เปรียบเทียบการขุด Ethereum ในโหมด Compute และ Graphics ของ Radeon Adrenalin – จะเพิ่มกำลังขุดได้จริงหรือไม่?

จากคราวที่แล้ว ผมได้ลองทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมของไดรเวอร์ Radeon Adrenalin กับเกม Need for Speed: Payback ไปแล้วนะครับ (อ่านบทความย้อนหลังได้ที่ “ทดสอบการเล่น Need for Speed: Payback ด้วยไดรเวอร์ Radeon Adrenalin – เฟรมเรตจะเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ มาดูกันเลย“) คราวนี้เรามาดูฟังก์ชัน Compute Profiles กันบ้าง

Compute Profiles เป็นฟังก์ชันใหม่ของไดรเวอร์ Adrenalin จะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการ์ดจอ ให้เน้นไปทางด้านการคำนวณมากขึ้น และนั่นทำให้การ์ดจอของ AMD เมื่อเปิดใช้ Compute Profiles จะสามารถทำการขุดเหรียญ cryptocurrency ต่างๆ ด้วยกำลังขุดที่เยอะขึ้นนั่นเอง

จากการนำเสนอของ AMD บอกว่า Compute Profiles นี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขุด Ethereum ได้ถึง 15% เลยทีเดียว (เพิ่มขึ้นประมาณ 3.3 MH/s) เพราะฉะนั้น วันนี้ผมจะมาทดสอบให้ดูว่า Compute Profiles ของ Radeon Adrenalin มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขุด Ethereum ได้จริงอย่างที่ AMD โฆษณาไว้หรือไม่ ไปดูกันเลยครับ

สำหรับการ์ดจอที่ผมนำมาทดสอบในครั้งนี้คือ AMD Radeon RX 470 4GB เจ้าเก่า และใช้ไดรเวอร์ Radeon Adrenalin 17.12.1 ครับ

ในการทดสอบ ผมจะเปรียยบเทียบระหว่างโหมดกราฟิก และโหมดคำนวณ (Compute) ที่มีมาให้ใน Radeon Settings ส่วนการขุด Ethereum ผมจะใช้โปรแกรม Claymore Miner 10.2 โดยใช้พูลของ ethpool.org และใช้เซิร์ฟเวอร์พูลของเอเชียครับ

เริ่มต้นกันที่โหมดกราฟิกกันก่อน ผมจะเข้าไปตั้งค่าโปรแกรม Radeon Settings ในส่วนของการเล่นเกม แล้วเข้าไปที่การตั้งค่าโกลบอล (Global settings) ครับ

ในแถบกราฟิกโกลบอล ให้มองหา “ปริมาณของ GPU” ซึ่งมันจะมีการเซตค่าเริ่มต้นไว้ที่กราฟิก ตรงนี้แสดงว่าเรากำลังใช้โหมดกราฟิกนะครับ แล้วผมก็จะเริ่มขุด Ethereum ในลำดับถัดไป

ผลที่ได้ ดังภาพข้างล่างนี้เลยครับ

จะเห็นได้ว่ากำลังขุดจะอยู่ที่ประมาณ 18 MH/s

จากนั้นก็กลับไปตั้งค่า “ปริมาณของ GPU” ให้เลือกการคำนวณ (Compute) เพื่อเปิดเป็น Compute Profiles แล้วโปรแกรมจะถามว่าต้องการให้รีสตาร์ตโปรแกรมใหม่หรือไม่ เราก็กด “ใช่” ไปเลยครับ มอนิเตอร์จะดับไปแป๊ปหนึ่ง แล้วโปรแกรม Radeon Settings ก็จะรีสตาร์ตขึ้นมาใหม่

จากนั้นผมจะเริ่มขุด Ethereum ซึ่งผลที่ได้ เป็นดังภาพข้างล่างนี้ครับ

กำลังขุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21 MH/s ซึ่งถ้าเทียบกับในโหมดกราฟิก จะพบว่าโหมดการคำนวณ หรือ Compute Profiles นี้ เพิ่มค่ากำลังขุดได้อีก 3 MH/s หรือคิดเป็น 14-15% ครับ

เพราะฉะนั้น ถือว่าที่ AMD โฆษณาไว้ มันก็เป็นเรื่องจริงครับ ได้กำลังขุดเพิ่มขึ้นมาจริงๆ ถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียว

ทีนี้ ถ้าใครสงสัยว่าโหมดกราฟิก และโหมดการคำนวณ จะเล่นเกมได้แตกต่างกันไหม ผมก็ได้ลองทดสอบกับเกม Need for Speed: Payback เหมือนเดิมครับ โดยเล่นที่ความละเอียดระดับ 1600×900 ตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Ultra

ซึ่งได้ผลลัพธ์ดังนี้ครับ

จะเห็นได้ว่าโหมดกราฟิก จะให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมดีกว่าโหมดการคำนวณ อยู่ประมาณ 6 FPS ครับ ก็ถือว่าไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร แต่ในระหว่างที่เล่นเกม ผมรู้สึกว่าเกมในโหมดการคำนวณมันกระตุกเยอะกว่าโหมดกราฟิกเล็กน้อย

สรุปก็คือการเปิด Compute Profiles ใน Radeon Adrenalin ซึ่งเป็นไดรเวอร์ใหม่ของ AMD ช่วยให้กำลังขุดเหมืองเพิ่มขึ้นจริง ตรงนี้ผมลองทดสอบกับเหมือง Ethereum เท่านั้นนะครับ ไม่รู้ว่าเหรียญอื่นจะเพิ่มขึ้นมากน้อยขนาดไหน ถ้าใครลองแล้ว ก็คอมเมนต์บอกผลลัพธ์กันได้นะครับ ^^

Related articles

รู้จัก DeepSeek: AI น้องใหม่แซงหน้า GPT – ร่วมมือกับ AMD ผนวกเข้ากับ AMD Instinct

พี่จีนทำโลกตะลึงอีกแล้ว ด้วยการเปิดตัว DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับเจ้าตลาดอย่าง OpenAI ChatGPT แถมยังใช้ต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าหลายเท่า...

สรุปงาน CES 2025 – ปีนี้ AMD เปิดตัวอะไรเด็ด ๆ บ้างไปดูกันเล้ยยย !!

งาน CES 2025 ปีนี้ หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยากเห็นเทคโนโลยีน่าตื่นเต้นจากหลาย ๆ ค่าย และในบทความนี้แอดจะพาเพื่อน...

ดูดวงปีใหม่ 2025 แบบฉบับคน IT ด้วย AI ทั้งอ่านไพ่ทาโรต์และวิเคราะห์ Birth Chart

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว วันนี้แอดมีเรื่องน่าสนุก ๆ และหลายคนน่าจะชื่นชอบมาฝาก คือ การดูดวง 55555 แต่สำหรับชาว Extreme...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า