สมัยก่อน Internet Explorer นับว่าเป็นเบราว์เซอร์ยอดนิยม มีผู้ใช้จำนวนมาก แต่ด้วยปัญหาจุกจิกน่ารำคาญใจ ทำให้ผู้พัฒนาเว็บไม่ค่อยชอบเบราว์เซอร์ตัวนี้เท่าไรนัก
แต่จู่ๆ IE ก็เริ่มมีผู้ใช้งานลดลง โดยเฉพาะ IE6 ที่ลดฮวบลงมาเรื่อยๆ ในเวลาอันรวดเร็ว หนึ่งในสิ่งที่ทำให้มันได้รับความนิยม เป็นแผนการของทีมวิศกรของ YouTube ซึ่ง Chris Zacharias อดีตทีมวิศกรได้ออกเปิดเผยเรื่องนี้ครับ
Chris Zacharias กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของ IE6 คือ ถ้าเว็บใดก็ตาม ที่มีโค้ดของรูปภาพ, ข้อมูล หรือคลิป อยู่ในซอร์สของเว็บเพจ แต่ไม่มีการแสดงผลออกมา IE6 จะพยายาม Redirect มายังเซอร์ฟเวอร์เรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาเว็บล่มได้ง่าย หรือมีการใช้ทราฟฟิกที่มาเกินไป
ซึ่งในขณะนั้น YouTube ก็เป็นหนึ่งในเว็บที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และพบปัญหาจาก IE6 เช่นกัน นั่นทำให้ทีมวิศวกรของ YouTube เกิดไอเดียกำจัด IE6 ออกไปให้พ้นทาง โดยการขึ้นข้อความเตือนว่า IE6 จะไม่รองรับเว็บไซต์อีกต่อไป ให้อัปเกรดไปใช้ Chrome, Firefox หรือ IE รุ่นใหม่ๆ แทน
แต่การที่จะเอาแบนเนอร์เตือนนี้ขึ้นบนหน้า YouTube ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ เพราะตอนนั้น Google เข้าซื้อ YouTube ไปแล้ว และเวลาที่เอาแบนเนอร์ใดๆ ขึ้นก็ตาม จะต้องผ่านการตรวจสอบเสียก่อน อย่างไรก็ตาม Chris ได้ใช้ช่องทางที่เรียกว่า OldTuber อัปเดตโค้ดแบนเนอร์ขึ้นจนได้
และนั่นก็ได้ผลมากเลยทีเดียว หลังจากที่มีแบนเนอร์ออกมา ปริมาณผู้ใช้ IE6 เริ่มลดลงเรื่อยๆ แม้จะถูกต่อว่าจากฝ่ายอื่นๆ หรือการออกแบนเนอร์ที่ให้ตัวเลือก Chrome มาเป็นอันดับแรกอาจเข้าข่ายผูกขาด แต่มันช่วยลดปัญหาทราฟฟิกเยอะเกินไปได้
นอกจากนี้ ทีมพัฒนา Google Docs ก็เห็นดีเห็นงามด้วย พร้อมอัปเดตแบนเนอร์ดังกล่าวขึ้นหน้าเว็บเช่นกัน ผลก็คือ IE6 ได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างรวดเร็วภายในเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากแบนเนอร์ดังกล่าวออกมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Techspot
You must be logged in to post a comment.