เพื่อตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ที่ต้องการซีพียูประสิทธิภาพสูงสุดจาก Intel แต่ต้องการประหยัดงบให้ได้มากที่สุด ทาง Intel จึงได้เปิดตัว Intel Core i9-10850K ซึ่งมีแกนประมวลผล 10 Cores/20 Threads เทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง Core i9-10900K
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างซีพียูสองรุ่นนี้ คือความเร็ว โดย Core i9-10850K จะมีความเร็ว 3.6/5.2 GHz ในขณะที่ Core i9-10900K จะมีความเร็ว 3.7/5.3 GHz พร้อมส่วนต่างของราคาประมาณ 2,500 บาท จะเห็นได้ว่าความเร็วลดลงเพียง 100 MHz แต่ลดราคาลงได้มากเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยวก่อน !! นี่มันซีพียูรหัส K ซึ่งเราสามารถ Overclock เพิ่มความเร็วได้นี่นา เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถ OC ให้ Core i9-10850K แรงขึ้นเทียบเท่าหรือแรงกว่า Core i9-10900K มันคงคุ้มค่าน่าดู ซึ่งวันนี้ผมมี 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการ OC ซีพียู Core i9-10850K ให้แรงเท่ารุ่นพี่ ด้วยโปรแกรม Intel Extreme Tuning Utility (XTU) จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยครับ
รู้จักโปรแกรม Intel Extreme Tuning Utility (XTU)
เมื่อก่อนการ OC ซีพียู จะต้องเข้าไปตั้งค่าในไบออสเพื่อปรับเปลี่ยนค่าตัวเลขต่าง ๆ ให้เหมาะสม ซึ่งสำหรับมือใหม่แล้วถือว่าใช้งานค่อนข้างยาก และละเอียดล้ำลึกเกินกว่าจะเข้าใจได้ Intel เล็งเห็นถึงปัญหาในจุดนี้ จึงได้เปิดตัวโปรแกรม Intel Extreme Tuning Utility หรือ Intel XTU ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ OC ซีพียูบน Windows ได้เลย
ส่วนใครที่กลัวว่าโปรแกรมนี้จะส่งผลให้เกิดจอฟ้ามรณะ อันนี้ไม่ต้องกังวลเลยครับ หากมีการตั้งค่าที่ไม่เหมาะสม Intel XTU จะสามารถรีเซตค่าต่าง ๆ กลับไปอยู่ในจุดเดิมก่อนเกิดจอฟ้าได้ อีกทั้งยังมีหน้าต่างตรวจวัดการทำงานและประเมินความร้อนของซีพียู ถ้าเราเห็นว่าตั้งค่ามาแล้วซีพียูร้อนเกินไป ก็สามารถปรับเปลี่ยนค่าให้เหมาะสมได้ตามตั้งการครับ
ทีนี้ระบบการปรับแต่งเพื่อ OC ซีพียู Intel Core K-Series นั้น จะประกอบไปด้วย 2 โหมด ได้แก่ Basic Tuning และ Advanced Tuning ซึ่งในโหมด Basic จะเหมาะกับผู้ใช้ในระดับเริ่มต้น ที่ต้องการประสบการณ์การ OC ครั้งแรก จึงใช้งานได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก ส่วนโหมด Advanced จะสามารถปรับตั้งค่าได้ละเอียดมาก (มาก ๆ) แต่ก็ต้องอาศัยความชำนาญในระดับหนึ่ง
เพราะฉะนั้น ในการ Overclock ในบทความนี้ ผมจะเน้นการใช้โหมด Basic Tuning อย่างน้อยคือให้เพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยน Intel Core i9-10850K ให้กลายเป็น Core i9-10900K ภายใน 3 ขั้นตอนครับ
ไป OC กันเล้ย !!
เริ่มแรกติดตั้งโปรแกรม Intel XTU โดยดาวน์โหลดได้จาก ลิ้งก์นี้ จากนั้นเปิดโปรแกรมแล้วเลือกไปที่แท็บ Basic Tuning
ในหน้านี้เพื่อน ๆ จะสังเกตเห็นปุ่ม “Run Benchmark” ตรงนี้ให้เพื่อน ๆ กดเพื่อเป็นการทดสอบประสิทธิภาพ “ก่อนการ OC” เก็บเอาไว้เพื่อใช้เทียบความแรงที่เพิ่มขึ้นหลังการ OC โดยการทำ Benchmark จะกินเวลาประมาณ 2 นาที เมื่อเสร็จแล้วมันจะขึ้นคะแนนที่ทำได้ไว้ใน Step 1.
จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่การ OC ใน Step 2. ประกอบด้วย Processor Core Ratio อันนี้คือส่วนของการปรับค่าตัวคูณ หรือปรับค่าความเร็วของซีพียูโดยตรง ส่วน Processor Cache Ratio เป็นการปรับค่าความเร็วในการติดต่อของแกนประมวลผลไปยังแคชภายใน ทีนี้เรามาดูหลักการในการ OC กันนะครับ
วิธีที่เซฟที่สุด มีดังนี้
1.ปรับค่าตัวคูณ ด้วยการปรับเพิ่ม Processor Core Ratio เพิ่มขึ้น 1x
2.ปรับค่าความเร็วแคช ด้วยการปรับเพิ่ม Processor Cache Ratio เพิ่มขึ้น 1x
3.ที่หน้าต่างด้านขวามือ ให้กด Apply แล้วกด Save ซึ่งเป็นการเซฟโปรไฟล์ไว้ว่าเราจะให้มันจำค่านี้ และเปิดใช้งานทุกครั้งที่เปิดคอม
4.ไปยัง Step 3. กด Run Benchmark อีกครั้ง เพื่อดูคะแนนหลังการ OC และดูความเสถียรหลังการ OC
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนเหล่านี้ หากผ่านการ Run Benchmark ใน Step 3. ไปได้ด้วยดี แสดงว่าระบบค่อนข้างเสถียรพอในการใช้งาน แต่ถ้าในระหว่างการ Run Benchmark แล้วเกิดอาการคอมค้าง หรือเกิดจอฟ้ากลางครัน ให้ทำการรีสตาร์ตคอมใหม่อีกครั้ง ตัวโปรแกรม Intel XTU จะคืนค่าดั้งเดิมที่เรากดเซฟเอาไว้ แสดงว่าค่าที่เซฟไว้นี้ไม่น่าจะใช้งานได้แล้ว ให้เพื่อน ๆ ลดตัวคูณใน Processor Core Ratio และ Processor Cache Ratio ลงมาทีละ 1x จนกว่าจะเสถียร
เท่านี้ทุกคนก็สามารถ OC ซีพียู Intel Core K-Series ได้อย่างง่ายดาย และผมเชื่อว่าใครที่ใช้ Intel Core i9-10850K ก็น่าจะสามารถ OC จนได้ความแรงที่มากกว่า Core i9-10900K ดั้งเดิมเสียด้วยซ้ำ ยังไงก็ทดลองใช้งานกันดูนะครับ หากชำนาญแล้วจะลองใช้งาน Advanced Tuning สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก ลิ้งก์นี้ เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.intel.sg/content/www/xa/en/gaming/resources/overclocking-xtu-guide.html?countrylabel=Asia%20Pacific
You must be logged in to post a comment.