มีคนสอบถามเข้ามากันอยู่บ่อยๆ นะครับ สำหรับเรื่องการเลือกแรม ว่าจะเลือกพิจารณาจาก Bus หรือค่า CL ดี วันนี้ผมก็มีบทความจาก Crucial มาให้อ่านครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Latency กันอีกเล็กน้อยนะครับ Latency ในแรม มันหมายถึงช่วงเวลาที่ขึ้นตั้งแต่ข้อมูลเข้าไปในแรม จนถึงตอนที่เกิดการส่งออกข้อมูล (ข้อมูลเข้าจนถึงข้อมูลออก)
ซึ่งช่วงเวลานี้ มันเป็นการดีเลย์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่า พอเวลาที่ข้อมูลจะเข้ามาในแรม Memory controller จะสั่งให้มีการจัดพื้นที่เฉพาะ โดยข้อมูลจะต้องวิ่งผ่านช่อง Column Address Strobe ตามจำนวนของ Clock cycle จนไปถึงจุดที่ข้อมูลควรอยู่ แต่อย่าลืมว่า ในแต่ละ Clock cycle ก็มีช่วงเวลาดีเลย์ของตัวเองด้วย
เพราะฉะนั้น Latency ที่เกิด ถ้าจะให้เป็น Latency แบบแท้จริงเลยนะ จะต้องคำนวณจากสมการนี้
True Latency = Clock cycle time (ns) x จำนวนของ Clock cycle (CL)
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าค่า CL ที่เราเอามาพิจารณา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการ คนก็เลยมักจะคิดว่า ถ้าความเร็วเพิ่มขึ้นแล้ว ค่า CL ที่เพิ่มขึ้นตามความเร็ว จะทำให้การขนส่งข้อมูลมันช้าลง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเราต้องพิจารณาตาม True Latency ซึ่งมันก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่เราคิด
สิ่งที่ทุกคนคิด
สิ่งที่เป็นจริง
ทีนี้ผมก็มีตารางจาก Crucial Lab มาให้ดู เป็นการคำนวณตามสมการ เปรียบเทียบในแรมชนิดต่างๆ
จะเห็นว่า ค่า Latency แทบไม่ได้แตกต่างกันมาก ถึงแม้ว่าจะมีค่า CL และบัสที่เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในแรม DDR4-2666 และ DDR3-1333 จะเห็นได้ว่ามันมี True latency เท่ากันที่ 13.50 ns ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบเพื่อเลือกซื้อได้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือประเภทแรม และบัสความเร็วนั่นเอง
ดังนั้น ขอสรุปในตรงนี้ว่า สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกในการเลือกซื้อแรม คือ ความเร็ว หรือบัสแรม ส่วนค่า CAS ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เอามาใช้พิจารณานะครับ ยังไงก็เลือกแรมเร็วไว้ก่อนจะดีที่สุด
ส่วนใครอยากดูค่า Ture latency อื่นๆ สามารถดูได้จากลิ้งค์ Reddit เลยนะครับ
You must be logged in to post a comment.