รีวิว PICO 4 แว่น VR HEADSET แบบ All-in-One เต็มอิ่มทั้งความบันเทิงและการเล่นเกม

หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานมา นานมากๆเดือนกว่าๆเพราะต้องทำความรู้จักกับมันให้มากที่สุดสำหรับ PICO 4 แว่น VR HEADSET แบบ All-in-One ที่ตอบโจทน์ทั้งความบันเทิงและการเล่นเกมภายในบ้าน การเล่นเกมสามารถเอาไปต่อยอดเรื่องการออกกำลังกายได้ด้วยครับ เช่นเกมแนวต่อยมวย ตีปิงปอง เกมพวกนี้สามารถช่วยให้ออกกำลังกายได้ด้วย มาพร้อมกับเลนส์แบบ Pancake ที่ให้มุมกว้างเป็นพิเศษแถมยังมีความคมชัดสูง

และ PICO 4 ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon XR2 ที่สามารถเล่นเกมได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น สามารถเล่นเกมได้นานถึง 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งรอบกับแบตเตอรี่ 5300 mAh ทั้งหมดนี้กับค่าตัวเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท

SPEC PICO 4

  • จอ LCD ขนาด 2.56 นิ้ว 2 จอ ความละเอียดรวม 4,320 x 2,160 พิกเซล 1200PPI อัตรา Refresh Rates 72Hz / 90Hz
  • ชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon XR2
  • RAM 8 GB
  • ROM 128-256 GB
  • ระบบปฏิบัติการ PICO OS 5.0
  • ระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทาง 360°
  • Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.1
  • ระบบตรวจจับระบุตำแหน่งรอบทิศทาง 6 ทิศทาง
  • แบตเตอรี่ 5300 mAh
  • ราคาจำหน่าย  8/128 ราคา 13,990 บาท และรุ่น 8/256 ราคา 15,990 บาท

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีมาให้ตามนี้ครับผม

  1. ตัวแว่น VR PICO 4
  2. ชุดคอนโทรลเลอร์ ซ้าย-ขวา
  3. Adapter สำหรับชาร์จแบต
  4. สาย USB-C
  5. แผ่นยางรองจมูก
  6. แท่นรองสำหรับคนที่สวมแว่น
  7. คู่มือการใช้งานพร้อมใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

PICO 4 มาพร้อมกับหน้าจอ Super-Vision พาแนลแบบ LCD ขนาด 2.56 นิ้ว(ต่อข้าง) ความละเอียดรวม 4K+ 4,320 x 2,160 พิกเซล 1200PPI อัตรา Refresh Rates 72Hz / 90Hz

ชุดเลนส์สามารถขยับได้เพื่อให้เข้ากับสายตาของแต่ละคน สามารถปรับจุดโฟกัสได้เอง (เราต้องเข้าไปตั้งค่าในเมนูอีกที) ภาพถือว่าสวยงามและมีค่าความสว่างสูงมากๆ ชุดเลนส์แบบ Pancake ช่วยให้มุมมองกว้างกว่าเดิมถึง 105°

สำหรับคนที่สวมแว่น จะมีกรอบรองมาให้นะครับ โดยส่วนตัวผมสวมแว่นเมื่อลองสวมใส่ถือว่าสะดวกมากๆ ไม่หนีบขาแว่นจนเกิดการเจ็บเลย และจะมีแผ่นรองจมูกมาให้แบบพลาสิกอ่อนๆเพื่อกั้นแสงจากภายนอกเข้ามาสู่สายตาเราขณะใช้งาน

เซ็นเซอร์ตรวจจับระบุตำแหน่งด้วยแสงอินฟราเรดและเซ็นเซอร์ออปติคอลแบบ 6DoF จับการเคลื่อนไหว 6 ทิศทาง

ด้านข้างจะติดตั้งลำโพงมาให้ซ้าย-ขวา พร้อมระบบเสียงสเตอริโอรอบทิศทาง 360° ด้านข้างๆจะมีปุ่มปรับระดับเสียงมาให้

สำหรับการชาร์จไฟ จะชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่อยู้ข้างๆ

PICO 4 ออกแบบดูสวยและทันสมัยมากๆ แถมยังมีน้ำหนักเบาด้วย โดยมีขนาดตัวแว่นอยู่ที่ 255-310 x 163 x 80 มม. น้ำหนัก 295 กรัม ถ้ารวมสายด้วยจะอยู่ที่ 586 กรัม

การสวมใส่ถือว่าสบายมากๆ สามารถปรับระดับของหัวแต่ละคนได้

คอนโทรลเลอร์คู่แบบ 6DoF สามารถจับความเคลื่อนไหวรอบทิศทางทั้ง 6 แกนด้วยเซ็นเซอร์ที่แม่นยำ ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสรีระการจับ(Ergonomic)ถือกระชับมากๆ ตำแหน่งปุ่มควบคุมใช้งานง่ายมีก้าน Tracking Ring มาให้ทั้งสองข้าง การตอบสนองถือว่าทำได้ดี ใส่แบตเตอรี่ขนาด AA 2 ต่อข้างนะครับ

คุณสมบัติการใช้งาน

สำหรับ PICO 4 ทำงานผ่านแอปพลิเคชันชื่อว่า PICO VR รองรับทั้ง iOS และแอนดรอยส์ เมื่อเชื่อมต่อเสร็จให้เชื่อมต่อ wifi เพื่อเข้าไปใช้งาน ตัวเครื่อง PICO 4 สามารถเข้าไปติดตั้งแอพใช้งานเพิ่มได้ จะมีให้โหลดเพิ่มใน PICO VR Store มีทั้งฟรีและเสียตังค์นะครับ รวมทั้งเกมด้วย

เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานตัวเครื่องได้อย่างละเอียด ทั้งล็อคอินไวไฟ , ปรับระยะโฟกัสของดวงตา , ปรับค่าความสว่างของหน้าจอ รวมไปถึงการแจ้งเตือนของแบตเตอรี่

เกมต่างๆมีให้โหลดใช้งานเยอะพอสมควร ส่วนตัวที่ชอบสุดน่าจะเกมแนวออกกำลังกายครับ เพราะจะได้เล่นเกมพร้อมออกกำลังกายไปพร้อมๆกัน

เล่นเกมได้ไหลลื่นกับชิปประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon XR2

โดยหน่วยความจำจะมีให้เลือก 2 ความจุคือ

  • RAM 8 GB / ROM 128 GB
  • RAM 8 GB / ROM 256 GB

นอกจากการเล่นเกม ยังมีโหมดให้ความบันเทิงอีกด้วย สามารถเข้าไปดู youtube และ disney+ ได้โดยตรงจากตัวเครื่อง และยังสามารถหาไฟล์วีดีโอเข้ามาดูที่ตัวเครื่องได้โดยตรงเช่นกัน มุมมองการรับชมเหมือนการนั่งดูหนังในโรง imax เลยครับ อยากให้ลองสัมผัสกันจริงๆ

แบตเตอรี่ขนาด 5300 mAh สามารถเล่นเกมได้ราวๆ 2 ชั่วโมงนะครับ แต่ถ้าดูหนังจะลากยาวได้ถึง 3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว พอเพียงแล้วครับกับการใช้งานหนึ่งรอบ

สรุป

PICO 4 กับค่าตัวเริ่มต้นที่ 13,990 บาท สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษทั้งการเล่นเกมและความบันเทิง แถมยังเอาไปต่อยอดการออกกำลังกายได้ด้วย เกมมีให้เลือกเล่นหลากหลายรูปแบบดีครับ หน้าจอแสดงผลได้คมชัดสมจริงมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ควรลอง

Related articles

เสริมความรู้กันหน่อย – เรียนฟรี ได้ใบเซอร์ กับ NVIDIA Academy

ใครชอบล่าใบเซอร์ห้ามพลาด ผมเจอของดีจาก NVIDIA Academy สำหรับใครที่อยากเพิ่มความรู้แบบฟรี ๆ เขามีบทเรียนสอนฟรี สอบฟรี ได้ใบเซอร์ด้วยนะ เข้าไปสมัครผ่านเว็บไซต์...

ไดร์เป่าผม Dreame Pocket ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของ TIME ประจำปี 2567

ไดร์เป่าผม Dreame Pocket จาก ดรีมมี เทคโนโลยี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดของ TIME ประจำปี 2567 13...

เปิดตัว Soundcore Pro Series สัมผัสประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับ กับ “โปรขั้นเทพ ตัดทุกเสียงรบกวน”

ครั้งแรกกับการเปิดตัว Soundcore Pro Series ในประเทศไทย พร้อมให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับ กับ “โปรขั้นเทพ ตัดทุกเสียงรบกวน” 9 ธันวาคม...

ดรีมมี เปิดสาขาใหม่ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ซีคอนสแควร์ จำหน่ายสินค้าและบริการแบบครบวงจร

ดรีมมี เทคโนโลยี (dreame Technology) บริษัทนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเติบโตในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ดรีมมี ลุยตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มตัว โดยได้ขยายสาขาหลายแห่งทั่วกรุงเทพ เพื่อมอบบริการที่ครอบคลุมให้กับผู้ใช้ในหลากหลายพื้นที่ ล่าสุดได้เปิดตัว...

Synology RackStation RS1221+ เครื่อง NAS ตัวเทพ มีติดไว้อุ่นใจทั้งสตูดิโอ

นี่คือไอเทมหนึ่งที่สายทำงาน สายสตูดิโอ และสายธุรกิจไม่ควรพลาด Synology RackStation RS1221+ เครื่อง NAS ตัวเทพ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า