ตั้งแต่ที่ Facebook เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น Meta พร้อมประกาศขับเคลื่อนนำพาโลกเข้าสู่ยุคของ Metaverse ทำให้เทรนด์เทคโนโลยีในขณะนี้ต่างมุ่งหน้าไปตามกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังมีผลสืบเนื่องมายังวัฒนธรรมการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้น ภาคธุรกิจทั้งหลายจึงเตรียมตัวให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก Metaverse
Metaverse คืออะไร
Metaverse หรือในภาษาไทยใช้คำว่า จักรวาลนฤมิตร (เมตาเวิร์ส) คือโลกเสมือนที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ราวกับอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แต่นอกเหนือจากปฏิสัมพันธ์กับคนด้วยกันแล้ว เรายังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาในโลกเสมือนได้ด้วย เช่น การช้อปปิ้งออนไลน์แบบเสมือนจริง ให้ความรู้สึกเหมือนเราเข้าไปเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยที่ตัวของเรายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในบ้าน เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ ผู้ใช้อาจจะต้องสร้างตัวตนในโลกเสมือนจริงขึ้นมาเรียกว่า Avatar เพื่อเป็นตัวแทนให้เราสามารถดำเนินกิจกรรมบนโลกเสมือนจริงได้
ปรับเปลี่ยนธุรกิจยุคใหม่ตามเทรนด์ Metaverse
แม้ปัจจุบัน Metaverse ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่จะเห็นได้ว่าธุรกิจมากมายมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยของโลกไร้พรมแดน โดยเฉพาะการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะเจ้าของกิจการหากคุณได้เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้คุณอยู่ในจุดได้เปรียบในการทำธุรกิจบนโลก Metaverse ในอนาคต
ซึ่งในบทความนี้จะขอแนะนำ 5 แนวทางในการปรับเปลี่ยนธุรกิจของคุณ ให้รองรับเทคโนโลยี Metaverse แห่งอนาคต
1. เรียนรู้และปรับใช้แพลตฟอร์มออนไลน์
แน่นอนว่าการเข้าสู่โลกเสมือนจริงของ Metaverse คุณจะต้องออนไลน์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของคุณได้อย่างไร้ขีดจำกัด และจากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าธุรกิจมากมายหลายแห่งมีการปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์กันมากขึ้น แม้กระทั่งร้านขายอาหารตามสั่งยังผันตัวเข้ามาขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้น หากคุณยังไม่เริ่มทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว จงเริ่มเสียตั้งแต่วันนี้เลยนะครับ!!
สำหรับการนำธุรกิจเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ หากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่เน้นการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อาจใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram และ Twitter เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจให้เป็นที่รู้จัก ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ควรมีทั้งเว็บไซต์ทางการเป็นหลักเสียก่อน จากนั้นอาจขยับขยายลงสู่โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคให้มากขึ้น
หรือในกรณีที่ทำธุรกิจค้าขาย ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มสื่อกลางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจ e-Commerce เช่น Shopee และ Lazada เป็นต้น จุดเด่นของการค้าขายแพลตฟอร์มเหล่านี้คือคุณไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นหลักเป็นแหล่ง ก็สามารถขายสินค้าที่ต้องการได้ ดังที่เห็นว่าบางคนทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาภายในบ้านหรือคอนโดของตนเอง ก่อนจะนำสินค้าส่งมอบไปยังลูกค้าผ่านบริการโลจิสติกส์ใกล้บ้าน
2. ออกแบบโมเดล 2D
การออกแบบโมเดล 2 ในที่นี้หมายถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตามปกติ ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาเกม VR แท้จริงแล้วมันเริ่มต้นจากการสร้างเกมที่เล่นบนคอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอนโซล จากนั้นจึงเพิ่มคุณสมบัติในการรองรับอุปกรณ์ VR ให้ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของในเกมได้ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการเริ่มต้นพัฒนาเกมแบบปกติ สามารถนำไปสู่การต่อยอดเพื่อใช้ในโลก Metaverse ได้
เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ คุณอาจเริ่มต้นจากการเปิดเว็บไซต์หรือขายของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มฟีเจอร์ที่นำพาผู้บริโภคเข้าสู่โลกเสมือนจริงได้ทีละน้อย อย่างที่เราจะเห็นเว็บไซต์เครื่องสำอางบางแห่ง มีฟีเจอร์ให้ลูกค้าลองเครื่องสำอางแบบเสมือนจริง โดยการเปิดกล้องจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต แล้วลองเครื่องสำอางก่อนจะสั่งซื้อ จะเห็นได้ว่าจากจุดเริ่มต้นพัฒนาธุรกิจจากโมเดล 2D จะสามารถนำพาไปสู่โมเดล 3D ในอนาคตได้
3. โฟกัสกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ตรงกับการปรับตัวสู่ Metaverse
กลุ่มเป้าหมายก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน ๆ การทำธุรกิจจะต้องเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการจะขายสินค้าและบริการให้พวกเขา เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีความต้องการ, มีประสบการณ์ และมีความเข้าใจที่แตกต่างกันไป ยิ่งเมื่อคุณนำธุรกิจเข้าสู่โลก Metaverse อาจเป็นเรื่องยากในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สำคัญของคุณได้ ดังนั้น ในฐานะเจ้าของธุรกิจจะต้องศึกษากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อออกแบบทิศทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ยกตัวอย่างการทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น ผลิตภัณฑ์ในธุรกิจของคุณคืออุปกรณ์วัดความดันโลหิต แสดงว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณน่าจะเป็นผู้สูงอายุ ทั้งนี้ อย่าลืมว่าผู้สูงอายุอาจจะไม่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีหรือใช้เวลาบนโลก Metaverse มากนัก การนำเสนอผลิตภัณฑ์ควรเป็นไปอย่างกระชับ มีการแสดงผลที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ทั้งหมดนี้จะช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ของคุณในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้
4. สร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีในโลก Metaverse
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2003 เกม Second Life ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริง โดยผู้เล่นจะสามารถสร้างตัวละครเพื่อเป็นตัวแทนของตนเองขึ้นมา จากนั้นจึงเข้าไปใช้ชีวิตในเกมและทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ๆ ใน Second Life
จากความนิยมเหล่านี้ ทำให้บริษัทหลายแห่งได้โอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองภายในเกม Second Life นี้ ส่วนมากจะเป็นการนำเสนอป้ายโฆษณาในสถานที่ต่าง ๆ ในเกม ซึ่งมันสร้างความรำคาญให้กับผู้เล่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อการนำเสนอสินค้าในโลกเสมือนจริง
เมื่อโลก Metaverse มาถึง เชื่อว่าเหล่านักธุรกิจจะต้องแย่งกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างแน่นอน แต่จะทำอย่างไรให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว? นั่นคือการทำให้ลูกค้าสามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของผลิตภัณฑ์ และทราบถึงประโยชน์หรือข้อดีต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ มากกว่าการเห็นเพียงภาพโฆษณาที่แปะไว้ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งมันคงไม่ต่างไปจากป้ายไวนิลที่ลูกค้าเห็นในโลกความจริง
การทำให้สินค้ามีตัวตนขึ้นมาจึงต้องอาศัยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากขึ้น อาจเริ่มต้นด้วยการสร้างภาพเสมือนจริงของผลิตภัณฑ์แบบ 3D เมื่อลูกค้ายื่นมือไปแตะที่ตัวสินค้าก็จะมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แสดงขึ้นมาให้เห็น แต่อย่าลืมว่ารายละเอียดเหล่านั้นต้องกระชับและเน้นในจุดที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามากที่สุด เมื่อลูกค้าสามารถเข้าถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ได้ก็มีแนวโน้มที่พวกเขาจะซื้อไปใช้ด้วยเช่นกัน
5. ทำความเข้าใจกับ Cryptocurrency ที่จะใช้ในโลก Metaverse
เนื่องจาก Metaverse คือโลกเสมือนจริงบนระบบดิจิทัล ทำให้การใช้จ่ายต่าง ๆ บนโลกเสมือนจริงก็ควรดำเนินการผ่านระบบดิจิทัลด้วยเช่นกัน เงินคริปโตจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการใช้จ่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ใน Metaverse อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุที่เงินคริปโตกลายเป็นตัวเลือกที่ดีในการนำมาใช้จ่ายในโลกเสมือนจริง นั่นเป็นเพราะมันถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูงในการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการใช้จ่ายไม่ต่างจากการซื้อของออนไลน์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ในฐานะของเจ้าของธุรกิจการศึกษาเทคโนโลยีบล็อกเชนและเงินคริปโตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ บางทีคุณอาจจะสร้างเงินคริปโตเพื่อใช้ซื้อขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของคุณ หรืออาจใช้เป็นคูปองส่วนลดหรือแลกเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งในแนวทางประยุกต์ใช้เงินคริปโตให้เป็นประโยชน์ และสามารถนำมาต่อยอดในยุคของ Metaverse ได้ด้วย
ทั้งหมดนี้คือแนวทางในการพัฒนาธุรกิจของคุณให้เข้าสู่โลก Metaverse อย่างเต็มรูปแบบ คุณสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ตอนนี้ และเมื่อโลกเข้าสู่ยุค Metaverse อย่างจริงจังแล้ว สิ่งสำคัญประการสุดท้ายคือ การคำนึงถึงระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรมในโลก Metaverse ซึ่งแน่นอนว่า ความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว การเชื่อมต่อระบบจึงต้องมีเสถียรภาพสูงขึ้นตามไปด้วย สิ่งที่องค์กรธุรกิจต้องเตรียมคือการสร้างสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกันได้อย่างไม่สะดุด
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อรองรับการให้บริการเชื่อมต่อระหว่างผู้ให้บริการ Metaverse รายใหญ่ เพื่อเข้ามาให้บริการในภูมิภาค ASEAN โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง รวมถึงเชื่อต่อประเทศไทยกับ Digital Hub ที่สำคัญของโลก ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆ ในยุโรป ผ่านระบบเคเบิลใต้น้ำหลากหลายเส้นทางทั่วโลก
ซึ่งแน่นอนว่า หากคุณเตรียมพร้อมทั้งทักษะต่างๆ ในโลก Metaverse และ โครงข่ายการสื่อสารที่มีศักยภาพแล้ว ธุรกิจของคุณจะสามารถขึ้นสู่ระดับท็อปในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้บริโภคในโลก Metaverse ได้อย่างแน่นอน
องค์กรและผู้สนใจสามารถติดตามทุกเทรนด์เทคโนโลยีดิจิทัล ด้วย NT Network Solutions จาก บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยลูกค้าสามารถปรับใช้ระบบเครือข่ายและโซลูชันต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ ภายใต้คำแนะนำและการดูแลระบบจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ NT
สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Website: www.ntplc.co.th
Facebook: NTNetworkSolutions
Contact Center: 1888
Government Solutions: Tel.02 104 1111
Business Solutions: Tel.02 104 5555
Operator Solutions: Tel.02 104 8888
You must be logged in to post a comment.