[Extreme History] ไวรัสสุดร้ายแรง “I LOVE YOU” – เพราะอาจารย์ไม่ให้ผมผ่าน Thesis

หลังจากที่ห่างหายจากบทความในซีรีย์ Extreme History ไปนาน วันนี้ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับ “ไวรัสคอมพิวเตอร์” มาให้อ่าน เชื่อว่าต้องมีคนรู้จักมันในชื่อ ไวรัส ILOVEYOU ซึ่งเคยสร้างความเสียหายแก่วงการคอมพิวเตอร์อย่างมหาศาล แต่รู้หรือไม่ว่าจุดเริ่มต้นของมันมาจากความผิดหวังที่อาจารย์ไม่ยอมรับธีสิสของนักศึกษามหาวิทยาลัยครับ

จดหมายรัก บุก !!

ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2000 (ปี 2543) คอมพิวเตอร์ทั่วโลกกำลังถูกรุกรานด้วยไวรัสคอมพิวเตอร์ ในตอนนั้นมันถูกเรียกว่า Love Bug ภายใน 1 วันหลังจากที่มันถูกปล่อยออกมา มีคอมพิวเตอร์กว่า 3 ล้านเครื่องติดเชื้อ ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นไวรัสที่เพิ่มจำนวนเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา

การทำงานของไวรัสตัวนี้ไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ เหยื่อจะได้รับอีเมลที่มีชื่อว่า I Love You ภายในอีเมลจะมีไฟล์แนบที่ตั้งชื่อไว้ว่า Love-Letter-For-You.txt ทันใดที่เหยื่อเปิดไฟล์แนบนี้ขึ้นมา โค้ดภายในจะเพิ่มจำนวนตัวเองขึ้นแล้วสร้างอีเมลแบบเดียวกันส่งต่อไปให้เพื่อนที่อยู่ใน Address book

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมแค่ไฟล์ Text (.txt) ถึงสร้างความเสียหายได้ขนาดนี้ แท้จริงแล้วนามสกุลไฟล์จริงของมันนั้นคือ .vbs ซึ่งเป็นนามสกุลของสคริปต์ที่ใช้ควบคุมระบบบน Windows เนื่องจากนามสกุลจริงถูกซ่อนเอาไว้ แล้วโปรแกรมสแกนไวรัสในเวลานั้นยังไม่รู้จักไวรัสตัวนี้ จึงไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติของไฟล์สคริปต์นี้ได้ จนสุดท้ายคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะติดเชื้อจนกู่ไม่กลับ

ส่วนไวรัสที่เข้ามาอยู่ในคอม มันจะค้นหาไฟล์จำพวกรูปภาพหรือไฟล์เพลง MP3 แล้วแทนที่ด้วยไฟล์ Love-Letter-For-You.txt ของตัวเอง สุดท้ายไวรัสจะขโมยรหัสผ่านของ Windows เครื่องนั้นส่งกลับไปยังฐานข้อมูลต้นทาง

ไวรัสถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์กว่า 45 ล้านเครื่องทั่วโลกภายใน 1 สัปดาห์ แต่ไวรัสนี้กลายเป็นประเด็นร้อนมากขึ้นเมื่อมันสามารถแทรกซึมไปยังระบบที่น่าจะปลอดภัยที่สุดในโลก ใช่แล้วครับ – คอมพิวเตอร์ของกองทหารสหรัฐฯ ในตึกเพนตากอน ถูกโจมตีด้วยไวรัส I Love You ที่ส่งมาในอีเมล

มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไวรัสตัวนี้ประมาณกันว่าอยู่ในหลักพันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการพัฒนาโปรแกรมของนักศึกษาหนุ่มอายุ 24 ปี และเขาสร้างมันขึ้นมาเพราะต้องการพิสูจน์ให้อาจารย์เห็นว่าธีสิสของเขานั้นใช้งานได้จริง !!

 

เพราะอาจารย์ไม่เห็นด้วยกับธีสิสของผม…

Onel de Guzman นักศึกษาจากวิทยาลัย AMA Computer College เขาได้ส่งร่างวิทยานิพนธ์หรือธีสิสให้กับอาจารย์ที่ปรึกษา โดยธีสิสนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ “ขโมยรหัสผ่าน Windows แล้วเข้าใช้อินเทอร์เน็ตจากเครื่องของเหยื่อ”

Onel de Guzman

Onel ยังให้การเพิ่มเติมว่าในเวลานั้นอินเตอร์เน็ตในฟิลิปปินส์ยังเป็นแบบรายชั่วโมง เหมือนเน็ตบ้านโมเด็มของไทยเรานี่แหละครับ ซื้อบัตรมาเติมชั่วโมง แถมยังมีราคาแพงมาก ในขณะที่คอมพิวเตอร์ทางฝั่งอเมริกาและยุโรปเป็นแบบจ่ายรายเดือน มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถเข้าถึงคอมของคนในทวีปเหล่านั้น เราก็จะได้ใช้อินเทอร์เน็ตได้นานขึ้นโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงิน

ทว่าอาจารย์ที่ปรึกษากลับปฏิเสธธีสิสชิ้นนี้ โดยบอกว่า “สถาบันของเราไม่ได้ผลิตขอทาน และนี่คือสิ่งผิดกฎหมาย” เท่านั้นล่ะครับ Onel เลยตั้งใจที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าธีสิสของเขาคือการช่วยเหลือคนฟิลิปปินส์ ไม่ได้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด จนเป็นจุดกำเนิดของ Love Bug ไวรัสกลุ่ม Worm ที่ร้ายแรงที่สุดตัวหนึ่งในโลกคอมพิวเตอร์

คาดว่า Onel และเพื่อนได้จัดส่งไวรัสตัวนี้ไปยังรายชื่ออีเมลต่าง ๆ โดยใช้จ่าหน้าอีเมลว่า I Love You ลองคิดดูว่าในยุคนั้นถ้าเราได้รับอีเมลสักฉบับมันน่าดีใจขนาดไหน ยิ่งตั้งชื่อล่อใจว่า I Love You หนุ่มสาวชาวโสดหลายคนคงหักห้ามใจไม่ไหวว่าใครน้าแอบรักเราอยู่

หลังจากที่ไวรัสเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วจนเกินต้านทาน อาจารย์ที่ปรึกษาของ Onel ไม่อยากเชื่อเลยว่าธีสิสจากลูกศิษย์ของตนเองจะมาปรากฏให้ชาวโลกได้เห็น ในขณะเดียวกัน Onel เองก็ไม่อยากเชื่อว่าตนเองได้สร้างไวรัสที่แพร่กระจายได้รวดเร็วขนาดนี้

สุดท้ายการสืบสวนทำให้พบกับ Onel de Guzman สิ่งที่เขาได้ทำไว้กับชาวโลกอาจทำให้เขาถูกจำคุกหัวโต ทว่าในเวลานั้นในฟิลิปปินส์ยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ แม้ว่าจะมีการร่างกฎหมายขึ้นมาหลังจากการสืบสวนสำเร็จแล้ว แต่กฎหมายไม่มีผลย้อนหลังได้ จึงไม่สามารถเอาผิด Onel ได้เลยแม้แต่ประการเดียว

อย่างไรก็ตาม ชาวฟิลิปปินส์จำนวนไม่น้อยกลับมอง Onel เสมือนฮีโร่ของประเทศ เพราะเขาทำให้คนทั่วโลกรู้ว่าชาวฟิลิปปินส์นั้นมีอัจฉริยะปราดเปรื่องอยู่ด้วย ขนาดที่ว่าสามารถเจาะเข้าถึงระบบกองทหารในตึกเพนตากอนได้ ถึงจะเป็นประเทศโลกที่ 3 ถึงจะมีวิทยาการล้าหลังอย่างที่หลายชาติมอง แต่ยังมีคน ๆ หนึ่งที่สามารถทำได้ก็แล้วกัน

ไวรัส I Love You ถูกกำจัดได้ด้วยการออกอัปเดตของโปรแกรมสแกนไวรัส แม้ในปัจจุบันมันจะไร้พิษสงค์ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่วีรกรรมของผู้สร้าง Love Bug นี้ก็เปรียบเสมือนตำนานชั้นเซียนของเหล่าแฮกเกอร์ทั้งหลายสืบต่อไปครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://edition.cnn.com/2020/05/01/tech/iloveyou-virus-computer-security-intl-hnk/index.html

https://stmuhistorymedia.org/the-most-destructive-thesis-in-history-i-love-you-the-computer-virus/

https://www.silicon.co.uk/security/cyberwar/tales-tech-history-love-bug-213685

https://www.bbc.com/news/10095957

Related articles

“อุปกรณ์ IoT” “ภัยเงียบที่เสี่ยงคุกคามบ้านคุณ?

ในยุคที่เทคโนโลยี IoT เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เช่น หลอดไฟอัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะ กล้องวงจรปิด หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน...

MSI ก้าวสู่ยุคใหม่ Next-Level AI PC พร้อมเปิดตัวโน้ตบุ๊กขุมพลัง AMD Ryzen™ AI 300 Series

11 พฤศจิกายน 2567 MSI ประเทศไทย แบรนด์พรีเมียมโน้ตบุ๊กชั้นนำ ประกาศวางจำหน่ายโน้ตบุ๊ก AI ระดับสูงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล...

[HOW TO] ใช้กล้องมือถือแทนเว็บแคม ภาพโคตรชัดแถมใช้ฟรี !! ด้วย Camo Studio

อยากได้เว็บแคมกล้องชัด ๆ แบบมือถือที่ใช้ ต้องลองแอปฯ นี้เลยครับ Camo Studio เปลี่ยนกล้องมือถือให้กลายเป็นเว็บแคม อัดคลิปทำคอนเทนต์บนคอมได้ง่าย...

STEELSERIES ยกทัพสินค้าใหม่เอาใจสายเกมเมอร์

เปิดตัว ARCTIS GAMEBUDS™ WIRELESS GAMING EARBUDS หูฟังไร้สายที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการเล่มเกม ดูหนัง ฟังเพลง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า