จากคราวที่แล้ว ผมได้จัดสเปคสำหรับร้าน iCafe ที่ใช้ซีพียูรุ่นคุ้มค่าราคาประหยัดอย่าง Intel Core i3-7100 ไปแล้ว คราวนี้ถึงตาพี่คนกลางอย่าง Intel Core i5 กันบ้างครับ
เมื่อเทียบกับซีพียูในกลุ่ม Core i3 และซีพียูรุ่นเก่าว่า อย่างในสถาปัตยกรรม Skylake แล้ว Intel Core i5 7th Generation (Kaby Lake) ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่สูงขึ้น ด้วยแกนประมวลผล 4 Cores 4 Threads จึงมั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าจะทำงาน, ดูวิดีโอ, เล่นเกม หรือการตัดต่องานกราฟิกต่างๆ Intel Core i5 ก็ทำได้อย่างไม่มีสะดุด
ซึ่งสเปคที่ผมแนะนำให้ผู้ที่อยากจัดร้าน iCafe ก็มีดังนี้ครับ
CPU: Intel Core i5-7500/7600K
แน่นอนว่าพระเอกของเรา ก็จะต้องเป็นซีพียู Intel Core i5 7th Generation (Kaby Lake) ที่ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูง โดยตัวที่ผมจัดมาให้นั้น มีอยู่ 2 รุ่น ได้แก่ Intel Core i5-7500 และ Intel Core i5-7600K ซึ่งทั้งคู่รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Intel ไม่ว่าจะเป็น Turbo Boost 2.0 เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับซีพียู เมื่ออยู่ในสถานะที่เหมาะสม, รองรับการใช้งานร่วมกับ Intel Optane Memory ที่ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างซีพียูและฮาร์ดดิสก์ทำได้ดีขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้ ด้วยจำนวนแกนประมวลผลที่มากขึ้น ทำให้การสตรีมมิ่งผ่านอินเทอร์เน็ตด้วย Intel Core i5 7th Generation (Kaby Lake) เป็นไปได้อย่างราบลื่น ไม่มีติดขัด มั่นใจได้เลยว่า การแคสเกมของคุณจะไม่พบปัญหากวนใจแน่นอน
สำหรับซีพียูตัวแรกที่ผมนำมาให้เพื่อนๆ พิจารณานะครับ จะเป็นซีพียู Intel Core i5-7500 3.4 GHz ครับ
แม้จะเป็นรุ่นไม่สามารถโอเวอร์คล็อกได้ แต่ก็ยังให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่เยี่ยมยอด ยกตัวอย่างจากวิดีโอข้างล่าง เป็นการทดสอบการเล่นเกม PUBG ด้วย Intel Core i5-7500 + Nvidia GTX 1070 ที่มีการตั้งค่าไว้ที่ High บนความละเอียดระดับ 1080p
จะเห็นได้ว่า สามารถเล่นเกมได้ด้วยเฟรมเรตราวๆ 60 FPS ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้เกมเล่นได้อย่างลื่นไหลแล้วครับ
ส่วนเกมอื่นๆ ที่มีการตั้งค่าไว้สูงสุด บนความละเอียดระดับ 1080p ก็เล่นได้ในเฟรมเรตไม่ต่ำกว่า 60 FPS อย่างแน่นอนครับ ส่วนเกมที่มีความละเอียดสูงกว่านี้ อาจปรับคุณภาพกราฟิกลงมาอีกเล็กน้อย Intel Core i5 ของเราก็สามารถเล่นได้อย่างราบลื่นเช่นกัน
ถัดมาคือซีพียู Intel Core i5-7600K
ซีพียูรุ่นนี้ มีความสามารถในการปลดล็อกตัวคูณ ร่วมกับเมนบอร์ดที่รองรับ ทำให้เราสามารถเพิ่มความเร็วของซีพียูให้สูงขึ้นได้ และทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
จากวิดีโอทางด้านบนจะเห็นได้ว่า เมื่อมีการโอเวอร์คล็อก Intel Core i5-7600K จากเดินที่ 3.8 GHz ไปเป็น 4.8 GHz จะได้ค่าเฟรมเรตสูงขึ้นประมาณ 10-25 FPS และนี่คือจุดเด่นของซีพียูรหัส K ที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของซีพียูให้ได้มากที่สุดครับ
เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นเก่าอย่าง Intel Core i5-6600K จะพบว่า Intel Core i5-7600K ยังให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ดีกว่าถึง 10% แม้จะใช้พลังงานขณะ Full load เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10 วัตต์ แต่ประสิทธิภาพที่แลกมานั้นถือว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ
แล้วจะเลือกรุ่นไหนดี อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบครับ ถ้าเป็นรุ่น Intel Core i5-7600K ก็จะสามารถปรับความเร็วให้เพิ่มขึ้นได้ และประสิทธิภาพจะดีกว่า Intel Core i5-7500 แน่นอน แต่ทั้งนี้ การโอเวอร์คล็อกอาจต้องมีการเพิ่มกำลังไฟเข้าไปในระบบ ทำให้ซีพียูมีการใช้ไฟเพิ่มขึ้นด้วย หากเราคิดว่าต้องการคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพลังงาน Intel Core i5-7500 ก็สามารถใช้งานได้เพียงพอต่อความต้องการแล้วครับ
สำหรับราคาของ Intel Core i5-7500 จะอยู่ที่ 6,790 บาท ส่วน Intel Core i5-7600K จะอยู่ที่ 8,650 บาทครับ
Mainboard: MSI B250M PRO VDH/MSI Z270M MORTAR
เมนบอร์ดตัวแรกที่ผมแนะนำ เพื่อใช้คู่กับซีพียู Intel Core i5-7500 3.4 GHz นั่นคือ MSI B250M PRO VDH ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ในราคาที่คุ้มค่า แถมรองรับ M.2 PCIe x4 อีกด้วยนะ (ราคา 2,630 บาท)
ส่วนเมนบอร์ดสำหรับซีพียู Intel Core i5-7600K จะต้องใช้ชิปเซตที่สามารถปลดล็อกตัวคูณของซีพียูได้ ผมขอแนะนำ MSI Z270M MORTAR ที่มาพร้อมกับไฟ LED สีแดง เพิ่มความเท่ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังรองรับ Mystic Light Sync ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการควบคุมไฟ LED ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่รองรับได้อีกด้วย (ราคา 4,090 บาท)
RAM: DDR4/2400 CORSAIR VENGEANCE 8 GB/16 GB
สำหรับแรม ผมเลือกใช้แรม Corsair Vengeance ความเร็ว 2400 MHz ขนาด 8 GB (4,290 บาท) และ 16 GB (7,690 บาท) สำหรับความจุของแรมนี้ ให้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจนะครับ ขนาด 8 GB ถือว่าเป็นขั้นต่ำสุดที่คอมพิวเตอร์เล่นเกมควรจะมี ถ้าให้ดี มีงบจัดสเปคดีๆ ก็ขอให้อัพเป็น 16 GB จะได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าครับ
แรมทั้ง 2 ความจุที่ผมจัดให้นี้ จะเป็นแรมแบบ 4×2 GB และ 8×2 GB นะครับ ซึ่งจะสามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดที่รองรับแรมแบบ Dual-channel ได้ครับ
Graphic Card: Nvidia GTX 1060 6GB/ Nvidia GTX 1070/ AMD Radeon RX 580 8GB
ตัวเลือกการ์ดจอในกลุ่มราคานี้ค่อนข้างหลากหลายนะครับ ขึ้นอยู่กับความชอบ และความเหมาะสม หากเราใช้จอภาพที่มีความละเอียดสูง ก็แนะนำให้ใช้การ์ดจอที่สูงกว่า ซึ่งในครั้งนี้ ค่ายเขียวผมแนะนำอยู่ 2 ตัวคือ GALAX GTX1060 OC 6GB (ราคา 9,890 บาท) และ GTX1070 Zotac Mini 8GB (ราคา 14,800 บาท) การ์ดทั้ง 2 ตัวนี้ จะให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับ 1440p ได้เป็นอย่างดีครับ
ส่วนทางค่ายแดง ผมแนะนำเป็นการ์ดจอ PowerColor Red Devil RX 580 8GB (ราคา 12,500 บาท) ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ดี ด้วยแรมการ์ดจอที่มีให้ถึง 8 GB และราคาที่ไม่แพงมากนัก
HDD/SSD: – (ร้าน iCafe จะใช้ระบบ Diskless)
สำหรับ HDD และ SSD นี้ ร้าน iCafe เกือบทั้งหมดจะไม่ได้ใส่ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้ใช้บริการ เนื่องจากจะมีการดึงข้อมูลมาจากอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง จึงสามารถตัดในส่วนออกได้เลยครับ (แต่ถ้าหากว่าใครที่อยากประกอบคอมพิวเตอร์ใช้เองที่บ้าน อาจหาซื้อ HDD สัก 1 TB มาใช้งาน หรือซื้อ SSD 256 GB มาใช้งานร่วมกับ HDD ก็ได้ครับ)
Power Supply: ThermalTake TR2 S 650W (80+ White)
เนื่องจากการ์ดจอที่เราใช้นั้น จะต้องมีการต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม ดังนั้น PSU ที่ควรใช้ อาจจะต้องเพิ่มกำลังไฟขึ้นมาอีกหน่อย พร้อมทั้งต้องเลือกเครื่องที่มีความสถียรและมีหัวต่อไฟให้ครบถ้วน ผมจึงขอแนะนำ ThermalTake TR2 S (80+ White) ขนาด 650 วัตต์ (ราคา 2,090 บาท) หรือถ้าใครอยากได้กำลังไฟที่ต่ำกว่านี้ (สัก 550-600 W) ก็สามารถนำมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ครับ
Case: COOLER MASTER Masterbox 5
ในส่วนของเคสคอมพิวเตอร์ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของเรานะครับ อาจมีการเลือกสีของเคส หรือเลือกเคสที่มีไฟ RGB เพื่อเพิ่มบรรยากาศในร้าน ให้มีโทนสีไปในแนวเดียวกับสีพื้นที่เราต้องการ ซึ่งรูปทรงของเคสก็ควรจะดูโฉบเฉี่ยว โดดเด่น และมีการระบายอากาศที่ดี
ซึ่งผมขอเลือกเคส COOLER MASTER Masterbox 5 ที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง สามารถใส่การ์ดจอยาวๆ ได้สบาย แถมยังมีการไหลเวียนของอากาศที่ดีด้วยครับ เคสนี้ราคา 2,690 บาทครับ
ตัวเลือกเพิ่มเติม
Heat Sink:COOLER COOLER MASTER Hyper H411R/COOLER MASTER MasterLiquid ML120L RGB
สำหรับร้านที่เลือกซีพียูรหัส K นะครับ จะไม่มี Heat Sink แถมมาให้ในกล่อง ดังนั้น ผมจะแนะนำ Heat Sink ให้ 2 แบบ แบบแรก จะเป็นแบบพัดลม COOLER COOLER MASTER Hyper H411R ที่ให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีครับ มั่นใจได้เลยว่าโอเวอร์คล็อกได้สะใจแน่นอน (ราคา 990 บาท)
ส่วนอีกตัวเป็น COOLER MASTER MasterLiquid ML120L RGB ถ้าแบบพัดลมยังไม่สะใจ อย่างนั้นขอเป็นการระบายความร้อนด้วยของเหลวจาก COOLER MASTER ที่ช่วยให้ซีพียูของเราเย็นลงได้มากขึ้น มั่นใจได้เลยว่าโอเวอร์คล็อกได้อย่างเต็มที่แน่นอน
Intel Core i5 7500/7600K – 6,790/8,650 บาท | Intel Core i5 7500/7600K – 6,790/8,650 บาท |
MSI B250M PRO VDH/MSI Z270M MORTAR – 2,630/4,090 บาท | MSI B250M PRO VDH/MSI Z270M MORTAR – 2,630/4,090 บาท |
DDR4/2400 CORSAIR VENGEANCE 8 GB/16 GB – 4,290/7,450 บาท | DDR4/2400 CORSAIR VENGEANCE 8 GB/16 GB – 4,290/7,450 บาท |
Nvidia GTX 1060 6GB/ Nvidia GTX 1070 – 9,890/14,800 บาท | PowerColor Red Devil RX 580 8GB – 12,500 บาท |
ThermalTake TR2 S 650W (80+ White) – 2,090 บาท | ThermalTake TR2 S 650W (80+ White) – 2,090 บาท |
COOLER MASTER Masterbox 5 – 2,690 บาท | COOLER MASTER Masterbox 5 – 2,690 บาท |
COOLER COOLER MASTER Hyper H411R/COOLER MASTER MasterLiquid ML120L RGB – 990/2,090 บาท | COOLER COOLER MASTER Hyper H411R/COOLER MASTER MasterLiquid ML120L RGB – 990/2,090 บาท |
รวมทั้งหมดนี้ เราก็จะได้คอมพิวเตอร์ที่สำหรับร้าน iCafe ที่ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Intel Core i5 7th Generation ไว้วางใจได้กับว่าประสิทธิภาพที่ได้นั้น คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน
ดูการจัดสเปคอื่นๆ สำหรับร้าน iCafe ด้วยขุมพลังจากซีพียู Intel Core 7th Generation ได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยครับ
จัดสเปคคอมพิวเตอร์ สำหรับร้าน iCafe – Intel® Core™ i3 แรงแบบคุ้มค่า
จัดสเปคคอมพิวเตอร์ สำหรับร้าน iCafe – Intel® Core™ i7 ที่สุดของความแรง
You must be logged in to post a comment.