สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Extreme PC ทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีข่าวดีๆ ที่เกี่ยวกับ มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน บทความนี้ เป็นการสัมภาษณ์ CEO ของ AMD – Lisa Su จากเว็บไซต์ Anandtech ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องอนาคตของ AMD Ryzen และ Vega ครับ
เนื่องจากว่าผมนำบทสัมภาษณ์มาแปลนะครับ บางอันอาจมีการรวบรัดให้อ่านง่ายมากขึ้นด้วย ก็อย่าว่ากันนะครับ แหะๆ (สามารเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่ ลิ้งค์นี้)
เมื่อปี 2017 AMD ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมในตลาดหน่วยประมวลผล ด้วยการเปิดตัวซีพียูสถาปัตยกรรม Zen ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และถือเป็นไม้ตายของทาง AMD เลยก็ว่าได้
และจากงาน CES 2018 ที่ผ่านมา ทาง AMD ก็ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ อีกมากมาย ผมเคยเขียนไว้ในบทความก่อนๆ แล้วล่ะ เพื่อนๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ Extreme PC เลยนะครับ
ผู้สัมภาษณ์คือนาย Ian Cutress จากเว็บไซต์ Anandtech ได้ทำการสอบถามถึงข้อมูลถึงอนาคตของ Vega Lisa Su ก็ได้ตอบมาดังนี้ครับ
ถาม: ในกรณีของสายการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร AMD เริ่มทำผลิตภณฑ์ในโหนด 7 นาโนเมตรนี้ โดยใช้ Vega เป็นตัวแรก และเน้นในกลุ่ม Learning machine มันจะดูแปลกไปไหม กับการผลิตสินค้า 7 นาโนเมตร ด้วยสถาปัตยกรรมเดิม สำหรับกลุ่ม Enterprise?
ตอบ: เราพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว Vega เพิ่งเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2017 เอง แล้วเราคิดว่ามันยังไปต่อได้อีกไกล ด้วยข้อดีของโหนด 7 นาโนเมตรนี้ มันจะทำให้เราสามารถสร้างชิปที่มีพลังการคำนวณสูง แต่ใช้พลังงานน้อยลง แน่นอนว่าเราก็ต้องเริ่มลงทุนในตลาดชิปกราฟิกอยู่แล้ว
ถาม: สำหรับเทคโนโลยี 14 นาโนเมตร GlobalFoundries ก็เป็นของ SAMSUNG แล้ว ส่วนเทคโนโลยี 12 นาโนเมตรก็ยังมาไม่ถึง แล้วเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรล่ะ จะมีการเลือกใช้ของค่ายไหน?
ตอบ: สำหรับผลิตภัณฑ์ 7 นาโนเมตร เราเลือกใช้ทั้ง TSMC และ GlobalFoundries แล้วไลน์การผลิตของเรา ก็จะใช้ชิปที่ต่างกันด้วย (ประมาณว่าสินค้ากลุ่มหนึ่งใช้ของ GF อีกกลุ่มใช้ TSMC) เราเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีของเราจะมีความเสถียร และตอบโจทย์ในสิ่งที่เราต้องการ
ส่วนเรื่องอนาคตของ Radeon นั้น จากที่ผมเคยนำเสนอพบว่า ชิป Vega 7nm มันออกแบบมาสำหรับกลุ่ม Machine Learning และจะไม่มีการเปิดตัวการ์ดจอเล่นเกม 7nm ในปี 2018 ทาง Anandtech จึงได้ถามถึงสิ่งที่ทาง AMD กำลังโฟกัสอยู่ในตอนนี้
ถาม: ตอนนี้ดูเหมือนว่าอนาคตของชิปกราฟิกจะแยกเป็น 2 ทางนะ แล้วในอนาคตจะเน้นชิปกราฟิกด้านการเล่นเกม หรือการคำนวณล่ะ?
ตอบ: แน่นอนคุณคงเห็นว่าเรากำลังดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ เราได้ลงทุนลงแรงกับตลาดเกมมิ่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมันนะ แต่คุณจะเห็นว่าเราได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับด้านการชิปกราฟิกคำนวณมากขึ้นด้วย
ถาม: ในกรณีของสายการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร AMD เริ่มทำผลิตภัณฑ์ในโหนด 7 นาโนเมตรนี้ โดยใช้ Vega เป็นตัวแรก และเน้นในกลุ่ม Learning machine มันจะดูแปลกไปไหม กับการผลิตสินค้า 7 นาโนเมตร ด้วยสถาปัตยกรรมเดิม สำหรับกลุ่ม Enterprise?
ตอบ: เราพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว Vega เพิ่งเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2017เอง แล้วเราคิดว่ามันยังไปต่อได้อีกไกล ด้วยข้อดีของโหนด 7 นาโนเมตรนี้ มันจะทำให้เราสามารถสร้างชิปที่มีพลังการคำนวณสูง แต่ใช้พลังงานน้อยลง แน่นอนว่าเราก็ต้องเริ่มลงทุนในตลาดชิปกราฟิกอยู่แล้ว
ถาม: จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เมื่อปี 2017 ทำให้ AMD มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้น และทางบริษัทมีกำไรเพิ่มมากขึ้นด้วย แล้วมันช่วยให้ AMD สามารถเริ่มโปรเจ็คใหม่ๆ ได้เลยไหม
ตอบ: จากความสำเร็จเมื่อปี 2017 ที่มีมากขึ้นกว่าปี 2016 ทำให้เราสามารถลงทุนทางด้าน R&D (การวิจัยและพัฒนา) ได้มากขึ้นในปีนี้ ซึ่งการลงทุนทางด้านนี้ ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานในเรื่องของชิปกราฟิกได้ โดยเฉพาะการพัฒนาซอฟต์แวร์ (ตรงนี้ผมคิดว่ามันช่วยให้พัฒนาไดรเวอร์ได้ดีขึ้น) รวมถึงทางด้านซีพียู ทำให้เรากระโดดข้ามข้อจำกัดหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แล้วก็ยังมีอีกเรื่องคือ การ์ดจอที่ใช้แรม HBM เราจะได้เห็นในการ์ดกลุ่ม Mid-range ไหม ซึ่งป้า Lisa ก็ตอบเป็นนัยย์ว่า แรม HBM มันดีมากเลยนะ แต่ในตอนนี้ การผลิตแรมมันมีไม่พอ แถมแรมราคายังสูงอีกต่างๆ ก็คงต้องพักความคิดนี้ไว้ก่อน
และสุดท้ายก่อนเราจะจากกัน Ian Cutress ได้ถามป้า Lisa ว่าในออฟฟิศใช้คอมแบบไหน ป้าเลยบอกว่าใช้แลปทอป ที่ใช้ซีพียู Bristol Ridge อยู่เลย ยังไม่มีแพลนจะเปลี่ยนไปใช้เครื่อง Raven Ridge ตอนนี้หรอก แต่มีโฆษณามานิดนึงว่า แบตมันทนมากๆ เลยครับ
ก็จบกันไปนะครับ เนื้อหาการสัมภาษณ์ที่ผมหยิบยกมาเล็กน้อย ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้จากลิ้งค์ที่ผมให้ไว้ด้านบนนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Anandtech
You must be logged in to post a comment.