ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงปี 2005-2010 hi5 คือหนึ่งในเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จน Facebook ได้เข้ามาชิงตลาดในภายหลัง เพราะฉะนั้น วันนี้ใน Extreme History ผมจะพาเพื่อน ๆ ย้อนวันวานไปดูเรื่องราวดี ๆ ของ hi5 กันครับ
Hi5 ถูกสร้างขึ้นในปี 2003 โดย Ramu Yalamanchi ซึ่งเขาต้องการปรับปรุงรูปแบบการโฆษณาบนเว็บไซต์ ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น จากเดิมที่เป็นการโฆษณาผ่านแบนเนอร์ จนก่อกำเนิดเป็นเว็บไซต์ hi5 ที่ยังสามารถเพิ่มเพื่อนที่รู้จัก สร้างอัลบั้มรูปภาพ และพูดคุยกันผ่านหน้าโปรไฟล์ คล้าย ๆ กับการสร้าง Portfolio ส่วนตัวครับ
ภายในปีแรกหลัง hi5 ถือกำเนิด สามารถทำรายได้ให้กับ Yalamanchi และทีมงาน โดยมีมูลค่าถึง 250,000 ดอลลาร์ จุดเด่นของ hi5 ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนในช่วงเวลานั้น คือการเพิ่มเพื่อนและการพูดคุยกันบนบอร์ดที่หน้าโปรไฟล์, การอัปโหลดรูปภาพ, การแชร์ไฟล์ต่าง ๆ, หรือการเขียนเรื่องราวหรือนิยายลงไป อีกทั้งยังสามารถสร้างโปรไฟล์ขึ้นในลักษณะของกลุ่มแฟนคลับ โดยมีเจ้าของโปรไฟล์นั้นทำหน้าที่เป็น “แอดมิน” แล้วให้สมาชิกเพิ่มเพื่อนเข้ามา เพื่ออัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองสนใจ
แต่สิ่งที่น่าจะดึงดูดวัยรุ่นชาวไทยในยุคนั้น คือความสามารถในการปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ด้วยโค้ด (ไม่แน่ใจว่าใช้โค้ด php หรือเปล่านะ) ทำให้โปรไฟล์ของแต่ละคนมีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง บ่งบอกความชื่นชอบของตนเอง ซึ่งการปรับแต่โดยใช้โค้ด สามารถทำได้ตั้งแต่การเปลี่ยนพื้นหลัง ไปจนถึงการฝังโค้ดของเพลง, คลิปวิดีโอ, สไลด์รูปภาพ, เปลี่ยนรูปร่างของเคอร์เซอร์เมาส์, โปรยกากเพชรบนหน้าโปรไฟล์ต้อนรับผู้เข้าชม และอื่น ๆ อีกมากมาย คือตอนนั้น hi5 กลายเป็นพื้นที่ให้วัยรุ่นได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ความนิยมของ hi5 พุ่งสูงสุดในปี 2007 โดยขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจาก Myspace เท่านั้น แต่หารู้หรือไม่ว่าคู่แข่งที่แท้จริงกำลังเติบโตอย่างเงียบ ๆ มันคือ Facebook นั่นเองครับ ซึ่งภายในปี 2008 เว็บไซต์ hi5 ก็ร่วงลงมาอยู่อันดับ 3 โดย Facebook ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 อย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้น hi5 ก็ยังได้รับความนิยมในแถบละตินอเมริกาและเอเชีย
จนกระทั่งในปี 2009 ความนิยมของ hi5 เริ่มเสื่อมลง หลังจากที่มีการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ จากเดิมที่ทำเป็นโปรไฟล์ส่วนตัว กลายเป็นเน้นการทำเว็บแบบอวาตาร์ อีกทั้งยังไม่สามารถปรับแต่งหน้าโปรไฟล์ได้ คือส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่การเปิดให้ปรับแต่งหน้าเว็บนั้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพการเข้าชม รวมไปถึงกระทบต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วย (ใครเพิ่มวิดเจ็ตลงไปเยอะ ๆ เข้าหน้าโปรไฟล์ทีนึงคอมจะอืดมาก ๆ)
แต่สิ่งสำคัญคือ hi5 โฟกัสไปที่การเป็นเว็บไซต์ Social-network game คือจากเดิมที่เน้นการพูดคุยกันของผู้คนในแวดวง กลายเป็นเน้นให้บริการการเล่นเกม และเปิดให้ผู้พัฒนาเกมสร้างเกมลงบนแพลตฟอร์มของตัวเองด้วย ทำให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบการเล่นเกม เริ่มหันเหไปใช้ Facebook มากขึ้น
hi5 ถูกสับเปลี่ยนเจ้าของมาหลายเจ้า ซึ่งในปี 2017 hi5 ได้ถูกเข้าซื้อโดย The Meet Group ในมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ และเป็นเจ้าของเว็บไซต์ในปัจจุบัน
สำหรับ hi5 ของผมตอนนี้เข้าใช้ไม่ได้แล้ว เพราะอีเมลที่ใช้สมัครดันมีปัญหา แต่ถ้าเพื่อน ๆ ยังเข้าใช้งานได้อยู่ หรือมีภาพเว็บไซต์ในยุคแรก ๆ ก็คอมเมนต์บอกเล่ากันได้เลยนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://mashable.com/2006/07/16/hi5-another-massive-social-network/
You must be logged in to post a comment.