[Extreme History] ย้อนดูพัฒนาการการ์ดจอตัวท็อปจาก AMD และ NVIDIA ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

วันนี้แอดมีบทความ Extreme History น่าสนใจ สำหรับคนที่ชอบติดตามพัฒนาการของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เรามาดูกันว่าตลอด 10 ปีของการพัฒนาการ์ดจอตัวท็อปจากค่าย AMD และ NVIDIA มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

เรามาเริ่มต้นแบบกราฟกันก่อนนะครับ จริง ๆ มันมีกราฟหลายอัน แต่ผมขอหยิบยกมาแค่บางอันที่น่าสนใจและมองเห็นภาพการพัฒนาได้ง่าย โดยจะมีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของตัวท็อปที่อยู่ใน Tier ใกล้เคียงกัน มาดูกราฟประสิทธิภาพกันก่อนเลยครับ

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ยุค Radeon HD 5870/GTX 480 มาถึงยุค Fury X/GTX 980 Ti ประสิทธิภาพทั้งสองค่ายสูสีกันมาก แต่พอมาในยุคของ Radeon RX Vega 64 รู้กันดีว่าประสิทธิภาพไม่สามารถสู้ GTX 1080 Ti ได้ กว่าจะมีสูสีกันก็ต้องรอมาที่ยุคของ Radeon RX 6000 Series ที่มีประสิทธิภาพพอ ๆ กับ RTX 3080 ครับ

ถัดมาที่กราฟการใช้พลังงาน NVIDIA จะไปมีจุดบอดในช่วง GTX 400 Series ที่กินไฟมากจากการออกแบบที่ผิดพลาด แต่พลังจากนั้นเมื่อ AMD เข้าสู่ยุค GCN ตัวแรกใน HD 7979 ทำประสิทธิภาพได้แรงจริง แต่ก็กินไฟเยอะกว่าค่ายเขียวมาตลอด จนเพิ่มมาคืนตัวได้ในยุค RX 5000/6000 Series ครับ

ประสิทธิภาพต่อราคา ในช่วงแรกเรื่องประสิทธิภาพต่อราคาของทั้งสองค่ายไม่ได้ต่างกันมากนัก จนกระทั่งในช่วงของ GTX 900 Series/GTX 10 Series ที่ AMD ไม่สามารถสู้การ์ดจอเหล่านี้ได้ ทำให้ AMD เน้นในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพครับ และก็เป็นเช่นนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

บางคนจะสงสัยว่าแล้ว Radeon RX 400/500 Series หายไปไหน ทำไมไม่นำมานับรวม ย้อนกลับไปช่วงการเปิดตัวของ GeForce GTX 10 Series ที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2016 ตอนนั้น AMD หันไปทำตลาดการ์ดจอระดับกลาง โดยเปิดตัว Radeon RX 400 Series ในปี 2016 และตามมาด้วย RX 500 Series ในเดือนเมษายนปี 2017 หลายคนงงว่า AMD จะไม่ทำการ์ดจอตัวท็อปมาสู้กับ GTX 1080 Ti เลยเหรอ นั่นทำให้ AMD ต้องเข็น RX Vega Series ออกมาในเดือนสิงหาคม 2017

ดังนั้น การ์ดจอตัวท็อปของ AMD จึงหายไปช่วงหนึ่งหลังจาก R9 Fury X ในปลายปี 2015 แล้วกระโดดมาที่ RX Vega ในกลางปี 2017 เลย ซึ่งในลำดับถัดไปจะมาเทียบให้ดูว่าแต่ละซีรีย์เป็นอย่างไรบ้าง

 

AMD Radeon HD 5000 vs NVIDIA GeForce GTX 400 Series

AMD ในเวลานั้นใช้สถาปัตยกรรม Terascale 2 ในขณะที่ NVIDIA ใช้สถาปัตยกรรม Fermi ความแรงและราคาไม่ได้ต่างกันมาก แต่ Fermi ดันมีการออกแบบผิดพลาดไปนิด มียูนิตในชิปกราฟฟิกบางตัวที่ไม่จำเป็นสำหรับการเล่นเกม (เป็นยูนิตของคอม HPC มากกว่า) ก็เลยทำให้มันกินไฟและร้อนกว่าของ AMD ครับ

 

AMD Radeon HD 6000 vs NVIDIA GeForce GTX 500 Series

ถัดมา NVIDIA นำ Fermi กลับไปยกเครื่องใหม่ ทำให้มันใช้พลังงานลดลงกว่าเดิม ในขณะที่ AMD จะใช้ Terascale เป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว ผลคือ GTX 500 Series มีประสิทธิภาพดีกว่าอยู่ประมาณหนึ่ง ดังนั้น AMD จึงใช้แผนลดราคาทำให้การ์ดจอค่ายแดงยังคงเป็นที่นิยมเช่นเดิมครับ

 

AMD Radeon HD 7000 vs NVIDIA GeForce GTX 600 Series

หลังจาก AMD ก็รีบเข็นสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง GCN ส่วน NVIDIA ก็เปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรม Kepler ซึ่งคราวนี้ค่ายเขียวยึดในเรื่องการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ทำให้ถึงแม้ AMD Radeon HD 7970 จะแรงกว่าก็จริง แต่เรื่องการกินไฟของ GTX 600 Series ยังน้อยกว่าครับ

 

AMD Radeon R200 vs NVIDIA GeForce GTX 700 Series

ต่อมา AMD ออกการ์ดจอ R9 290X ซึ่งทำประสิทธิภาพได้ดีในแง่ของความแรง สามารถเอาชนะการ์ดจอ GTX 780 และ Titan ตัวแรกได้เลย (แต่ก็ต้องแลกมากับการกินไฟและความร้อน) แน่นอนว่าค่ายเขียวคงไม่นิ่งนอนใจรีบส่ง GTX 780 Ti ออกมาแก้เกม ปรากฏว่าประสิทธิภาพและราคาพอ ๆ กับ R9 290X แต่กินไฟน้อยกว่า ทำให้ NVIDA ชนะในเรื่องนี้ไปครับ

 

AMD Radeon R300 vs NVIDIA GeForce GTX 900 Series

ยุคนี้ล่ะที่ NVIDA โหดจริง การ์ดจอสถาปัตยกรรม Maxwell ทำออกมาได้ดีทั้งความแรงและการใช้พลังงาน ในช่วงแรกที่มีข่าวลือออกมา AMD น่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ดันไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เจอกับ R200 ดันส่งการ์ดจอกลุ่ม R9 Fury ออกมา (ชิป Fiji) ซึ่งนอกจากจะร้อนและกินไฟแล้ว ยังไปใช้แรม HBM ที่มีราคาแพง และมีขนาดเพียงแค่ 4GB ในขณะที่ GTX 980 Ti ให้แรมมา 6GB ค่ายแดงจึงไม่สามารถเอาชนะได้ทั้งประสิทธิภาพ ความร้อน การใช้พลังงาน และราคาครับ

 

AMD Radeon RX Vega vs NVIDIA GeForce GTX 10 Series

หลังจากที่เว้นช่วงไปทำการ์ดจอระดับกลาง ทั้ง Radeon RX 400/500 Series หลายคนเลยเรียกร้องให้ Raja Koduri สมัยที่อยู่กับ AMD ทำการ์ดจอตัวท็อปออกมาหน่อย (เพราะ GTX 10 Series ลอยลำไปแล้ว) หลังจากนั้นก็มีข่าวลือเรื่อง Vega ออกมาเรื่อย ๆ แต่แล้ว NVIDIA ก็สกัดดาวรุ่งด้วย GTX 1080 Ti ที่แรงโหดมากในตอนนั้น

ผมได้มีโอกาสมาติดตามข่าวคอมในช่วงนั้น เพราะเพิ่งมาเป็นนักเขียนในห้กับเพจใหม่ ๆ จำข่าวลือของ Vega ได้ว่าจะแรงสู้กับ GTX 1080 Ti ได้เลย แน่นอนมัน Hype แรงมาก แต่สุดท้าย RX Vega 64 ก็ทำความแรงได้แค่ GTX 1080 แถมยังร้อนและกินไฟอีก ทำให้มันไม่ค่อยได้รับความนิยมในเหล่าเกมเมอร์ แต่กลายเป็นที่นิยมของชาวเหมืองแทน ด้วยแรม HBM 2 ของมัน

 

AMD Radeon RX 5000 vs NVIDIA GeForce RTX 20 Series

เมื่อเริ่มจับทางได้ AMD ก็ได้พัฒนาการ์ดจอสถาปัตยกรรม RDNA ออกมา นำโดย RX 5700 XT ซึ่งมีการจัดการพลังงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมและความแรงพอที่จะสู้กับ NVIDIA ได้ แม้จะไม่สามารถเอาชนะการ์ดจอตัวท็อปอย่าง RTX 2080 Ti ได้ก็ตาม

ทั้งนี้ NVIDIA ก็ไม่น้อยหน้า ได้สร้างความตะลึงให้กับวงการการ์ดจอด้วยการนำแกนประมวลผล RT Core สำหรับระบบ Real-time Ray Tracing และ Tensor Core เพื่อประมวลผล AI สำหรับฟีเจอร์ DLSS ทำให้ตอนที่มันมาใหม่ ๆ ใคร ๆ ก็พูดถึงแต่การ์ดจอ RTX กันทั่วบ้านทั่วเมือง

 

AMD Radeon RX 6000 vs NVIDIA GeForce RTX 30 Series

สุดท้ายกับสถาปัตยกรรมล่าสุด AMD RDNA 2 และ NVIDIA Ampere ทั้งสองค่ายสู้กันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และนับว่าเป็นการกลับมาที่น่าสนใจของ AMD เมื่อ Radeon RX 6800 XT สามารถทำประสิทธิภาพได้สูสีกับ RTX 3080 ในราคาพอ ๆ กัน ส่วนตัวท็อปอย่าง RTX 3090 และ RX 6900 XT ก็ผลัดกันขึ้นอันดับ 1 ในแต่ละเกมครับ

ใครชอบค่ายไหน และมีประสบการณ์ในการใช้การ์ดจออย่างไรบ้างในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ลองเล่าให้ฟังในคอมเมนต์กันหน่อยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wccftech

Related articles

“อุปกรณ์ IoT” “ภัยเงียบที่เสี่ยงคุกคามบ้านคุณ?

ในยุคที่เทคโนโลยี IoT เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะ กล้องวงจรปิด หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน...

MSI ก้าวสู่ยุคใหม่ Next-Level AI PC พร้อมเปิดตัวโน้ตบุ๊กขุมพลัง AMD Ryzen™ AI 300 Series

11 พฤศจิกายน 2567 MSI ประเทศไทย แบรนด์พรีเมียมโน้ตบุ๊กชั้นนำ ประกาศวางจำหน่ายโน้ตบุ๊ก AI ระดับสูงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล...

[HOW TO] ใช้กล้องมือถือแทนเว็บแคม ภาพโคตรชัดแถมใช้ฟรี !! ด้วย Camo Studio

อยากได้เว็บแคมกล้องชัด ๆ แบบมือถือที่ใช้ ต้องลองแอปฯ นี้เลยครับ Camo Studio เปลี่ยนกล้องมือถือให้กลายเป็นเว็บแคม อัดคลิปทำคอนเทนต์บนคอมได้ง่าย...

STEELSERIES ยกทัพสินค้าใหม่เอาใจสายเกมเมอร์

เปิดตัว ARCTIS GAMEBUDS™ WIRELESS GAMING EARBUDS หูฟังไร้สายที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการเล่มเกม ดูหนัง ฟังเพลง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า