สำหรับในช่วงกลางปีนี้หลาย ๆ คนน่าจะเก็บเงินได้เพียงพอเพื่อที่จัดคอมเครื่องใหม่ หรืออัปเกรดคอมให้แรงขึ้นกว่าเดิมนะครับ ซึ่งในบทความนี้เดี๋ยวผมจะพาไปดูวิธีการเลือกซื้อซีพียูแต่ละรุ่นให้ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคน ไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ
Intel Core CPU
สำหรับซีพียูเพื่อการเล่นเกมแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Intel ครองตำแหน่งซีพียูเพื่อการเล่นเกมมาอย่างยาวนาน ด้วยประสิทธิภาพที่คุ้มค่าในทุก ๆ รุ่น ซึ่งในปัจจุบันซีพียูเดสก์ทอปจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Core i3, Core i5, Core i7 และ Core i9 แต่ละแบบก็จะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยข้อพิจารณาแต่ละรุ่น มีดังนี้
Intel Core i3 Series สำหรับเกมเมอร์งบประหยัด
ซีพียู Intel Core i3 จัดเป็นซีพียูในระดับเริ่มต้นที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในทั้ง 4 รุ่น มันจึงเหมาะกับคนที่อยากมีคอมงบประหยัด ๆ ไว้ในงานสักเครื่อง แต่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการทำงานเอกสาร, ดูหนัง, ฟังเพลง และเล่นเกม ซึ่งแน่นอนว่าซีพียูรุ่นนี้สามารถทำงานที่ว่ามาได้ทั้งหมด
แม้กระทั่งในการเล่นเกม ผมต้องขอบอกว่าจริง ๆ Core i3 สามารถเล่นเกมได้ทุกเกมเลย แต่ในบางเกมที่ต้องใช้สเปกสูง ๆ หรือมียูนิตในเกมเยอะ ๆ (ซึ่งต้องใช้กำลังการประมวลผลของซีพียูเพิ่มขึ้น) คุณก็อาจจะไม่สามารถปรับสุดในบางเกมได้ แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสในเรื่องนี้ เพราะต้องการคอมเล่นเกมในงบประหยัดที่สุด Intel Core i3 ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน
Intel Core i5 Series รุ่นมหานิยม
การได้รับฉายาว่าซีพียูมหานิยมไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เพราะถ้าหากเทียบประสิทธิภาพต่อราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ โดย Intel Core i5 จะได้แกนประมวลผลเพิ่มขึ้นจาก Core i3 ช่วยให้การประมวลผลด้านมัลติทาสกิ้งทำได้ดีขึ้น
ดังนั้น Core i5 จึงเหมาะกับคนที่ต้องการคอมที่เน้นการเล่นเกมขึ้นมาหน่อย สามารถปรับค่ากราฟิกได้สูงขึ้น รองรับยูนิตในเกมได้เยอะขึ้น และด้วยแกนประมวลผลคุณจึงสามารถไลฟ์สตรีมเกมสุดฮิต ไม่ว่าจะเป็น DOTA 2, Apex Legends, Valorant หรือ GTA V / FiveM ได้อย่างลื่นไหลครับ
Intel Core i7 Series ซีพียูสำหรับคนจริงจัง
ถัดมาจาก Core i5 ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าไปแล้ว ก็มาถึงคิวของรุ่นพี่อย่าง Core i7 ซึ่งเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่จริงจังด้านการเล่นเกมมากขึ้นไปอีก โดยซีพียู Core i7 นี้จะเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพเป็นหลัก สามารถปรับกราฟิกสูง ๆ ในเกมได้มากขึ้นและรองรับยูนิตในเกมเยอะ ๆ ได้อย่างราบลื่น หรือใครที่เน้นเปิดบอตหลายหน้าต่างบอกเลยว่าจะเปิด 10 หน้าต่าง Core i7 ก็ไม่สะเทือนแต่อย่างใด
เนื่องจาก Core i7 มีแกนประมวลผลเพิ่มขึ้น มันจึงเหมาะในการนำใช้ทำงานตัดต่อวิดีโอหรือทำงานกราฟิกแอนิเมชัน แม้กระทั่งการทำไลฟ์สตรีมขายของหรือไลฟ์เกมก็ได้สามารถทำได้อย่างราบลื่นและคมชัดขึ้น ด้วยแกนประมวลผลที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง เชื่อเถอะว่าคุณจะเห็นได้ถึงความแตกต่างเมื่อได้ลองเปลี่ยนมาใช้ Intel Core i7 Series ครับ
Intel Core i9 Series ที่สุดของความแรง
และนี่คือซีพียูรุ่นท็อปสุดของ Intel จัดว่ามีความแรงมากที่สุดและมีแกนประมวลผลมากที่สุด เพราะฉะนั้นมันจึงรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การพิมพ์งานเอกสารทั่วไป, ดูหนัง, ฟังเพลง ไปจนถึงการเล่นเกมความละเอียดสูง ยูนิตเยอะ ๆ และเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบเปิดบอตเกมหลายหน้าต่าง ต่อให้คุณเปิดสัก 20 หน้าต่าง ก็ยังเหลือแกนประมวลผลไว้ทำอย่างอื่นอีกแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้นผมมีวิธีคิดง่าย ๆ สำหรับคนที่จะเลือกใช้ Intel Core i9 มีดังนี้
– งบไม่จำกัด
– ต้องการใช้ซีพียูที่ดีและแรงที่สุด
– ต้องการเล่นเกมด้วยประสิทธิภาพสูงที่สุดในทุก ๆ เกม
– ต้องการใช้งานไลฟ์สตรีมภาพคมชัดสูง
– ต้องการทำงานตัดต่อวิดีโอหรืองานแอนิเมชันกราฟิก
ซึ่งถ้าคุณเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งในนี้ Intel Core i9 Series คือตัวเลือกที่เหมาะกับคุณครับ
เลือกรหัสไหนดีระหว่างรุ่นธรรมดา, รหัส K, รหัส KF หรือรหัส F
อีกข้อหนึ่งที่หลาย ๆ คนสอบถามกันบ่อย นั่นคือรหัสลงท้ายของซีพียู Intel ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ รุ่นธรรมดาที่ไม่มีรหัสลงท้าย, รหัส K, รหัส KF หรือรหัส F ผมจะขอแยกแต่ละรุ่นพร้อมคำแนะนำในการเลือก ดังนี้
– รุ่นธรรมดาที่ไม่มีรหัสลงท้าย: คือรุ่นมาตรฐานที่มีชิปกราฟิก Intel UHD Graphics เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์ QuickSync เพื่อช่วยในการถอดรหัสงานวิดีโอ 4K หรือใช้ในการไลฟ์สตรีมเพื่อแบ่งเบาภาระของซีพียู หรือกรณีที่คุณยังไม่มีการ์ดจอแยกแต่ต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ไปพลาง ๆ ก่อน
– รุ่นรหัส F: คุณสมบัติเหมือนรุ่นธรรมดา แต่จะไม่มีชิปกราฟิก Intel UHD Graphics ซีพียูกลุ่มนี้จะมีราคาถูกลงกว่ารุ่นธรรมดาประมาณหนึ่ง เหมาะกับที่มีการ์ดจอแยกอยู่แล้ว และไม่ได้ต้องการใช้คุณสมบัติของชิปกราฟิกออนซีพียู
– รุ่นรหัส K: รองรับการ Overclock และมีความเร็วมากกว่ารุ่นธรรมดา เหมาะสำหรับคนที่ชอบความท้าทาย อยากลองปรับเพิ่มความเร็วของซีพียูให้สุดตามที่ใจต้องการ และนอกจากนี้ยังมีชิปกราฟิก Intel UHD Graphics มาให้ด้วย
– รุ่นรหัส KF: จะมีคุณสมบัติเหมือนรุ่นรหัส K แต่จะไม่มีชิปกราฟิก Intel UHD Graphics เหมาะกับที่มีการ์ดจอแยกอยู่แล้ว
ซึ่งวิธีการเลือกไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวนะครับ บางคนอาจจะประกอบคอมมาเพื่อเล่นเกม DOTA 2 ที่ไม่ได้กินสเปกมากขนาดนั้น แต่ต้องการสเปกที่ร้อนแรงสุด ๆ ก็สามารถเลือกซีพียู Intel Core i9 K Series มาใช้ได้ ตรงนี้เพื่อน ๆ ลองไปพิจารณาและปรับเปลี่ยนได้ตามงบของตนเองนะครับ
และนี่คือแนวทางในการเลือกซีพียู Intel Core Series ที่ผมจัดมาให้เหล่าเกมเมอร์ทุกคนได้ลองนำไปใช้ดูนะครับ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ และสามารถจัดสเปกที่ตนเองชื่นชอบได้อย่างมืออาชีพครับ
You must be logged in to post a comment.