Black Myth: Wukong การ์ดจอต้องแรงแค่ไหนถึงเอาอยู่

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมฟอร์มยักษ์แห่งปีอย่าง Black Myth: Wukong โดยตัวเกมจะมาในแนว RPG ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “ไซอิ๋ว” ที่เราทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเมื่อตัวเกมได้เปิดให้ดาวน์โหลดได้เพียงไม่นาน ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเกมเมอร์ โดยมียอดดาวโหลดสูงถึง 10 ล้าน ครั้งบน Steam และมียอดผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุดถึง 3 ล้าน บัญชี นับเป็นสถิติสูงสุดภายในปีนี้

โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น ซุนหงอคง ที่มีความสามารถและพลังมากมาย สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์และสิ่งของได้ ออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงและต่อสู้กับอุปสรรคมากมายระหว่างการเดินทาง เพื่อใช้ในการต่อสู้และแก้ไขปริศนาในแต่ละฉาก รวมไปถึงยังผสานการเล่าเรื่องในวรรณกรรมได้อย่างลึกซึ้ง และมีการออกแบบตัวละครและศัตรูที่ชวนให้ตื่นตา ตื่นใจ การต่อสู้ในฉากต่าง ๆ ที่ท้าทายและยังต้องมีการวางแผน ทำให้ผู้เล่นต้องอินไปกับเนื้อเรื่อง และเกมจะพาผู้เล่นเดินทางผ่านความอันตรายและเผชิญกับสิ่งมีชีวิตลึกลับ เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตำนานซุนหงอคงและชะตากรรมของเขา

และแน่นอนสิ่งที่เกมเมอร์หลายคนได้พบเจอหลังจากเล่นเกมคือสเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่นั้นไม่เพียงพอที่จะปรับความละเอียดสูงเพื่อสัมผัสภาพและเสียงที่เต็มอรรถรส ไม่ว่าจะเป็นการปรับความละเอียดแบบ 4K ที่ความละเอียดสูง ให้ภาพที่สวยงาม แต่เล่นแล้วกระตุก หรือแม้จะปรับลดความละเอียดลงมาที่ 2K และปรับเอฟเฟกเต็มที่ ก็ยังไม่สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น!

ในตอนนี้ เราก็มีผลการทดสอบการ์ดจอสำหรับเล่นเกม Black Myth: Wukong ที่ความละเอียด 2K” หากต้องการปรับเอฟเฟกสูงสุด จะต้องใช้การ์ดจอระดับ “GeForce RTX 4080 SUPER หรือ 4090” ขึ้นไปเท่านั้น!

โดยการ์ดจอที่เรานำมาทดสอบในวันนี้จะเป็น ASUS ROG STRIX RTX4080 Super O16G และ ROGSTRIXRTX4090O24GGAMING

ผลการทดสอบ ASUS ROG STRIX RTX4080 Super O16G

การตั้งค่าการแสดงผล:

• ความละเอียด: 2K, 2560×1440
• Motion Blur: สูง
• Ultra Sampling Clarity: 100
• Ultra High Resolution Sampling: DLSS
• NVIDIA Panoramic Ray Tracing: เปิดใช้งาน : ระดับกลาง (เพื่อให้ได้ความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 60 เฟรมต่อวินาที)
• รายละเอียดภาพ : สูง
• ระดับภาพ: Cinematic
• ได้ FPS เฉลี่ยที่ : 68 เฟรมต่อวินาที

ผลการทดสอบ ROG STRIX RTX4090 O24G GAMING

การตั้งค่าการแสดงผล:

• ความละเอียด: 2K, 2560×1440
• Motion Blur: สูงสุด
• Ultra Sampling Clarity: 100
• Ultra High Resolution Sampling: DLSS
• NVIDIA Panoramic Ray Tracing: เปิดใช้งาน ระดับสูงสุด
• รายละเอียดภาพ : สูงสุด
• ระดับภาพ: Cinematic
• ได้ FPS เฉลี่ยที่ : 70 เฟรมต่อวินาที

บทสรุป

จากผลการทดสอบพบว่าเมื่อใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4080 SUPER เล่นเกมที่ความละเอียด 2K โดยปรับเอฟเฟกต์สูง ก็ยังไม่สามารถทำความเร็วได้ถึง 60 เฟรมต่อวินาที ต้องปรับระดับ Ray Tracing ลงมาที่ “กลาง” จึงจะสามารถทำได้ 68 เฟรมต่อวินาที และหากปรับความละเอียดไปที่ระดับ 4K จะต้องปรับรายละเอียดและ Ray Tracing ลงอีกเพื่อให้ได้เฟรมเรทที่สูงขึ้น

หากใช้การ์ดจอที่ต่ำกว่า GeForce RTX 4080 จะต้องลดความละเอียดหรือปรับเอฟเฟกลงจึงจะสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล แต่ข้อเสียคือรายละเอียดความสวยงามของฉากและตัวละครจะถูดลดลงและไม่คมชัด

ในส่วนของ NVIDIA GeForce RTX 4090 รุ่นเรือธง สามารถเล่นได้ที่ความละเอียด 2K โดยเปิดเอฟเฟกต์สูงสุดและทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 70 เฟรมต่อวินาที และหากปรับความละเอียดไปที่ระดับ 4K จะต้องปรับรายละเอียดและ Ray Tracing ลงอีกเพื่อให้ได้เฟรมเรทที่สูงขึ้น

และสุดท้ายนี้เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างเต็มอรรถรสเราขอแนะนำให้ใช้จอย ROG Raikiri หรือ ROG Raikiri PRO ในการเล่นเพื่อให้การกดท่าโจมตีคอมโบ หรือหลบหลีกการจู่โจมจากบอส และควบคุมตัวละครได้อย่างลื่นไหล ด้วยฟีเจอร์ปุ่มควมคุมที่มากกว่าจอย XBOX ปกติ ทำให้สามารถตั้งค่าในการควบคุมได้มากกว่า

แหล่งที่มา : PCDIY.COM.TW