆ

เทียบกันให้เห็นขนาดกันแบบคร่าวๆตัวการ์ดจอนั้นใหญ่พอๆกับมือเลย เรียกว่ามันเล็กมากๆเลยทีเดียวงานนี้เล็กๆแต่แรงนะ

สำหรับการระบายความร้อนการ์ดจอรุ่นนี้ได้ออกแบบมาโดยใช้งานเป็นพัดลม 1 ตัวเป่าลงไปตรงกลางที่การ์ดจอ โดยใบพัดนั้นเลือกใช้งานเป็นแบบถี่และยังใช้งานที่ใบพัดขนาดใหญ่อีกด้วยทำให้มันเป่าลมออกมาได้ดีมากๆเลยทีเดียวครับ

สำหรับการ์ดจอรุ่นนี้ก็ให้ดูว่ามันยาวเท่ากับช่อง PCI-E เท่านั้น โดยใช้พื้นที่ในการติดตั้งจำนวน 2 สล๊อตด้วยกัน

ทางด้านบนของตัวการ์ดจอนั้นจะมีตรา RADEON แปะเอาไว้สีแดงสวยงามโดยตรงนี้ไม่ได้มีไฟแต่อย่างใด
สำหรับในส่วนนี้ก็มีการเจารูทำเป็นช่องๆเอาไว้เพื่อที่จะได้ช่วยระบายความร้อนออกไปได้ดียิ่งขึ้น

แน่นอนว่าถึงแม้มันจะเป็นรุ่น Nano แล้วแต่เรื่องความมั่นใจในการใช้งานนั้นก็ยังคงให้ตัว Dual Bios มาให้ด้วย
เผื่อใครเกิดมีปัญหาอะไรไม่สามารถเปิดเครื่องขึ้นมาได้หรือแฟรชใบออสแล้วเสียหายเราก็สามารถปรับสวิตช์ไปใช้ Bios ตัวสำรองได้เช่นกัน

สำหรับการ์ดจอรุ่นนี้ก็ต้องการใช้งานไฟเลี้ยงเพิ่มเติมจำนวน 8 Pin เพียงหัวเดียวเท่านั้นโดยการเชื่อมต่อไฟเพิ่มจะย้ายไปอยู่ด้าน
ท้ายของการ์ดจอเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเก็บสายมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าผมคิกอีกมุมมองหนึ่งมันต้องใช้งานพื้นที่ในการติดตั้งหรือยาวเพิ่มออกไปอีกเช่นกัน

สำหรับทางด้านหน้าของตัวการ์ดจอนั้นก็ได้มีโลโก้ Radeon สีแดงสวยงามแปะติดเอาไว้โดยเป็นการปั้มลึกแล้วทาสีแดง

มาดูทางด้านหลังการ์ดจอกันบ้างดีกว่าครับโดยสีของตัว PCB นั้นจะได้เลือกใช้งานเป็นสีดำสนิท และเราจะไม่ได้เห็นชิพของตัว Ram อีกต่อไปเพราะว่าทาง AMD ได้ใช้งานเป็นแบบ HBM ที่นำเข้าไปอยู่ในตัว GPU เรียบร้อยแล้วแต่เราจะพบกับทรานซิสเตอร์ขนาดเยอะมากๆทางด้านหลังของตัวการ์ดจอแทน

สำหรับช่องในการเชื่อมต่อนั้นยังคงรองรับเหมือนกับรุ่น Fury x ทุกประการ โดยมีช่อง DisplayPort 3 ช่อง และ HDMI อีก 1 ช่องด้วยกัน

สำหรับสเปคของตัวการ์ดจอ

สำหรับสเปคที่ใช้ในการทดสอบนะครับ

บรรยากาศขณะทำการทดสอบ AMD R9 NANO 4GB HBM

OverClock For FUN

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ AMD R9 NANO 4GB HBM ความแรงของตัว AMD R9 Nano สำหรับการทดสอบเรียกได้ว่าในตอนนี้
มันเป็นการ์ดจอขนาด ITX ที่แรงที่สุดในโลกเลยทีเดียวและการใช้พลังงานของมันนั้นก็น้อยมากจนน่าตกใจที่สวนกับความแรง
สำหรับการ์ดจอรุ่นนี้ในตอนท้ายผมก็คนมือเล็กๆลองลากและเทสสักโปรแกรมหนึ่งก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างน่าตกใจเลยทีเดียวครับ
สำหรับในส่วนเรื่องของความร้อนก็แทบจะเท่าที่ทาง AMD เคลมมาเลยว่า 75 องศาแต่ทว่าถ้าได้ทำการเร่งพัดลมขึ้นไป 100 %
แล้วความเย็นของตัวการ์ดจอนั้นก็ลดลงมาเหลือเพียง 59 องศาเท่านั้นถือว่ารอบน้ำทาง AMD ทำการบ้านมา
อย่างดีมากๆเลยทีเดียวทั้งเรื่องการกินไฟใช้พาเวอร์เพียง 550-650W ก็เหลือๆแล้ว
สำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ