จากการรายงานของนิเคอิ ในญี่ปุ่น พบว่าดีมานด์ของ DRAM ในเดือนเมษายนมีปริมาณลดลง อีกทั้งยังมีซัพพลายออกมามากกว่าความต้องการ นี่อาจเป็นเหตุให้ราคาแรมเริ่มลดลงได้
ในสมัยก่อนนั้น ความต้องการ DRAM มีปริมาณมาก เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟน, เหมืองอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่ม Data centre ทำช่วงเวลาเพียง 2 ปี ราคาแรมพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ ตลาดกลุ่มเหมืองอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมน้อยลง อีกทั้งตลาดสมาร์ทโฟนก็เริ่มถดถอยลงเช่นกัน ทำให้ความต้องการชิปแรมในตอนนี้ มีลดน้อยลง แต่การผลิตยังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ก็เป็นผลให้ราคาของแรมลดลงได้
ในตอนนี้หวังว่าราคาแรมจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ จนอยู่ในราคาที่เหมาะสมก่อนสิ้นปี 2018 นะครับ เพราะผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่ประกอบคอม รู้สึกหนักใจเพราะราคาแรมนี่แหละ แพงกว่าซีพียูเสียอีก -*-
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Overclock3D
You must be logged in to post a comment.