พบผลทดสอบ i5-7600K แรงกว่า i5-6600K อยู่ 9%
ในตอนนี้ได้มีการเผยแพร่ผลการทดสอบอันแรกของ i5-7600K จากทางเว็บไซต์ PCOnline โดย i5-7600K จะเป็น CPU ในกลุ่ม Kaby Lake ที่เป็นตัวพัฒนาต่อมาจากพื้นฐานของสถาปัตยกรรม Skylake นั่นเอง
Intel เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัว CPU Kaby Lake บนคอมพิวเตอร์ Desktop ในวันที่ 5 มกราคม 2017 นี้พร้อมๆกับเมนบอร์ด 200-Series ด้วย โดย i5-7600K ที่มีผลการทดสอบออกมาจะเป็น CPU รุ่น K ซึ่งหมายถึงเป็น CPU แบบปลดล็อคตัวคูณไว้สำหรับการโอเวอร์คล้อก และ i5-7600K จะมาแทนที่ i5-6600K ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน
Intel Core i5-7600K จะเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดในกลุ่ม i5 Kaby Lake มี 4 Cores 4 Threads ใช้กระบวนการผลิต 14nm+ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าและความเร็วในการทำงานเมื่อเทียบกับ 14nm FinFET ทำงานที่ความถี่ 3.8 GHz, 4.2 GHz Boost มี 6MB L3 Cache และมี TDP 91W
นอกจากนั้นยังมีการใช้งานชิปกราฟฟิกตัวใหม่อย่าง Intel HD 630 ที่ประกอบไปด้วย 24 Execution Units ที่จะเร็วกว่า HD 530 นิดหน่อยเนื่องจากมีการเพิ่ม Clock Speed ที่มากขึ้น โดย i5-7600K จะวางขายในราคา $239 US
ถ้าเพื่อนๆลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ในยุค Devil’s Canyon ก็จะเป็นการพัฒนามาจากสถาปัตยกรรม Haswell ที่ช่วยเพิ่มในส่วนของ Clock Speed ให้มากขึ้น ในตอนนี้เช่นกัน Kaby Lake ก็จะเป็นตัวที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานสถาปัตยกรรม Skylake ที่ช่วยเพิ่ม Clock Speed ให้มากขึ้นโดยที่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง Kaby Lake ในกลุ่ม K จะใช้การบัดกรีเพื่อดึงความร้อนระหว่าง CPU Die กับกระดองระบายความร้อน
CPU Benchmarks
GPU Benchmarks
Power Consumption / Temperature
จากผลการทดสอบก็ทำให้เราเห็นว่า i5-7600K เร็วกว่าชิปในรุ่น Skylake รุ่นก่อน (i5-6600K) ประมาณ 9-10% แต่ที่เร็วขึ้นมาก็เป็นเพราะในมีการเพิ่มในส่วนของ Clock Speed เข้ามา ในส่วนของ IPC ยังเท่าๆเดิมเนื่องจากมากกว่าเดิมเพียง 1% ในรุ่นต่อจาก Kaby Lake อย่าง Canonlake จะใช้กระบวนการผลิตที่ 10nm และยังคงใช้พื้นฐานของสถาปัตยกรรม Skylake อยู่ ซึ่งการพัฒนา CPU อย่างก้าวกระโดดก็คงยังไม่ใช่ในรุ่น Canonlake เช่นกัน ในด้านของชิปกราฟฟิกก็มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากมีการเพิ่ม Clock Speed ที่มากขึ้น
ส่วนด้านอัตราการใช้พลังงาน Kabu Lake i5-7600K จะยังคงกินไฟพอๆกับ i5-6600K แต่มี Clock Speed ที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อทำงานแบบ full load อาจจะกินไฟมากขึ้นอีก 3-5W และทำงานที่ full load ที่อุณหภูมิประมาณ 46C
Kaby Lake อาจจะไม่ได้มีการพัฒนาในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ Skylake แต่นอกจากจะมีการเปิดตัว Kaby Lake แล้ว ยังมาพร้อมกับเมนบอร์ด 200 Series ที่มีการเพิ่มเติมหลายๆส่วนด้วย และเป็นข่าวดีที่ทั้งชิป Skylake และ Kaby Lake สามารถใช้งานกับบอร์ด 200 Series ได้ และรุ่น 100 Series ก็สามารถใช้ Kaby Lake ได้ด้วยการอัพเดทไบออสเท่านั้นครับ
ที่มา: Wccftech
You must be logged in to post a comment.