ทดสอบการเล่น Need for Speed: Payback ด้วยไดรเวอร์ Radeon Adrenalin – เฟรมเรตจะเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ มาดูกันเลย

สวัสดีครับเพื่อนๆ ต้องขออภัยที่มาช้าไปหน่อย เพิ่งมีเวลาได้ทดลองการใช้งาน Radeon Adrenalin เห็นเขาบอกว่ามันเพิ่มประสิทธิภาพเกมได้ถึง 19% เลยทีเดียว งานนี้ผมขอถอดการ์ดจอค่ายเขียวออก แล้วนำเจ้า AMD Radeon RX 470 มาใช้งานดูบ้าง จะเร็วจะแรงแค่ไหน ไปดูกันเลยครับ

ในครั้งนี้ผมจะทดสอบการเล่นเกม Need for Speed: Payback (เนื่องจากว่าผมได้ลงคอมใหม่ ก็เลยมีเกมใหญ่ๆ ให้ทดสอบอยู่เกมเดียว T T) โดยสเปคเครื่องที่ใช้ทดสอบจะมีดังนี้

CPU: AMD Ryzen 3 1200 @3.9 GHz
Mainboard: Asrock AB350M-HDV
RAM: 8 GB @2997 MHz
GPU: AMD Radeon RX 470 4GB (ใช้ไดรเวอร์ 17.11.4 และ 17.12.1) และ Nvidia Geforce GTX 1050 Ti (ใช้ไดรเวอร์ WHQL 388.59)
Resolution: 1600×900

การตั้งค่าเกมผมจะเซตไว้ที่ Ultra นะครับ

และเนื่องจากว่าตัวเกมจะไม่มีตัวทดสอบ Benchmark มาให้ ผมเลยจะต้องทดสอบขับรถด้วยตัวเอง แล้วใช้โปรแกรม Fraps ในการบันทึกค่า FPS ซึ่งผลที่ได้มีดังนี้

จะเห็นได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบเฟรมเรตเฉลี่ยของผลที่ได้จากไดรเวอร์ Adrenalin ให้ประสิทธิภาพดีกว่า Crimson ประมาณ 10 FPS หรือถ้าคำนวณเป็นร้อยละ ก็จะไดเฟรมเรตเพิ่มขึ้น 10-12% เลยทีเดียว ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะไม่ต้องเปลี่ยนการ์ดจอใหม่ แค่อัพเดตไดรเวอร์ เฟรมเรตก็เพิ่มขึ้นแล้ว

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ของ Radeon Adrenalin นั้น คือ In-Game Overlay ที่สามารถวัดค่าสถานะต่างๆ ในระหว่างการเล่นเกมได้ (รูปนี้ผมถ่ายด้วยมือถือ เพราะเวลาเซฟหน้าจอแล้วมันจะไม่ติดส่วนโอเวอร์เลย์นี้มาด้วย)

ส่วนนี้จะเป็นการเปิดใช้งานโอเวอร์เลย์เพื่อบ่งบอกค่าสถานะต่างๆ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงค่าอะไรบ้าง

ถัดมาจะเป็นส่วนของ Radeon Chill เป็นโหมดที่ช่วยให้การ์ดจอประหยัดพลังงาน มีการปรับการทำงานให้เหมาะสมกับการตอบสนองของเกม ช่วยให้อุณหภูมิของการ์ดจออยู่ในระดับที่พอเหมาะครับ (แต่ตรงนี้ผมไม่ได้เปิดใช้สำหรับเกมนี้นะ)

ต่อมาคือการปรับแต่งสี ตรงนี้ผมค่อนข้างชอบ เพราะเราสามารถปรับแต่งสีในจอให้สวยขึ้นตามที่เราต้องการได้ ซึ่งส่งผลให้ภาพในเกมดูสดมากขึ้น ใครชอบสีจัดจ้านปรับตรงส่วนนี้ได้เลย

แถมอีกหนึ่ง เป็นส่วนจัดการแกลเลอรีภาพถ่ายหน้าจอ พอถ่ายภาพเสร็จ ก็สามารถอัพโหลดภาพไปยังโซเชียลมีเดียผ่านโปรแกรม Radeon Settings ได้ทันทีครับ

*** ทุกคนต้องอย่าลืมไปเปิดใช้งาน Radeon ReLive ใน Radeon Settings ด้วยนะครับ ไม่งั้นโอเวอร์เลย์จะใช้งานไม่ได้ ***

*** สำหรับโอเวอร์เลย์ที่เป็นการปรับ Performance ในเกม (ปรับในส่วนที่ผมกล่าวมา) จะต้องเข้าเกมก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้น ถ้าเปิดดูในหน้าเดสก์ทอปธรรมดา จะไม่พบแถบ Performance ให้ปรับแต่ง ***

สำหรับการสตรีมมิ่งอันนี้ผมยังไม่ได้ลองทดสอบนะครับ แต่คาดว่าใน Adrenalin ก็น่าจะทำได้ดีเช่นกัน (เพราะ Crimson ก็ทำออกมาดีอยู่แล้ว) ครับ

ในการใช้งานส่วนใหญ่ผมว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ดูแล้วพวกโอเวอร์เลย์ยังไม่ค่อยเสถียรเท่า พบปัญหาค้างอยู่ 2-3 ครั้ง แล้วเวลากดยุบหน้าต่างเกม โอเวอร์เลย์จะหายไปทันที อันนี้คงต้องรออัพเดตให้สเถียรขึ้นนะครับ

โดยส่วนตัวผม จะชอบก็แต่การรีดประสิทธิภาพการ์ดจออกมาได้มากขึ้น ส่งผลให้ค่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้น การ์ดจอเดิม แต่ได้ประสิทธิภาพเพิ่ม ถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียว แนะนำให้อัพเดตนะครับ เพื่อการเล่นเกมที่ดีขึ้น

สำหรับแอพ AMD Link ในสมาร์ทโฟน ตอนนี้ผมยังมีปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ถ้าเกิดว่าใช้งานได้แล้ว เดี๋ยวผมจะมารีวิวให้อีกทีนะครับ สวัสดีครับ

Related articles

รู้จัก DeepSeek: AI น้องใหม่แซงหน้า GPT – ร่วมมือกับ AMD ผนวกเข้ากับ AMD Instinct

พี่จีนทำโลกตะลึงอีกแล้ว ด้วยการเปิดตัว DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับเจ้าตลาดอย่าง OpenAI ChatGPT แถมยังใช้ต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าหลายเท่า...

สรุปงาน CES 2025 – ปีนี้ AMD เปิดตัวอะไรเด็ด ๆ บ้างไปดูกันเล้ยยย !!

งาน CES 2025 ปีนี้ หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยากเห็นเทคโนโลยีน่าตื่นเต้นจากหลาย ๆ ค่าย และในบทความนี้แอดจะพาเพื่อน...

ดูดวงปีใหม่ 2025 แบบฉบับคน IT ด้วย AI ทั้งอ่านไพ่ทาโรต์และวิเคราะห์ Birth Chart

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว วันนี้แอดมีเรื่องน่าสนุก ๆ และหลายคนน่าจะชื่นชอบมาฝาก คือ การดูดวง 55555 แต่สำหรับชาว Extreme...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า