AMD Zen จะเปิดตัวเดือนมกราคมที่ CES 2017 – High-End X370 AM4 Motherboards เริ่มทยอยออกมาเดือน ธันวาคม

AMD Zen CPUs เปิดตัวที่งาน CES 2017 ในเดือนมกราคม, High-End X370 AM4 Motherboards ทยอยออกมาเดือนธันวาคม

หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะไม่แปลกใจเท่าไหร่. ทาง AMD ได้แสดงศักยภาพที่เหนือกว่า i7 6900K ที่มีราคาค่าตัวที่ $1000 ด้วยการแสดงประสิทธิภาพของตัว Zen ออกมาและเรากำลังจะเห็น Summit Ridge CPUs แน่นอนที่งาน CES. และเมื่อเร็วๆนี้ทางเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการผลิต AM4 เพื่อเป็นสต็อกพร้อมเอาไว้. และเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาทางเราก็เริ่มเห็น AM4 motherboards ผลุบๆโผล่ๆออกมา. และนี้เป็นการยืนยันแล้วว่าตัว platform หรือฐานใหม่นี้พร้อมแล้วหากตัวชิปใหม่เปิดตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่เกินต้นปีหน้าแน่นอน.

ตัวบอร์ดที่เราเห็นเร็วๆนี้เป็นเพียงแค่รุ่นพื้นฐาน/entry-level และปานกลาง/mid-range เท่านั้น. ส่วน High-end X370 AM4 motherboards จะถูกส่งออกมาในเดือนธันวาคมและเปิดตัวที่งาน CES. และมีข่าวหลุดออกมาว่าไม่แน่เราจะได้เห็นหน้าตามันก่อน higher-end boards ภายในเดือนนี้.

บรรดาคู่ค้าที่ผลิต Motherboard ต่างออกมาเป็นพยานว่า ประสิทธิภาพนั้นจะเพิ่มมากขึ้นและเห็นแววมาตั้งแต่ต้นปี 2016. การออกแบบนั้นมี semi-custom designs มากขึ้นและบริษัทน้องใหม่ก็ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศจีนมากขึ้นอีกด้วยย. ไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางธุรกิจที่เป็น IP licensing ก็มีมากขึ้น, การรวมบริษัทก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้นและรายได้จากการทดสอบและแพ็ตเก็จจิ่งก็มีหลากหลายมากขึ้น.

AM4 Motherboards และรายละเอียดของ High-End X370

Summit Ridge & Bristol Ridge CPUs & APUs นั้นแชร์ AM4 socket ร่วมกัน. ซึ่งทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของ Bristol Ridge นั้นเห็นภาพได้ชัดขึ้นหากอยากขยับและทำการอัพเกรดไปใช้ high-end Zen “Summit Ridge”. Bristol Ridge APUs เริ่มแล้วที่ส่งไปยังค่ายประกอบคอมต่างๆตั้งแต่เดือนที่แล้ว/OEMs. ส่วนคนที่ถนัดทางด้าน DIY ตัว Bristol Ridge APUs ก็จะมาสนองต่อความต้องการเร็วๆนี้ไม่น่าเกินเดือน พฤษจิกายน ถึงธันวาคมนี้แน่นอน.

ตัว chipsets มีมาทั้งหมดสามรุ่นด้วยกันสำหรับ AM4 socket สำหรับแต่ละตลาด. รุ่น highest end chipset ก็จะเป็น X370. หากคุณกำลังวางแผนที่จะสร้างคอมโดยเอา Summit Ridge เป็นตัวเริ่มกล่าวได้เลยว่า มาไม่ผิดทาง. เพราะ X370 chipset AM4 นั้นยังสามารถรองรับการทำงานร่วมกับ chipsets อีกสองรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่น mid-range และ entry level หรือ “B350” และ “A320”.

Zen FX CPUs ทั้งหมด ที่มาจากตระกูล Summit Ridge จะมาพร้อมแนวทาง หรือ platform security processor ใหม่หมด, รองรับ PCIe 3.0, dual channel DDR4 memory controllers, จำนวน L3 cache ที่มีมากขึ้นและการปรับปรุงทางด้าน storage อัพเดทใหม่ๆ. และยังประกอบไปด้วย USB3.1 และ NVMe. Summit Ridge จะมีมาตั้งแต่รุ่น 8 cores & 16 threads ลดหลั่งไปถึง 4 cores & 8 threads ด้วยกำลังไฟหรือพลังงานที่ 95-65 watts.

AM4’s Key Features

DDR4 Memory
PCIe Gen 3
USB 3.1 Gen2 10Gbps
NVMe
SATA Express

หนทางของ AMD ไปสู่ Zen

Zen น่าจะเป็นตัวเล่นหลักของทาง AMD และเป็นพระเอกชูโรงเลยก็ว่าได้สำหรับปีถัดๆไป. และมันเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทกล้าที่จะขยับมาเล่นในระดับ high-end, มืออาชีพ,และตลาด CPU ตั้งแต่เสียท่าไปกับ Bulldozer microarchitecture เมือ 5 ปีที่แล้ว. Zen มาในมาดใหม่ปฏิวัติแนวทางใหม่ๆจากทาง AMD และในอีกหลายๆด้าน. และเป็น CPU architecture ตัวแรกที่นำเอา simultaneous multithreading มาใช้. และนี้ก็เป็นครั้งแรกกล้าที่จะเทียบเคียงกับทาง Intel โดยนำเอากระบวนการผลิตหรือ process technology ที่ทันสมัยและใกล้เคียงกับทาง Intel มาใช้ตั้งแต่ตัว Athlon สิบปีเห็นจะได้.

ข้อเท็จจริงอันนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้. เพราะมันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000s ที่ทาง AMD’s CPU นั้นถูกทาง Intel กินเรียบเพราะว่าเทคโนโลจีและความก้าวหน้านั้นไม่ทันทาง Intel’s process lead/ความก้าวหน้าทางด้านกระบวนการผลิต. หากมามองดูนวัตกรรมใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ Zen จะเห็นได้ว่า เป็นการพัฒนาและการออกแบบเรียกว่าแถบจะถอดด้ามกันเลยทีเดียว โดยมีนาย Jim Keller เจ้าเดิมเป็นผู้ร่วมพัฒนาและเป็นหัวเรือในการสร้าง Athlon XP และ Athlon64 processors. ซึ่งเป็น CPU ที่ทำชื่อเสียงให้บริษัทมาก่อน.

Zen จะเป็นผู้เล่นและเป็นแนวทางโดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลจีสำหรับ AMD ไปอีกนานและเดิมพันเอาไว้ค่อนข้างสูงมากเสียด้วย. ประธานและกรรมการบริหาร นาง Lisa Su ได้ออกมากล่าวเสริมด้วยว่า ทั้ง Zen และ Polaris นั้นต่างก็เป็นตัวแทนของทางบริษัทที่จะเชิดหน้าชูตาให้บริษัทนั้นกลับมาเป็นคู่แข่งที่สำคัญอีกครั้งในตลาดหลังจากที่เงียบไปเกือบสิบปีเต็ม.

การกลับมาใหม่อีกครั้ง

ทางบริษัทได้ยืนยันเอาไว้ว่าจะนำประสิทธิภาพและขีดความสามารถของในโลกยุคปัจจุบันรวมทั้งการใช้พลังงานที่มีประสิทธิมากขึ้นมาใส่ไว้ใน microarchitectre นี้. สิ่งที่เราได้เห็นและพัฒนาขึ้นมามันอยู่ใน Zen. เพียงแค่ single Zen core/แกนตัวเดียวสามารถให้ประสิทธิภาพเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ Bulldozer core และใช้พลังงานที่น้อยกว่า.

และมันไม่ใช่เพียง core microarchitecture/ตัวแกน อย่างเดียว. เพื่อให้ความเชื่อมั่นของ Zen นั้นมีนำ้หนักมากขึ้นทาง AMD ยังได้พัฒนาและครอบคลุมไปถึงระบบ eco-system/การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน อีกด้วย. ซึ่งมันอยู่ในตัวของ AM4 socket ที่จะมีมาพร้อม system IP ใหม่ๆ. เช่น ระบบ security & encryption IP ใหม่ และ CPU interconnect technology ใหม่ และยังรวมไปถึงบทบาทที่จะเข้าไปหาหรือเข้าไปยังกลุ่ม supercomputing.