[HOW TO] สอนไลฟ์สตรีมเกมแบบง่าย ๆ ด้วย OBS Studio สำหรับเกมเมอร์มือใหม่

สำหรับบทความนี้ แอดจะมาสอนวิธีไลฟ์สตรีมเกมด้วย OBS Studio แบบง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ที่อยากลองสตรีมเกม จะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ

ดาวน์โหลดโปรแกรม

ให้เพื่อน ๆ เข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรม OBS Studio จาก ลิ้งก์นี้ หลังจากนั้นทำการติดตั้งให้เรียบร้อย ตอนติดตั้งมันจะขึ้นหน้า Wizard ช่วยให้เราตั้งค่าได้เร็ว แต่เราไม่ต้องไปทำตามมันหรอก ปิดหน้าต่างนั้นไปเลยครับ

ตั้งค่าโปรแกรม

เมื่อจัดการติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อย ให้เข้าไปที่ Settings ส่วนที่เราต้องจัดการ มีดังนี้

Stream

ในส่วนนี้จะให้เราเลือกแพลตฟอร์มที่เราต้องการไลฟ์สตรีม หลัก ๆ แอดจะสอนการไลฟ์บนเฟซบุ๊กก่อน แต่เพื่อน ๆ สามารถเลือกแพลตฟอร์มอื่น ๆ กระบวนการน่าจะไม่ต่างกันมาก เอาล่ะในหน้านี้เรายังไม่ตั้งค่ากันในตอนนี้นะ ข้ามไปอันอื่นก่อน

Output

ให้เลือกเป็นแบบ Advanced ไปเลยครับ ซึ่งส่วนที่เราจะได้เข้าไปปรับกันบ่อย ๆ คือ ส่วน Streaming สำหรับตั้งค่าไฟล์สตรีม และส่วน Recording สำหรับการอัดหน้าจอ เนื่องจากในบทความนี้จะขอพูดแค่เรื่องการไลฟ์สตรีม ในส่วน Recording แอดจะไม่ได้พาเข้าไปดูนะครับ

ในส่วน Streaming หัวข้อ Encoder ให้เราเลือกกระบวนการเข้ารหัสวิดีโอที่เราต้องการใช้งาน ซึ่งมีคำแนะนำ ดังนี้

– ถ้าจะสตรีมด้วยซีพียู สำหรับคนที่ใช้ซีพียู Ryzen 5, Intel Core i5 ขึ้นไป ให้เลือก x264 เขาว่ากันว่าคุณภาพของภาพที่ได้ในการสตรีมจะดีที่สุด

– ถ้าจะสตรีมด้วยออนบอร์ดของซีพียู Intel ให้เลือก QuickSync (จะไม่มีให้เลือกในซีพียูเดสก์ท็อปรหัส F และสำหรับซีพียูเดสก์ท็อปจะต้องเข้าไปเปิดการใช้งานการ์ดจอออนบอร์ดด้วยนะครับ)

– ถ้าจะสตรีมด้วยการ์ดจอแยกจากค่าย AMD ให้เลือก AMD HW H.264

– ถ้าจะสตรีมด้วยการ์ดจอ NVIDIA ให้เลือก NVENC

ลองเลือกใช้งานกันดูนะครับว่าเราชอบแบบไหน สำหรับการทดสอบอันนี้แอดจะเลือกเป็น AMD HW H.264 เหตุเพราะใช้โน้ตบุ๊ก Ryzen 5 4600H ถ้าจะใช้ x264 มันจะกินกำลังซีพียูมากเกินไป เลยต้องใช้ออนบอร์ดมาช่วยประมวลผล แต่ภาพที่ได้จะไม่สวยเท่า x264 ครับ

ถัดมาคือหัวข้อ Bitrate แอดมี Magic number อยู่ประมาณนี้ ถ้าอินเทอร์เน็ต 10 MB ให้เลือก bitrate 6,000 ถ้าเน็ต 15 MB ให้เลือก Bitrate 10,000 ถ้าเน็ต 20 MB ขึ้นไปให้เลือก bitrate 12,000-15,000 ประมาณนี้ครับ ถ้า bitrate ต่ำไปภาพก็จะไม่คมไม่สวย ถ้า bitrate สูงกว่าเน็ตบ้าน ภาพที่สตรีมจะแล็กหรือกระตุก ดังนั้น ปรับดี ๆ ล่ะ

หัวข้อถัดมาคือ CPU Usage กรณีที่ใช้ x264 แนวคิดคือ ยิ่งเร็ว ยิ่งกินซีพียูน้อย, ยิ่งช้า ภาพยิ่งสวย ตามนี้เลยครับ ค่ามาตรฐานจะเป็น Veryfast แต่ถ้าเราคิดว่าซีพียูไม่ค่อยไหวก็เลือก Superfast, Ultrafast แต่แลกมาด้วยภาพที่ไม่สวย หรือถ้าใครบอกว่า ข้าใช้ Core i9 มันเหลือ ๆ อยู่แล้ว จะปรับช้า ๆ ก็ได้ไม่ว่ากันครับ

กรณีที่ใช้ Encoder อื่น ๆ Preset ตรงนี้จะเปลี่ยนเป็น Quality, Balance, Speed ถ้าการ์ดจอแรง เราปรับ Quality ไปเลยครับ ภาพจะได้สวย ๆ

Audio

หัวข้อนี้จะเป็นเสียงเข้า-ออก แอดจะขอข้ามไปนะ เพราะคิดว่าน่าจะตั้งค่าไม่ยาก ส่วนมากคือจะเข้าไปตั้งค่าไมโครโฟนกัน เราก็ไปเลือกในหัวข้อ Mic/Axilliary Audio แล้วเลือกไมค์ที่เราจะใช้ หรือถ้าไม่มีก็ปล่อยเป็น Default ไปเลย

Video

หัวข้อนี้จะเป็นการปรับคุณภาพของภาพที่จะสตรีม ต้องบอกก่อนว่า Facebook จะชอบล็อกความละเอียดไว้ไม่ให้เกิน 720p ยกเว้นว่าเราจะสตรีมบ่อย ๆ มันก็จะเริ่มปล่อย 1080p มาให้เราใช้ ซึ่งเราอาจเลือกตั้งค่า Base Resolution เป็นความละเอียดของจอที่เราใช้ ส่วน Output Resolution อาจจะลดคุณภาพของภาพมาเป็น 720p ครับ

ซึ่งการลด Output Resolution จะมีส่วนช่วยในกรณีที่สัญญาณเน็ตไม่ค่อยดี ทำให้มันไม่ต้องส่งภาพความละเอียดสูงไปในการสตรีมมากนัก โดยค่า Bitrate 6000 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ แต่ถ้าใครไฟล์สตรีมในยูทูบ เราอาจจะสามารถปรับ Output Resolution ให้เท่ากับความละเอียดจอภาพได้เลย เพราะยูทูบไม่ค่อยจำกัดความละเอียดอยู่แล้ว

Downscale Filter อันนี้จะเป็นตัวช่วยให้ภาพที่ถูกลดความละเอียด มีความคมชัดมากขึ้น ให้ดูที่ขนาด Samples อย่าง Bicubic 16 samples จะให้ภาพคมชัดน้อยกว่า Lanczos 36 samples ครับ

Hotkey

สำหรับตั้งค่าคีย์ลัดต่าง ๆ ไปลองกำหนดกันเองนะครับ คิดว่าจะมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ซื้อคอนโซล Hotkey มาใช้อยู่แล้ว

ตั้งค่า Sources

หลังจากตั้งค่าการสตรีมแล้ว เราจะต้องมาจัดฉากที่ต้องการให้ขึ้นในไลฟ์สตรีม หลัก ๆ จะเป็นการสตรีมแบบเกมเดียวนะครับ ให้เรากดเครื่องหมาย + ในกรอบ Sources เลย

ในการสตรีมเกมมันจะมีหัวข้อให้เราเลือกใช้กันหลายอย่าง แต่ที่นิยมใช้คือ Game Capture ปกติแล้วมันจะเลือกจับหน้าจอของเกมที่เปิดแบบ Full Screen แต่แอดไม่ชอบแบบนี้เท่าไร (ไม่เชื่อมั่นว่ามันจะเลือกให้เราได้เอง) แอดจึงเปลี่ยน Mode เป็น Capture Specific window

จะปรากฏหัวข้อถัดมา คือ Window ซึ่งตรงนี้เราสามารถกดเลือกได้ว่า จะให้ Sources แสดงหน้าต่างเกมไหนออกมา แอดจะเล่นเกม DOTA 2 ก็จะเลือก Window เป็น DOTA 2 ครับ (จะต้องเปิดเกมเตรียมไว้ก่อนที่จะมาตั้งค่า Sources นะ) จากนั้นกด OK

ทีนี้ตรงหน้าจอใหญ่ของ OBS จะปรากฏหน้าต่างเกมของเราขึ้นมา ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถปรับขนาดของหน้าต่างเกมได้ว่าจะให้มันยืดหดอยู่ส่วนไหนของจอ

ถัดมาอีกอันหนึ่งสำหรับสายเปิดกล้องไลฟ์เกมด้วย ให้เราต่อกล้องให้เรียบร้อย หรือจะใช้กล้องเว็บแคมก็ได้ จากนั้นในส่วนของ Sources ให้เลือก Video capture device

มันจะปรากฏหน้าต่างขึ้นมา ให้เราเลือก Device เป็นกล้องของเรา จากนั้นกด OK เท่านี้ก็จะมีหน้าต่างของกล้องขึ้นมาซ้อนอยู่บนหน้าต่างเกม แถมยังสามารถปรับขนาดหรือย้ายตำแหน่งหน้าต่างกล้องได้ด้วย

เริ่มไลฟ์สตรีมได้ !!

เอาล่ะ กลับไปที่ Settings อีกครั้ง ให้เลือก Stream แล้วเลือกแพลตฟอร์ม Facebook Live ในส่วนของ Server ให้ใช้เป็น Default จากนั้นกดปุ่ม Get Stream Key ในหัวข้อ Stream Key

มันจะเด้งขึ้นไปที่หน้า Facebook ของเรา ให้เราเลือก Go Live แล้วจะปรากฏหน้าต่างสำหรับจัดการไลฟ์สตรีม ในนั้นจะมี Stream Key อยู่ เป็นตัวอักษรและตัวเลข ให้เรา Copy มาเลยครับ

นำ Stream Key มาใส่ในช่องว่างของหัวข้อ Stream Key ใน OBS จากนั้นกด OK เพื่อปิดหน้าต่าง Settings 

เมื่อทุกอย่างพร้อมให้กด Start Streaming ได้เลย !!

เมื่อเริ่มไลฟ์แล้วให้เรากลับไปเช็กใน Facebook มามันเริ่มสตรีมหรือยัง ถ้ามันขึ้นว่ากำลังไลฟ์และเราเขียนแคปชันต่าง ๆ เสร็จแล้ว ก็กดปุ่ม Go Live บน Facebook ได้เลยครับ

เอาล่ะทั้งหมดนี้คิดว่าน่าจะเป็นขั้นตอนการไลฟ์สตรีมเกมที่ง่ายมาก ๆ สำหรับมือใหม่ทุกคนนะครับ ยังไงก็ไปลองใช้กันดู สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะครับ