สิ้นสุดการรอคอย เมื่อเวที Samsung Galaxy Unpacked 2015 ภายในงาน Mobile World Congress (MWC 2015) เป็นการเปิดตัว Flagship ตระกูล Galaxy S ถึงสองรุ่น ได้แก่ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge

ดีไซน์

Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge ออกแบบภายใต้แนวคิด Design with Purpose อันหมายถึงการออกแบบที่คิดถึงการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงหรือมีความจำเป็นจริงๆ มากขึ้น โดยส่วนของบอดี้มีการใช้ส่วนผสมของโลหะ และใช้ฝาหลังที่เป็นกระจกเพื่อเพิ่มความทนทาน แข็งแรงมากกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ถึง 50% ตัวเครื่องมีความบาง 6.8 มิลลิเมตร

หน้าจอ

ทั้งสองรุ่นเป็นหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้ว ความละเอียด Quad HD (577ppi) สูงกว่า Galaxy S5 ถึง 77% ใช้กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4 เหมือนกันทั้งสองรุ่น แต่ Galaxy S6 Edge หน้าจอจะเอียงลงทั้งซ้ายและขวาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (น้อยกว่า Galaxy Note Edge)

หน่วยประมวลผล

ภายในงานเปิดตัว Samsung ระบุว่าหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่เป็นแบบ 64-bit ใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบที่ 14 นาโนเมตร ช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 35% ในส่วนของแรมเปลี่ยนมาใช้ DDR4 ที่ดีกว่า DDR3 80%

ซอฟต์แวร์

เป็น Android Lollipop แต่ไม่ระบุว่าเป็นเวอร์ชันใด ซึ่งส่วนติดต่อกับผู้ใช้ต่างๆ เปลี่ยนไปจาก Note 4 ชัดเจน

แบตเตอรี่

เป็นไปตามข่าวลือเป๊ะ ! เพราะ Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อีกแล้ว แต่สำหรับประสิทธิภาพการใช้งานถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว ได้แก่ การชาร์จเพียง 10 นาที สามารถทำงานได้นาน 4 ชั่วโมง เร็วกว่า iPhone 6 ถึง 50% (กัดจิก iPhone แบบชัดเจน ฮ่าๆ ) และรองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ใช้ได้กับมาตรฐาน WPC และ PMA

กล้อง

กล้องหลังมีลักษณะนูนขึ้นมาเล็กน้อย ใช้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เท่ากับ Galaxy Note 4 แต่ปรับมาใช้เลนส์ F/1.9 มาพร้อมกับฟีเจอร์ Real-time HDR สามารถถ่ายได้ในสภาพแสงน้อยได้ดีย่งขึ้น และมีระบบป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพหรือ OIS ด้วย ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ปรับมาใช้เลนส์ F/1.9 เช่นเดียวกับกล้องหลัง รองรับฟีเจอร์ Real-time HDR ได้ด้วย

ซึ่งบนเวทีได้มีการเปรียบเทียบให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของกล้องถ่ายภาพและการบันทึกวีดีโอจาก Galaxy S6 ที่ดียิ่งกว่า iPhone 6 Plus ด้วย (กัดจิก iPhone 6 รอบสองจ้า)

ฟีเจอรใหม่

ถือเป็นลูกเล่นเฉพาะใน Galaxy S6 Edge ที่หน้าจอด้านข้างสามารถกำหนดรายชื่อผู้ติดต่อที่สำคัญที่สุด 5 รายชื่อ และสามารถกำหนดสีสันของแต่ละรายชื่อได้ เพียงใช้นิ้วปาดที่ไอคอนรายชื่อใดรายชื่อหนึ่งมาอีกด้านของหน้าจอ ก็จะปรากฎเป็นตัวเลือกที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารได้ นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ใช้คว่ำหน้าจอลง เมื่อมีการติดต่อเข้ามาจากรายชื่อที่กำหนดไว้ 5 รายชื่อ หน้าจอจะกระพริบเป็นแสงสีสวยงาม สำหรับแจ้งให้เจ้าของเครื่องทราบว่ามีการติดต่อเข้ามา

ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจ

– Samsung Pay

เป็นบริการชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟน ซึ่ง Samsung ได้นำเทคโนโลยี NFC และ MST (Magnetic Secure Transmission จากบริษัท Loopay ที่ Samsung ซื้อกิจการไปเมื่อเร็วๆนี้) รองรับการใช้งานร่วมกับเครื่องอ่านบัตรเครดิตปกติได้ เตรียมเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกช่วงหน้าร้อนนี้ในสหรัฐฯ และเกาหลี โดยมีพาร์ทเนอร์อย่าง Chase, Citi, US Bank, Bank of America, American Express. VISA และ MasterCard

– รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung Gear VR ได้ด้วย พร้อมให้ภาพคมชัดขึ้น 11%

– หน่วยความจำภายใน เริ่มต้นที่ 32GB, 64GB และ 128GB

– วางขายครั้งแรก 10 เมษายน ศกนี้

– ยังไม่ระบุราคาเปิดตัวในเวลานี้

ภาพและข้อมูลจาก The Verge