ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ Fender ทุกคนจะนึงถึงกีต้าร์ หรือ แอมป์ แน่นอน มาวันนี้ Fender ได้ฉีกแนวสินค้าและกำลังผลิตสู่ท้องตลาด หูฟังสำหรับ Monitors ในชื่อรุ่น in-ear monitors. ผลิตโดยบริษัท Aurisonics, Inc., โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่ $100 จนถึง $500.
Fender เผยข้อมูลเบื้องต้นไว้ว่า รุ่นหูฟัง In-Ear Monitor Series ผลิตและออกแบบที่ Nashville โดยมีด้วยกันทั้งสิ้น 5 รุ่น และแต่ละรุ่นถูกออกแบบมาที่ไม่เหมือนกันแต่ดูคล้ายกัน และในรุ่นที่แพงขึ้นมา มีการออกแบบโดยใช้ 3D-printed Digital Hybrid Technology กับโครงสร้างภายนอกออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของหูคนได้ถึง 95 % และยังมีระบบจัดการของเสียงด้วย Balance Armature Array (เป็นเทคโนโลจีสำหรับคนหูตึงซึ่งทาง Fender นำมาใช้และดัดแปลงในระดับเสียงของ เสียงกลางและเสียงแหลมเพื่อความแม่นยำของช่วงคลื่นเสียง)
Fenderhe มั่นใจว่าด้วยสิ้นค้าตัวนี้ Fender In-Ear Monitor Series จะสามารถตอบโจทย์ได้กับทุกกลุ่มของผู้ที่เป็นเจ้าของ พร้อมที่จะให้ความบันเทิงและใส่ใจในย่านทุกความถี่ของเสียงได้อย่างจุใจ ในรุ่น top-of-the-line $500 model รุ่น FXA7, ประกอบด้วย ตัวขับเสียง 9.2mm และ and ตัวปรับเสียง (Groove-tuned port). ที่ความถ่ี 6Hz–24kHz (frequency response), ความไวที่ 100dB @1mW (sensitivity), และ ความต้านทานที่ 16-ohm +/-10% @1kHz (impedance). มีให้เลือกสองสี metallic black และ metallic gold , โดยเฉพาะรุ่นนี้ยังมากับตัวกรองเสียงที่หู พร้อมตัวปรับ 1/8” to ¼” (adapter)
ในรุ่น FXA6 model, มีค่าตัวอยู่ที่ $400 and ย่านความถี่ 6Hz–22kHz (frequency response), ความไว 109dB @1mW (sensitivity), ความต้านทาน 16-ohm +/-10% @1kHz (impedance), และตัวขับเสียง 9.25mm (precision rare-earth driver) และตัวปรับเสียง (Groove-tuned port). โดยสามารถรองรับ smartphone และ สามารถลดทอนเสียงเพี้ยนได้ถึง 22dB เหมือนกับรุ่น FXA7 มีสองสีให้เลือก metallic black และ metallic red finishes
มาดูกันอีกรุ่นที่มีค่าตัวที่ $300 FXA5 ประกอบไปด้วย ที่ย่านความถี่ 19Hz–21kHz (frequency response), ความไว 120dB @1mW (sensitivity),พร้อมระบบ (Dual Balanced Armature Array) และ ตัวปรัเเสียง (Groove-tuned port), ความต้านทานที่ 36-ohm +/-10% @1kHz (impedance). อีกรุ่นที่ถูกลงมา รุ่น FXA2 ราคาอยู่ที่ $200 และมีย่านความถึ่ที่ 6Hz–23kHz (frequency response) ความไว 112dB @1mW (sensitivity),ตัวขับเสียงอยู่ที่ 9.25mm (precision rare-earth driver) และตัวปรับเสียง (Groove-tuned port) และความต้านทานเสียงที่ 16-ohm +/-10% @1kHz (impedance) โดยในรุ่นนี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มนักกลอง
รุ่นประหยัด DXA1 ค่าตัวที่ $100 ตัวขับเสียง 8.5mm วัสดุ (titanium micro driver). ด้วยย่านความถี่ 14Hz–22kHz (frequency response), ความไว 116dB @1mW (sensitivity), ความต้านทาน 16-ohm +/-10% @1kHz (impedance) พร้อมด้วยตัวลดทอนเสียงเพี้ยนที่ 18dB (noise reduction rating). รุ่น DXA1 มุ่งเน้นไปที่ลูกค้าทั่วไป ทั้ง 5 รุ่นจะว่างจำหน่ายช่วงเดือน มีนาคมเป็นต้นไป
ที่มาเครดิต fender.com
You must be logged in to post a comment.