สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเรื่องราวของ Intel ในงาน Architecture day นั่นคือซีพียู Gen 12 Alder Lake ประสิทธิภาพและฟีเจอร์จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยครับ
Intel 12th Gen Core “Alder Lake-S” ใช้แกนประมวลผลแบบ Hybrid Technology ประกอบด้วย Performance Core (P-Core) และ Efficient Core (E-Core) ช่วยจัดการในเรื่องของพลังงานและประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับรุ่นที่มีข้อมูลออกมา จะประกอบด้วย 8+8, 6+8 และ 2+8 (ปน ๆ กันอยู่ในเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊ก) โดยเลขตัวหน้าเป็น P-Core ส่วนเลขตัวหลังจะเป็น E-Core เฉพาะ P-Core เท่านั้นที่มี Hyper-Threading สำหรับซีพียูของเดสก์ทอปตัวท็อปจะมีแกนประมวลผล 16 Cores/24 Threads (8+8)
ส่วนการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกนั้น จะรองรับ PCIe 5 16 Lane, PCIe 4 4 Lane และบนเมนบอร์ดจะมี PCIe 4 12 Lane และ PCIe 3 16 Lane ครับ ในส่วนของแรมจะรองรับทั้ง DDR4 บัส 3200 MHz และแรม DDR5 บัส 4800 MHz ด้วย
ทางด้านประสิทธิภาพข้อมูลจาก Intel เผยว่า E-Core จำนวน 4 แกน มีประสิทธิภาพสูงกว่า 2 แกนของซีพียูสถาปัตยกรรม Skylake อยู่ 80% แถมใช้ไฟน้อยกว่า 80% ด้วยเมื่อเทียบที่ความเร็วเท่ากัน และจากการทดสอบประสิทธิภาพเทียบกับ Intel Gen 11 ปรากฏว่า Gen 12 มี IPC เพิ่มขึ้นถึง 19% เลยทีเดียว
อีกหนึ่งเรื่องที่จะช่วยให้ Intel Gen 12 ทำงานได้ดีขึ้นบน Windows 11 คือฟีเจอร์ Hardware thread scheduler เรียกว่า Thread Director เป็นตัวจัดการลำดับการทำงานของแกนประมวลผลในซีพียู เดิม Windows 11 มีการปรับปรุงเรื่องนี้มาแล้วจาก Windows 10 แต่ Thread Director จะทำให้ซีพียูคุยกับระบบปฏิบัติการได้ดีขึ้น จัดการงานได้ดีขึ้น สรุปคือน่าจะแรงขึ้นด้วยนั่นเองครับ (Ryzen ก็น่าจะมีบ้างนะ)
เอาล่ะสำหรับผลการทดสอบไว้รอดูกันอีกที แต่ถ้าดูจาก IPC ที่เพิ่มขึ้นก็ถือว่าก้าวกระโดดมากเลยทีเดียว งานนี้อยากเห็นแล้วล่ะว่าประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Videocardz
You must be logged in to post a comment.