Extreme History – “ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A Start” เรื่องราวของสูตรเกมในตำนาน ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

“ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A” และกดปุ่ม Start สูตรเกมลับที่ผมเชื่อว่าเด็กยุค 90 ทุกคนต้องรู้จัก มันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Konami Code แล้วสูตรนี้มีที่มาอย่างไร วันนี้ใน Extreme History ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกกับมันให้มากขึ้นครับ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1986 บริษัทพัฒนาเกม Konami ได้สร้างเกมที่มีชื่อว่า Gradius ให้กับเครื่องเล่นคอนโซลเกม Nintendo NES แน่นอนว่าในกระบวนการการพัฒนาเกมนั้น จะต้องมีการทดสอบเกมตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อค้นหาบั๊กที่อาจหลงเหลืออยู่ในแต่ละด่านของเกมนั้น ซึ่งหน้าที่นี้ตกเป็นของ คาซุฮิสะ ฮาชิโมโตะ (Kazuhisa Hashimoto) ในการทดสอบเกม Gradius

เกมตลับมันยากเกินไป !!

ทว่า คุณฮาชิโมโตะพบว่าเกมนี้มันยากเกินกว่าที่เขาจะเล่นให้จบจนถึงด่านสุดท้าย หรือต้องใช้เวลาในการเล่นเป็นอย่างมากเพื่อให้ชำนาญพอที่จะผ่านทุกด่านได้ หากเป็นเช่นนี้การทดสอบเกมของเขาจะล่าช้าและอาจกระทบต่อการวางจำหน่ายเกมด้วย ดังนั้น คุณฮาชิโมโตะจึงได้สร้างสูตรลับขึ้นมา และมันก็คือสูตร “ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A” นั่นเองครับ

คุณฮาชิโมโตะให้สัมภาษณ์ในปี 2003 ว่า เขาใช้สูตรนี้เพื่อเพิ่มชีวิตให้กับตัวละครในเกม Gradius ซึ่งมันช่วยให้เขาทดสอบเกมได้ทันเวลาวางจำหน่าย แต่ดันลืมเอาสูตรลับนี้ออกไปด้วย

หลังจากเกมวางจำหน่ายไปแล้ว ทีมพัฒนาเกมของ Konami ได้เจอเข้ากับสูตรลับแล้วรู้สึกชอบไอเดียนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ในเกมถัดไปอีกหลายเกมของ Konami จึงมาพร้อมสูตร “ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A” และหนึ่งในเกมยอดนิยมตลอดกาลที่ได้ใช้สูตรนี้กับเขาด้วย นั่นก็คือเกม Contra

Contra เป็นเกมแนว Co-op shooting สามารถเล่นร่วมกับเพื่อนได้ เนื้อหาของเกมคือการไปตะลุยเกาะพร้อมทำลายเหล่าเอเลี่ยนบุกโลก ซึ่งตัวละครจะสามารถเก็บปืนเพื่อเปลี่ยนสไตล์การยิงได้ด้วย ก็นับว่าเป็นเกมที่กินใจแฟน ๆ Nintendo ได้เยอะเลยทีเดียว

แต่ปัญหาของเกม Contra คือตัวละครทั้ง 2 ตัวจะตายได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น นอกจากที่แต่ละด่านจะโหดมันฮาแล้ว เรื่องที่ฮายิ่งกว่าคือการดึงฉากของเพื่อนในเกม เป็นต้นว่าถ้าตัวละครหนึ่งเดินนำหน้าไปจนฉากจะต้องเปลี่ยนแล้ว ตัวละครที่ตามมาไม่ทันก็จะโดนฉากกินและถือว่าเสียไป 1 ชีวิต ซึ่งรวม ๆ แล้วด่าน 8 ด่าน + เพื่อนจอมแสบ กับการตายได้แค่ 3 ครั้ง ถือว่าโหดเอามาก ๆ เลยทีเดียว

นั่นทำให้ Konami ตัดสินใจใส่สูตร Konami Code ลงไป โดยให้ผู้เล่นกด “ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา B A” ในฉากก่อนเริ่มเกม เมื่อเข้าเกมไปแล้วตัวละครแต่ละตัวจะได้ชีวิตมาทั้งหมด 30 ชีวิตเลยทีเดียว !! ซึ่งจำนวนเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกจนครบทุกด่าน

แต่ต้องบอกก่อนว่าในตอนแรก ยังไม่ค่อยมีใครรู้ถึงเรื่องสูตรลับนี้ จนกระทั่ง Nintendo ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสูตรลับนี้ในนิตยสารเกม Nintendo Power ฉบับแรกของตนเอง และนั่นทำผู้คนทั่วอเมริการู้จักสูตรนี้ พร้อมแพร่กระจายไปทั่วโลกครับ

สูตรลับ Pop culture

ด้วยความที่สูตรนี้มันเป็นตำนานมาก ๆ จึงมีการนำสูตรไปใช้กับเกมอีกหลายเกมนอกเหนือจากเกมในค่าย Konami แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคีย์อีกเล็กน้อยเพื่อให้สามารถใส่สูตรที่คล้ายกัน เช่น เกม Bioshock Infinite ใน PlayStatio 3 จะให้ใส่สูตรที่เมนูหลักของเกม แล้วกด “ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา O X”  ก็จะเป็นการปลดล็อกโหมด 1999 นั่นเอง

สูตรลับนี้ยังไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Wreck-It Ralph ดังคลิปด้านล่างนี้

ขอคารวะ คาซุฮิสะ ฮาชิโมโตะ

ไม่น่าเชื่อว่าสูตรลับที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทดสอบเกม และไม่ได้ตั้งใจจะใส่ไว้ตั้งแต่แรก กลับกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อเด็ก ๆ ยุค 90 เป็นอย่างมาก ลองนึกดูว่าถ้าเราต้องเล่นเกม Contra และตายได้แค่ 3 ครั้ง กับด่านโหดอีก 8 ด่าน เราจะเล่นกันได้ถึงไหนเชียว? (ไม่นับคนที่เล่นมานานจนรู้กลไกเกมแล้ว อันนั้นมันก็พอผ่านได้อยู่แหละ)

และยิ่งตลับเกมในยุคนั้นราคาไม่ใช่น้อย บางทีเล่นแล้วตายบ่อยเกินหรือเกมยากเกิน เด็ก ๆ คงจะหมดสนุกและรู้สึกไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ต้องขอบคุณคุณฮาชิโมโตะที่คิดค้นสูตรนี้ขึ้น จนกลายมาเป็นรากฐานของสูตรเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเพลิดเพลินกับเกมได้อย่างน่าอัศจรรย์

คาซุฮิสะ ฮาชิโมโตะ เสียชีวิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 นะครับ เราขอขอบคุณและขอให้คุณไปสู่สคตินะครับ RIP

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.howtogeek.com/659611/what-is-the-konami-code-and-how-do-you-use-it/