COMPUTEX 2017: CORSAIR เปิดตัวคียบอร์ดกันน้ำ ชุดน้ำระบบเปิดและ Sync it

งาน COMPUTEX 2017 ปีนี้ถือว่ามีอะไรใหม่ๆมาให้ดูกันเยอะและแถมด้วยกระเป๋าฉีกกันไปตามๆกันเพี้ยบ ตอนนี้เรามาถึงบู๊ธของ CORSAIR ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบทความอันนี้จะยาวเป็นพิเศษ เพราะเค้าจัดมาเยอะจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี่ Sync it

มาเริ่มกันที่อุปกรณ์เสริมกันก่อนเป็นเกมสิมิ่งคีย์บอร์ดชนิดกันน้ำสาดนะไม่ใช้น้ำหก เล่นกันแบบแช่ในน้ำมาให้ดูเลยเป็นรุ่น K68 mechanical keyboard นอกเหนือไปจากการกันน้ำออกแล้ว (เพราะขนาดเข้ายังเข้ายาก) รูปร่างหน้าตาและการใช้งานก็เหมือนกันทั่วไป แต่การกันฝุ่นและน้ำนี้ระดับที่  IP32 กันเลยที่เดียว เพราะเล่นเอายางซิลิโคนใส่ไว้ทุกปุ่มกดบน Cherry MX Red switches (อันนี้เป็นความคิดของ Corsair technology, ไม่ใช่จาก Cherry). มาพร้อมไฟส่องสว่างแต่แบบเฉดเดียวทั้งแผง แต่ก็ยังปรับแต่งได้ในแต่ละปุ่ม.

อีกมุมที่เป็นรุ่น K95 และ K70 LUX ที่คุ้นตากันดี

คีย์บอร์ดอีกรุ่นเป็นรุ่น Strafe RGB MX เคลมเอาไว้ว่าใช้ mechanical key switch ที่เงียบที่สุดในโลกหรือมาพร้อมการเก็บเสียงเป็นตัวแรกของโลก ซึ่งจากข้อเท็จจริงมันเงียบขึ้นถึง 30 เปอร์เซนต์เลยทีเดียวแต่ไม่เงียบสนิท แต่ในด้านความแม่นยำและความเร็วและการตอบสนองยังคงเช่นเดิมตามรูปแบบของเกมส์มิ่งคีย์บอร์ดทั่วๆไปและยังมาพร้อมไฟส่องสว่างที่แป้นและสามารถปรับแต่งได้

มาทางด้านเมาร์สกันบ้าง แน่นอนว่ามีหลากหลายรุ่นซึ่งจำกันไม่หมด แต่ที่เห็นเด่นจริงๆก็ต้องรุ่น Zeus project พร้อมด้วยตัวชาร์ตไฟแบบไร้สายที่สามารถผนึกเข้ากับ mouse pad พร้อมด้วยตัว Qi ซึ่งเมาร์สรุ่นนี้ยังเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปอยู่แบบไร้สาย หากเทียบให้เห็นและเข้าใจกันง่ายๆก็คงจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S6 / 7/8 ที่ชาร์ตไฟไร้สายทำนองเดียวกัน

Corsair Gaming GLAIVE RGB mouse รุ่นนี้ถือว่าออกมาได้ซักระยะแล้ว ตัวเมาร์สพกเซ็นเซอร์ความละเอียดขนาด 16000 DPI พร้อมไฟส่องสว่างเคาะราคามาที่ 70 Euros / 69 USD  ด้านรูปทรงถือว่าพัฒนามาได้เกือบจะร้อยเปอร์เซนต์แล้วเหมาะมือมากโดยเฉพาะหากนำมาเล่นเกมส์

Corsair Gaming VOID RGB Wireless  เป็นหูฟังเกมส์มิ่งแบบไร้สายระยะจากแท่นทำได้ 40 ฟุตเชื่อมต่อโดยทาง USB-connected base station/ตัวแท่น ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz wireless signal, พร้อมด้วยระบบเสียงแบบ Dolby virtual 7.1 channel. ใช้ตัวไดรฟเวอร์ขนาด 50mm ตอบสนองที่ 20Hz – 20Khz พร้อมแรงต้าน 32 Ohms และ 107dB +/- 3dB ความไว. มาพร้อมตัวไมค์ที่สามารถจับเสียงได้ทุกทิศทางพร้อมแรงต้านที่ 2.2k Ohms, ตอบสนองที่ 100Hz – 10kHz และ sensitivity ที่-38dB +/- 3dB. มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน.

อีกมุมจะจัดมุมให้นั่งเล่นเกมส์มุมเล็กๆพร้อมด้วย เก้าอี้เกมส์มิ่งที่นั่งลงไปสบายมากๆเป็นรุ่น T1 RACE Gaming Chairs. มีมาให้เลือกทั้งหมดห้าสีด้วยกัน แถบเหลือง-ฟ้า-แดง-ขาวและดำสนิท เคาะราคามาที่ $350.

หากคุณคิดว่าไฟในคอมเคสคุณนั้นน่าเบื่อ หากมาเห็นตัวจริงที่บู๊ธรับรอง เยี่ยมมันไม่เหมือนใครจริงๆ รุ่น ML Pro 120/140 รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเพลาเป็นแบบแม่เหล็กหรือเรียกว่า magnetic levitation – ไม่ใช MagLev technology, ซึ่งอันนี้เป็นภาษาเฉพาะ เวลาพัดลมทำงานมันจะไม่แตะหรือสัมผัสเพลาหรือเลยแต่พอหยุดหมุนมันจะนั่งอยู่บนของเหลวในเพลา ซึ่งจากการสังเกตุ ถือว่าทำงานได้เงียบจริงๆ. อีกตัวเป็นรุ่น  SP120 RGB ที่มาพร้อมจังหวะไฟและลูกเล่นแสงสีที่แตกต่างไปจากท้องตลาดที่คุณเคยเห็นกัน (ดูที่รูป) ในส่วนของหลอด LEDs ที่ติดตั้งในวงพัดลม สามารถควบคุมได้ในแต่ละดวงได้อย่างอิสระสามารถปรับแต่งจังหวะไฟและสี. และยังทำได้กับรุ่น HD120 ที่มีหลอด LEDs ติดตั้งอยู่ด้านนอกกรอบพัดลม จะสังเกตุได้ว่ารูปแบบไฟนั้นออกมาไม่เหมือนชาวบ้านจริงๆ.

Corsair ยังได้เปิดระบบทำความเย็นรุ่นใหม่อีกรุ่น Hydro Series coolers, พร้อมด้วยหม้อน้ำขนาด 360mm มาพร้อมพัดลมพร้อมระบบไฟส่องสว่าง LED สีขาว แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่ตัวต้นแบบยังไม่ยืนยันว่าจะผลิตขายจริงหรือไม่, มีการอัพเกรดตัวปั้มใหม่ และยังสามารถทำงานได้สอดคล้องเข้าฮาร์ดแวร์ตัวอื่นของทาง Corsair RGB ได้อีกด้วยสำหรับระบบไฟส่องสว่างทั้งหมด.

หม้อน้ำก็มาแล้วคราวนี้มาถึงส่วนของอุปกรณ์เสริมกันบ้างซึ่งจะมาช่วยให้ระบบทำความเย็นด้วยน้ำนั้นมีประสิมธิภาพที่ดียิ่งขึ้น, ทาง Corsaair เปิดตัว liquid cooling water blocks ใหม่,  fittings/ส่วนของการต่อเชื่อมหรือข้อต่อ และรวมถึงหม้อน้ำ.

พร้อมทั้งในส่วนของ CPUs และ graphics cards ก็มีทำออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหรือรูปแบบคอนเซ็ปของคอมเคสแนวใหม่ที่เรียกรุ่นกันว่า Concept Slate และ Concept Curve, วัสดุที่ใช้เกรดพรีเมี่ยม เป็นนิกเกิ้ลและทองแดงแท้ๆสำหรับ water-cooling blocks, ส่วนของข้อต่อก็ทำโคลมเงาวับซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้ทาง alphacool มาร่วมสร้างสรรด้วย.

ยัง…ยังไม่หมดมุมนี้สำหรับนักโมโดยเฉพาะหรือ modders.

ด้านนี้ทาง Corsair จัดโชว์ความเร็ว DDR4 บน X299, เป็นของ Vegeance RGB ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่แถวๆ 4,600MHz, และนี้ยังเป็นแบบ beta BIOS.

อันนี้มาเป็นคันสะท้อนให้เห็นว่าเราใส่ใจทุกชิ้นส่วนของเครื่องคอมโดยเปรียบเทียบกับ muscle car ที่มีแรงม้าพอเพียงแต่แรงบิดมหาศาลสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพสินค้าของ Corsair เรียกโปรเจ็คนี้ว่า ‘Bulldog GTO’.

ด้านเครื่องยนต์เป็นของ MSI Z270-ITX motherboard พร้อมด้วยคาร์บูเรเตอร์ Core i7 7700 processor พร้อมทั้งของแต่งเสริมต่างๆเพื่อความแรง.

ด้านนี้เป็นคอมแบบกึ่งสำเร็จรูป เพราะทางลูกค้ายังสามารถเลือกของแต่งได้อีก ชื่อรุ่น One มาในรูปแบบ pre-built system manufacturer. ออกแบบเส้นสายได้สวยไม่เลอะเทอะพร้อมประสิทธิภาพที่พอตัวทีเดียว-วัดขนาดตัวคอมเคสได้ 7.9 x 6.9 x 14.9 นิ้ว.

ติดตั้งมาให้เสร็จตัวหม้อน้ำขนาด 240mm เพื่อมาทำความเย็นให้กับ CPU และ GPU พร้อมระบบทำความเย็นด้วยน้ำพร้อมด้วยพัดลมรุ่นใหม่ขนาด 140mm maglev ML series หนึ่งตัวติดตั้งไว้ด้านบนเพื่อดึงอากาศเย็นเข้ามาในเครื่องโดยผ่านหม้อน้ำและเป่าออกไปอีกทีทางด้านบน มาพร้อม Core i7 processor และ Nvidia 10-series graphics card. เคาะมาที่ $1,799you ก็จะได้ i7-7700, GTX 1070, และ 240GB SSD + 1TB HDD, อันนี้ราคาเริ่มต้น หากอยากเปลี่ยนและอัพเกรดขึ้นก็คงจะหนาวๆ.

สีแสบๆก็มี

หากถามว่าช่วงนี้ทาง Corsair มีคอมเคสใหม่มาโชว์หรือเปล่า ตอบได้เลยไม่เห็นนอกจากตัวคอนเซ็ปทั้งสองรุ่น หนึ่งในนั้นเป็น Concept Slate, มาในรูปแบบขนาด super-tower PC ออกแบบเส้นสายได้แข็งแรงดูดุดันและสะท้อนถึงอนาคตด้านข้างเปิดปิดแผงด้วยบานพับอลูมิเนียมพร้อมแผงกระจกนิรภัยเต็มแผงรมดำขนาดใหญ๋.

รองรับเมนบอร์ดขนาด E-ATX system,และอีกหนึ่งขนาด mini-ITX system ซึ่งจะเลี้ยงไฟด้วย SFX PSU. ระบบทำความเย็นด้วยน้ำถือว่าเป็นหัวใจหลักของเคสนี้, สามารถยัดหม้อน้ำที่มีความหนาขนาด 60mm-พร้อมด้วยพัดลมทั้งดึงหรือเป่าอากาศ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านบน ในตำแหน่งเดียวกันทำได้ทั้งนั้น.

มาพร้อมตัวรองรับการติดตั้งอุปกรณ์ทุกอย่างที่คุณคิดได้มีหมด รองรับการติดตั้งพัดลมได้ถึง 34 ตัวหากคุณต้องการ. สามารถนำเอาระบบ Corsair Commander Pro lighting และ fan controller/ตัวสั่งงานและควบคุมระบบไฟส่องสว่างและพัดลมมาติดตั้ง มีถังสำรองน้ำติดตั้งมาเสร็จด้านหลัง. และสำหรับช่องที่สองหลังแผงเมนบอร์ดสามารถติดตั้ง 2.5” SSDs ได้เแปดตัวหรือจะติดตั้งไว้ด้านหน้าที่เป็นแผงเปิดปิดก็ยังได้.

มี USB 3.1 Type-C connectors สองชุดและ USB 3.0 connectors สี่ชุดอยู่ด้านแผงหน้า. สรุปคุณสามารถเดินเข้าไปนั่งในคอมเคสนี้ได้ก็แล้วกันถ้าสูงไม่เกิน 160 ทั้งนี้ตัวคอนเซ็ปนี้ยังไม่ถึงขั้นสิ้นสุดในด้านงานดีไซน์