การ์ดจอตกรุ่นมีเฮล่าสุด NVIDIA ปล่อย DirectX 12 ให้ใช้งานได้กับ GeForce 400 และ 500 Series Graphics Cards

การ์ดจอตกรุ่นมีเฮล่าสุด NVIDIA ปล่อย DirectX 12 ให้ใช้งานได้กับ GeForce 400 และ 500 Series Graphics Cards

 

มาแบบเงียบๆตอนนี้ทาง NVIDIA ปล่อยให้ DirectX 12 สามารถใช้งานกับ Fermi ที่เป็น graphics cards, ซึ่งจะประกอบไปด้วย GeForce 400 และ GeForce 500 series, กับไดรฟเวอร์ตัวล่าสุด GeForce 384.76 drivers. เผอิญทางเรามีการ์ดจอ Zotac GTX 580อยู่ข้างๆซึ่งเป็นการ์ดจอรุ่นท๊อป ณ ขณะนั้นสำหรับสาย Fermi และน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีนำมันออกมาลองดูกับ NVIDIA DX12 ใหม่ซึ่งอยากดูขีดความสามารถของตัวไดรฟเวอร์ด้วย.

ประสิทธิภาพทางด้านเกมส์มิ่ง NVIDIA GTX 580 DirectX 12 ถูกทดสอบภายใต้ GeForce 384.76 Drivers

ทางเราเคยกล่าวเอาไว้หลายครั้งสำหรับทาง NVIDIA ที่เคยรับปากว่าจะทำให้การ์ดรุ่น Fermi GPU สามารถรองรับการใช้งาน DX12 เมื่อนานมาแล้ว, และแล้วเวลานั้นก็มาถึง. แน่นอนว่าระหว่าง DX12 และ DX12 รุ่นเพิ่มประสิทธิภาพนั้นขีดความสามารถนั้นต่างกัน. และแน่นอนว่า Direct3D 12 สามารถเข้ากับ Fermi GPUs ด้วย 384.76 เช่นกัน, แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรที่ดีขึ้นมามากเท่าไหร่ – และคิดว่า NVIDIA คงจะเปลืองเวลาโดยใช่เหตุหากไม่มีการตั้งใจจริงและเปลืองตัว DX12. เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า.

สิ่งที่นำมาร่วมทดสอบก็มี Sandy Bridge และอื่นๆอีก:

  • CPU: Core i7 2600K (4.2 GHz ทุกแกน)
  • Motherboard: AsRock Z77 Extreme 6 TB/4
  • RAM: 8 GB G.SKill RipJaws 1866 MHZ DDR3
  • SSD: Samsung EVO 512 GB
  • GPU: Zotac GTX 580 1.5 GB ( 850 MHz / 1002 MHz)
  • Drivers: GeForce 384.76

3DMark TimeSpy (DX12) และ FireStrike (DX11)

สิ่้งแรกที่เราทำ 3DMark TimeSpy. และน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับใครหลายคนที่อยากได้ DX12 applications มาขับเคลื่อนการ์ดจอรุ่นเก่าๆนี้เหตุเพราะมันมีการใช้ทรัพยากรจาก memory ค่อนข้างมาก. การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม 1.5 GB ที่เป็น vRAM สำหรับรุ่น GTX 580 คำตอบที่จะได้ฟันธงว่าเป็นคอขวดแน่นอน.

GTX 580 สามารถทำคะแนนได้ 786 Points ใน TimeSpy benchmark (อันนี้เป็นการเปรียยเทียยหรืออ้างอิงให้ดูเฉยๆ ASUS STRIX GTX 1070 ทำคะแนนได้ 6113 points). คงไม่ต้องพูดเยอะ-มันคนละเรื่องเลยของประสิทธิภาพ DX12 สำหรับการ์ดจอรุ่นเก่าๆ. แต่ใน  FireStrike benchmark ดันทำได้ดีกว่า. ทำคะแนนไปที่ 4806 Points (และ GTX 1070 ทำได้ 18,478) ซึ่งถือว่าใช้กับประสิทธิภาพ DX11 กับการ์ดรุ่นเก่าๆ. สรุปและเทียบได้ว่าสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาได้จาก DX12 synthetics, รุ่น 580 เพียงแค่ 1/8 หนึ่งในแปดหากเทียบกับ GTX 1070 ส่วน DX11 synthetics สามารถทำได้ดีขึ้นเป็น 1/4. ก็หมายความว่า DX12 performance ไม่สามารถผลักดันให้ Fermi cards ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว–อันนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงอาการคอขวดที่เกิดขึ้นเพราะจำนวนของ vRAM ที่มีมาให้นั้นน้อยเกินไป.

เปรียบเทียบประสิทธิภาพ DirectX 12 vs DirectX 11

สำหรับเกมส์ที่เป็น DX12 ที่เราใช้ในการทดสอบเป็น Battlefield 1 และวิ่งที่ความละเอียด 1080p และเซ็ตค่าไปที่ High preset. GTX 580 สามารถผ่านด่านไปได้ถือว่าดีเสียด้วยสามารถเล่นเกมส์ได้โดยมีเฟรมเรทที่ 38 FPS ต่ำสุดจะอยู่ที่ 35 FPS และสูงที่สุดจะได้ 43 FPS. แม้กระทั่งใน DX11 mode, ผลที่ได้ในเกมส์ Battlefield 1 ทำออกมาได้น่าทึ่ง.

หลังจากเปิดการใช้งาน DX12, ไม่มีอะไรดีขึ่นและคงเดิมในส่วนของ FPS.  เฟรมเรทตกไปที่ 25 และสูงที่สุดทำได้ 34 FPS. GTX 580 สามารถรักษาเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 28 FPS, แน่นอนเกือบจะเล่นได้และบางครั้งก็ค้างจนเป็นภาพนิ่ง. เกมส์เมอร์ทั้งหลายส่วนใหญ่แล้วจะชอบเล่นเกมส์ในเฟรมเรทที่สูงๆโดยการปรับค่าคูณภาพของภาพลงมาเป็นระดับปานกลางเพื่อให้เกมส์นั้นลื่นไหลดีขึ่น. ก็หมายความว่าตัวการ์ดสามารถรับไว้ในความละเอียดที่ 1080p 30 FPS ใน DX12 แต่ต้องปรับค่าให้ลดน้อยลงโดยเฉพาะกับเกมส์ระดับ AAA games.

GTX 580, ประสิทธิในเกมส์ระดับ AAA Titles (DX11), GeForce 384.76 – ผ่านไปได้ในระดับความละเอียดที่ 1080p gaming

หากจะถามว่าการ์ดจออายุขัยประมาณเจ็ดปีรุ่น GTX 580 สามารถรองรับเกมส์ระดับ 1080p ได้ไหม – ตอบว่าได้ครับ.

GTX 580 สามารถขยับมาในระดับที่สามารถเล่นเกมส์ได้โดยติดอ่างน้อยที่สุด การตั้งค่าทำแบบ High preset ในเกมส์ AAA titles (แน่นอนความลเอียดที่ 1080p resolution). สิ่งที่ปรากฏ, มีเพียงเกมส์เดียวที่ต้องปรับค่า preset ไปเป็นปานกลางคือเกมส์ Mass Effect: Andromeda. ส่วนในเกมส์ Mirrors Edge Catalyst, ค่าอยู่ที่ High Preset, GTX 580 สามารถทนอยู่ได้ที่ 40 FPS, ต่ำสุดที่ 36 FPS และสูงสุดที่ 46 FPS. ในเกมส์ Mass Effect Andromeda, ด้วยการปรับค่าที่ Medium Preset, ตัวการ์ดสามารถพยุงเฟรมเรทเอาไว้ได้ที่ 42, ต่าสุดที่ 35 และ 49 สูงสุด. สำหรับ Battlefield 1 การ์ด GTX 580 ทำได้เฉลี่ยที่ 38 และต่ำที่สุดที่ 35 และ 43 สูงสุด.

ด้านล่างเป็นภาพ screenshots ในเกมส์ที่จะได้จากการเซ็ตค่าต่างๆที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

ที่มาเครดิต/Sources:

http://wccftech.com/nvidia-gtx-580-dx-12-benchmarks-geforce-384-76-geforce-400-500-series-direct-x-12/

Related articles

เกมเมอร์พร้อมบวก! “realme 14 Series 5G” คอลแลบ “Free Fire” พร้อมขึ้นแท่นเกมมิ่งโฟนแห่งปีด้วยบอดี้สุดล้ำปฏิวัติวงการ โดดเด่นด้วย Mecha Design และกรอบไฟ Victory Halo สุดเฉี่ยว

สร้างปรากฏการณ์สุดว้าวก่อนการเปิดตัว! เมื่อ realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ประกาศการจับมือเป็นพันธมิตรอีกครั้งระหว่างเกมชูตติ้งสุดมันส์ระดับโลก “Free Fire” กับสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด...

รวมข่าวลือ !! การ์ดจอรุ่นเล็กสองค่ายแดง-เขียว: RTX 5060 / RTX 5050 / RX 9060 / RX 9050 คุ้มค่าอัปเกรดไหมในปี 2025

ตัวท็อป ๆ เขาก็ออกกันมาหมดแล้ว รอบนี้ถึงคราวการ์ดจอรุ่นกลางและรุ่นเล็กจาก AMD และ NVIDIA ไปดูกันว่าจะมีข่าวลือสเปกอะไรออกมาบ้างครับ NVIDIA GeForce...

รีวิวจากมุมมองคนนอกวงการ – สอบ Security Analyst Level 1 (SAL1) เซอร์ใหม่จากค่าย TryHackMe สอบฟรี !!

สอบไปตั้งหลายวันแล้วล่ะ แต่เพิ่งได้มีเวลาเขียนรีวิววันนี้นี่แหละ เพราะนี่คือใบเซอร์ Security Analyst Level 1 (SAL1) จากค่าย...

เจาะลึก RDNA 4 และการ์ดจอ Radeon RX 9070 Series การ์ดจอเน้นตลาดกลาง แต่แรงระดับ High-end

หลังจากที่รอคอยมานานแสนนาน ลือแล้วลืออีก ในที่สุดก็เปิดตัวสักทีสำหรับ AMD Radeon RX 9070 Series รอบนี้...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า