อีกประมาณ 1-2 เดือน ทาง Microsoft ก็จะปล่อยอัพเดตใหม่ Redstone 4 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ Windows 10 แล้ว และวันนี้ก็มีข่าวที่น่าสนใจของ Windows อีกอย่างหนึ่งคือ การกำหนดเวอร์ชันของ Windows 10 แบบใหม่ สำหรับขายให้กับพาร์ทเนอร์นั่นเอง
ซึ่งเวอร์ชันต่างๆ ที่ Microsoft เปิดเผยมานี้ จะมีการกำหนดสเปคของเครื่องที่จะนำไปใช้ ดังนี้ครับ
Entry: Intel Atom/Celeron/Pentium ≤ 4GB RAM & ≤ 32GB SSD และ ≤ จอ 14.1” (NB), ≤ 11.6” (2in1, Tablet), ≥ 17” AiO
Value: Intel Atom/Celeron/Pentium ≤ 4GB RAM & ≤64GB SSD & ≤ จอ 14.1” (EM ≤ 4GB RAM & ≤64GB SSD หรือ ≤ 500GB HDD)
Core: จะได้รับเมื่อสเปคไม่อยู่ในข่ายของเวอร์ชัน Core+ และ Advanced
Core +: High end CPU และ >4 GB RAM (ทุกฟอร์มแฟคเตอร์) ≥8 GB RAM & การแสดงผล ≥1080p (NB, 2in1, AiO) >8 GB RAM & ≥2TB HDD หรือ SSD storage (Desktop)
Advanced: Intel Core i9 (รุ่นใดก็ได้) หรือ Core i7 ≥ 6 Cores (แรมเท่าไรก็ได้) หรือ AMD Threadripper(รุ่นใดก็ได้) หรือ Intel Core i7 >16GB (กี่คอร์ก็ได้) หรือ AMD FX/ Ryzen7 >16GB (กี่คอร์ก็ได้) หรือ การแสดงผล ≥ 4K (หน่วยประมวลผลรุ่นใดก็ได้ และต้องรองรับการแสดงผลระดับ 4K UHD-3840)
โดยราคาของ Windows แต่ละเวอร์ชันจะอยู่ที่ Advanced ($101), Core + ($86.66), Core ($65.45), Value ($45) และ Entry ($25) โดย Windows S จะไม่มีแล้วนะครับ แต่จะกลายเป็นโหมดๆ หนึ่ง ใน Windows พวกนี้แทน
ทีนี้การจัดเวอร์ชันใหม่มันดียังไง? เว็บไซต์ Thurrott ได้ให้ความเห็นว่า ในกรณีที่เราซื้อเครื่อง OEM ที่สเปคสูงๆ ก็จะต้องใช้ Windows เวอร์ชันสูงๆ ด้วยเช่นกัน แต่ในกรณีที่เป็นเครื่องระดับ Entry ก็จะได้ Windows ที่มีราคาถูกลง แต่สามารถใช้งานได้ดี ช่วยลดราคาของเครื่องที่เราซื้อมาด้วยครับ
สำหรับการจัดเวอร์ชันใหม่นี้ จะเริ่มในวันที่ 2 เมษายนนี้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thurrott.com/windows/windows-10/151578/new-windows-10-consumer-sku-roadmap-revealed
You must be logged in to post a comment.