อะโดบี อัปเดตเทคโนโลยีแต่งรูปครั้งใหญ่กลางปี ที่สาวกห้ามพลาด!

อะโดบี อัปเดตครั้งใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์ตระกูล Adobe Photography ครอบคลุมทั้งฟีเจอร์การทำงานร่วมกันใน Lightroom รวมไปถึงเพิ่ม Premium Preset ที่มาพร้อมกับหมวดแต่งรูปใหม่ๆ ที่ออกแบบเป็นพิเศษโดยช่างภาพชื่อดังในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพในการแก้ไขภาพถ่ายอีกด้วย

Premium Preset (ACR, Lightroom Classic, Lightroom Mac/Win, iOS, Android, เว็บ)

แอปพลิเคชั่น Adobe Photography ทั้งหมดประกอบด้วย Premium Preset ชุดใหม่ ซึ่งเป็น Preset คุณภาพสูงสำหรับการแก้ไขภาพถ่าย ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มช่างภาพร่วมสมัยชื่อดังและเปี่ยมด้วยพรสวรรค์หลายท่าน  ชุด Premium Presets ชุดแรกประกอบด้วย Preset ใน 7 หมวดได้แก่ Portraits-Deep Skin, Portraits-Medium Skin, Portraits-Light Skin, Cinematic, Futuristic, Vintage และ Travel และสาวกแต่งรูปต้องไม่พลาด เพราะจะมีการเพิ่ม Preset ในคอลเลกชั่น Premium Preset นี้ในอนาคตอีกด้วย

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Premium Preset และช่างภาพผู้สร้างสรรค์ค่า Preset ดังกล่าวได้ที่บล็อกโพสต์นี้

แก้ไขงานร่วมกันได้สะดวกขึ้น (Lightroom Mac/Win, iOS, Android, เว็บ)

ผู้ใช้งานสามารถทำงานร่วมกันบน Lightroom ผ่านคลาวด์ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการแชร์ภาพถ่าย โดยอัปเดตเวอร์ชันก่อนหน้า และสามารถเชิญเพื่อนให้เข้ามาดูภาพถ่ายในอัลบั้มและยัง เพิ่มภาพถ่ายไว้ในอัลบั้มได้ด้วย และในอัปเดตล่าสุดของ Lightroom ได้เพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถเชิญเพื่อนให้แก้ไขภาพถ่ายในอัลบั้มได้อีกด้วย

ตอนนี้ ผู้ที่ได้รับเชิญจะสามารถแก้ไขภาพถ่ายในอัลบั้มที่แชร์ร่วมกัน และโดยการแก้ไขต่างๆ จะปรากฏในไลบรารี Lightroom ของเจ้าของอัลบั้มโดยตรง  การแก้ไขของทุกคนจะถูกบันทึกอัตโนมัติในรูปแบบของเวอร์ชัน (Versions) โดยมีการระบุชื่อผู้แก้ไข (Editor) ดังนั้นจึงสามารถสลับไปมาระหว่างภาพที่แก้ไขโดย Editor แต่ละคน หรือเรียกคืนภาพเวอร์ชันก่อนหน้าได้

Super Resolution (Lightroom Classic, Lightroom Mac/Win)

Super Resolution ฟีเจอร์นี้เปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาใน Adobe Camera Raw และตอนนี้พร้อมใช้งานใน Lightroom และ Lightroom Classic ด้วยเช่นกัน  Super Resolution ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความละเอียดให้กับภาพถ่ายได้ถึง 4 เท่า และให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมและแม่นยำ  ลองนึกถึงการเปลี่ยนภาพถ่าย 10 ล้านพิกเซลให้กลายเป็นภาพถ่าย 40 ล้านพิกเซล หรือการขยายภาพถ่ายเก่าๆ ที่ถ่ายด้วยกล้องความละเอียดต่ำเพื่อพิมพ์เป็นภาพขนาดใหญ่ หรือการใช้ฟีเจอร์ “ดิจิทัลซูม” ขั้นสูงเพื่อขยายขนาดของบุคคลหรือวัตถุในภาพ รวมไปถึงการประยุกต์ใช้งานในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย!

สำหรับข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ Super Resolution โปรดดูที่บล็อกโพสต์นี้ จากเอริค ชาน วิศวกร ACR

รองรับ Apple Silicon แบบเนทีฟ (Lightroom Classic)

Lightroom Classic สามารถรันแบบเนทีฟบนคอมพิวเตอร์ Mac ที่ใช้ชิป M1 โดยไม่ต้องใช้โหมด Rosetta และทำงานได้อย่างรวดเร็ว!  การผสานรวม Lightroom Classic ที่ปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับชิป M1 เข้ากับคอมพิวเตอร์ M1 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม กล่าวคือ เมื่อเทียบกับเครื่อง Mac ที่ใช้ชิป Intel ซึ่งมีสเปคใกล้เคียงกัน พบว่าการดำเนินการส่วนใหญ่ใน Lightroom Classic บนเครื่อง M1 Mac เร็วกว่า 2 เท่า เช่น การเปิดโปรแกรม Import-Export และการไล่ดูภาพถ่ายในมุมมอง Loupe View ส่วนการดำเนินการอื่นๆ ก็เร็วยิ่งขึ้นไปอีก เช่น ฟีเจอร์ Super Resolution เร็วขึ้น 3 เท่า และการแก้ไขภาพถ่ายเป็นชุดเร็วขึ้น 4 เท่า  สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่ปรับปรุงดีขึ้น โปรดดูผลการทดสอบขององค์กรอื่น

Tethered Live View สำหรับ Nikon (Lightroom Classic)

ช่างภาพที่ใช้ Tethered Capture จะไม่ค่อยรีช viewfinders เมื่อถ่ายภาพ แต่ด้วย Live View คุณสามารถดูฟีดแบบเรียลไทม์ของกล้องใน Lightroom Classic เพื่อปรับแต่งองค์ประกอบ โฟกัส และการเปิดรับแสงได้ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อทำงานร่วมกับทีมเบื้องหลัง Tethered Live View พร้อมใช้งานสำหรับกล้อง Nikon บางรุ่นแล้ว สามารถดูรายการกล้องที่รองรับทั้งหมดได้ที่นี่

อัตราส่วนการครอบภาพแบบกำหนดเอง (Lightroom Mac/Win)

พูดกันตามตรงก็คือ นี่เป็นฟีเจอร์ที่เรารอคอยกันมานาน โดย Lightroom รุ่นก่อนหน้าให้คุณเลือกได้เฉพาะอัตราส่วนกว้าง-ยาว (Aspect Ratio) ที่ถูกกำหนดไว้สำหรับการครอบตัด (Crop) (หรืออาจใช้ Freehand เพื่อครอบตัดภาพตามอัตราส่วนกว้าง-ยาวที่ต้องการ แต่ขั้นตอนค่อนข้างจะยุ่งยาก) แต่ใน Lightroom รุ่นล่าสุดนี้ ผู้ใช้สามารถระบุตัวเลขที่แน่ชัดสำหรับอัตราส่วนกว้าง-ยาวที่ต้องการใช้ในการครอบตัดภาพ เช่น 2.4 x 7.3