สรุปข่าวการ์ดจอใหม่ AMD Radeon 6000 Series ทั้งเดสก์ทอป RX 6500 XT และโน้ตบุ๊ก 6000S !!

รอบนี้ AMD ใส่ใจกับตลาดโน้ตบุ๊กมากขึ้น จึงยกทัพการ์ดจอแยกในโน้ตบุ๊กออกมาเพิ่ม รวมถึงมีซีรีย์ใหม่ออกมาสำหรับโน้ตบุ๊กกลุ่ม Ultra-thin หรือกลุ่มพรีเมี่ยมที่เน้นความบางเบาและประหยัดพลังงานครับ

Radeon RX 6500 XT

แต่ก่อนจะไปการ์ดจอโน้ตบุ๊ก เรามาดูการ์ดจอเดสก์ทอปน้องเล็กที่ได้ซีนออกโชว์กับเขาเหมือนกัน นั่นคือ Radeon RX 6500 XT แกนประมวลผล 16 CUs, ความเร็วสูงสุด 2.6 GHz เมื่อเทียบประสิทธิภาพในการเล่นเกมแล้ว พบว่าได้ความแรงมากกว่า GeForce GTX 1650

นอกจากนี้ หากเปิดฟีเจอร์ FidelityFX Super Resolution จะสามารถปรับภาพ 1080p Ultra ในเกมระดับ AAA ได้ แถมยังได้เฟรมเรตอยู่ในระดับที่เล่นได้ลื่น ๆ ด้วย

สำหรับกำหนดการเปิดตัวคือ วันที่ 19 มกราคมนี้ ในราคา 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,620 บาทครับ

 

Radeon 6000M Series เพิ่มรุ่นใหม่เข้ามาด้วย

Radeon RX 6000M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊กที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ในรอบนี้ AMD เพิ่มรุ่นท็อปเข้าไปอย่าง Radeon 6850M, รุ่นกลางคือ RX 6650M/6650M XT และรุ่นเล็ก RX 6500M, 6300M

 

Radeon RX 6000S Series

นี่คือการ์ดจอโน้ตบุ๊กซีรีย์ใหม่ ที่เน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงานให้เหมาะกับโน้ตบุ๊กกลุ่ม Ultra-thin หรือกลุ่มพรีเมี่ยมที่เน้นความบางเบา จะประกอบด้วย Radeon RX 6800S, 6700S และ 6600S หากเทียบแล้วก็คือการ์ดจอกลุ่ม Max-Q ของ NVIDIA ครับ

 

Radeon Super Resolution

เทคโนโลยีนี้จะว่าเป็นของใหม่ก็ไม่เชิง แต่มันเป็นการอัปเกรดอีกขั้นหนึ่งของ FidelityFX Super Resolution (ฟีเจอร์อัปสเกลภาพเกมความละเอียดสูง โดยไม่เสียเฟรมเรต) ที่เดิมนักพัฒนาเกมต้องนำฟีเจอร์เข้าไปใส่ในเกมของตัวเอง แต่คราวนี้ AMD ใส่มาให้ในไดรเวอร์รุ่นใหม่ ในเกมที่เปิด Full screen ได้ก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยง่ายเลยครับ

 

SmartShift ยุคใหม่

แต่เดิม AMD เคยเปิดตัวเทคโนโลยี SmartShift ที่ช่วยถ่ายเทพลังงานระหว่างการ์ดจอและซีพียูให้เข้ากับการทำงาน ล่าสุดได้พัฒนาต่ออีกขั้นเกิดเป็น SmartShift Max และ SmartShift Eco ครับ

SmartShift Max จะเน้นในเรื่องการถ่ายเทพลังงานให้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจากการทดสอบจะเห็นว่าได้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า นั่นหมายความว่า เทคโนโลยีนี้จะคอยพิจารณาโหลดของการ์ดจอและซีพียู อันไหนโหลดมากก็จะถ่ายพลังงานให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้แรงขึ้นครับ

ส่วน SmartShift Eco จะคล้าย ๆ กัน แต่เน้นการจัดพลังงานขณะที่เราใช้ไฟจากแบต ช่วยให้การเล่นเกมด้วยไฟจากแบตได้ดีขึ้นครับ

ทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยีที่ AMD นำมาโชว์ในงาน CES 2022 ไว้เดี๋ยวรอดูการทดสอบของจริงกันอีกทีนะครับ

Related articles

รู้จัก DeepSeek: AI น้องใหม่แซงหน้า GPT – ร่วมมือกับ AMD ผนวกเข้ากับ AMD Instinct

พี่จีนทำโลกตะลึงอีกแล้ว ด้วยการเปิดตัว DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับเจ้าตลาดอย่าง OpenAI ChatGPT แถมยังใช้ต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าหลายเท่า...

สรุปงาน CES 2025 – ปีนี้ AMD เปิดตัวอะไรเด็ด ๆ บ้างไปดูกันเล้ยยย !!

งาน CES 2025 ปีนี้ หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยากเห็นเทคโนโลยีน่าตื่นเต้นจากหลาย ๆ ค่าย และในบทความนี้แอดจะพาเพื่อน...

ดูดวงปีใหม่ 2025 แบบฉบับคน IT ด้วย AI ทั้งอ่านไพ่ทาโรต์และวิเคราะห์ Birth Chart

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว วันนี้แอดมีเรื่องน่าสนุก ๆ และหลายคนน่าจะชื่นชอบมาฝาก คือ การดูดวง 55555 แต่สำหรับชาว Extreme...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า