รีวิว OPPO Reno10 5G ครั้งแรกกับกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ในเรทราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท

เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายไปแล้วสำหรับ “OPPO Reno10 Series 5G” โดยจะมากันทั้งหมดสามรุ่นพร้อมกันนะครับ และรีวิวนี้จะเป็นน้องเล็กนั้นคือ OPPO Reno10 5G ถือว่าเป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลางที่มาพร้อมกับกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องถ่ายพอร์ตเทรตสามารถซูมได้และยังให้ภาพสวยคมชัดเช่นเดิม โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับค่าตัวเบาๆเพียง 13,990 บาท

SPEC OPPO Reno10 5G

• หน้าจอแบบ 3D Dual–Curved พาแนล AMOLED 3D Curved ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz
• ชิปประมวลผล CPU MediaTek Dimensity 7050 5G Mobile Platform (6nm)
• GPU Mali-G68 MC4
• RAM 8 GB
• ROM 256 GB
• ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1
• กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV32C
• กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ความละเอียด 64+32+8 ล้านพิกเซล
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
• Bluetooth 5.3
• ลำโพงสเตอริโอคู่
• แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 67W SuperVOOC
• ราคา 13,990 บาท วางจำหน่าย 2 สี สีเทา Silvery Grey | สีฟ้า Ice Blue

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

1. ตัวเครื่อง OPPO Reno10 5G
2. adapter ขนาด 67W SUPERVOOC
3. สาย USB-C
4. เคสซิลิโคน
5. เข็มจิ้มถาดซิม
6. คู่มือพร้อมใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

OPPO Reno10 5G มากับหน้าจอแบบขอบโค้งแบบ 3D Curved Screen ที่มีความโค้งระดับ 56 องศา พาแนลจอแบบ AMOLED 3D Curved ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2412×1080 พิกเซล อัตรา Refresh Rate 120Hz / อัตราความไวหน้าจอสัมผัส 240Hz กระจกครอบทับแบบ AGC DT-Star2 เพื่อป้องป้องรอยขีดข่วน หน้าจอรองรับการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

หน้าจอเจาะรูแบบ Punch-Hole Display ที่ซ่อนกล้องหน้าไว้ กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถัดขึ้นไปจะมีเซ็นเซอร์และตำแหน่งลำโพงสนทนาและใช้เป็นลำโพงตัวที่สองด้วย

การแสดงผลของหน้าจอ รองรับการแสดงผลแบบ 10Bit และสามารถแสดงค่าสีได้มากกว่า 1.07 พันล้านสี ค่าความเที่ยงตรงอยู่ที่ 100% DCI-P3 / 100% sRGB ค่าความสว่างสูงสุดที่ 950nits พร้อมระบบป้องกันหน้าจอหรี่แสง 2160Hz PWM

หน้าจอแสดงผลได้คมชัด สีสันสวยงามใช้ได้เลยครับเหมาะสำหรับการชมคอนเท็นต่างๆ

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีตำแหน่งถาดซิมการ์ด / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB-C และลำโพงหลัก

ฝั่งซ้ายจะไม่มีอะไรนะครับปล่อยโล่ง / ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power

ด้านบนจะมีตำแหน่งของไมค์ตัดเสียงรบกวน / ช่องเสียงลำโพงตัวที่สอง และช่อง IR

การดีไซน์ฝาหลังแบบ 3D Curved สีที่ผมรีวิวคือสีเทา Silvery Grey กระบวนการผลิตแบบ OPPO Glow การวางตำแหน่งของเลนส์กล้องแบบใหม่ ภายในจะซ่อนเลนส์กล้องทั้งหมด 3 เลนส์และไฟ LED วางในเลเยอร์ในรูปวงรี

ขนาดตัวเครื่อง 162.43 x 74.19 x 7.99 มม. น้ำหนัก 185 กรัม ถือว่าบางและเบามากๆ

ระบบปฏิบัติการ

OPPO Reno10 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด Android 13 ครอบทับด้วย Color OS 13.1 ที่ทำงานได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับเปลี่ยนธีมได้ด้วยตัวเอง ตัวเครื่องรองรับการใช้งานแอพคู่ รวมถึงฟังก์ชั่นต่างๆเพื่อใช้งานที่สะดวกและง่ายขึ้น

ประสิทธิภาพการทำงาน

OPPO Reno10 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผล CPU MediaTek Dimensity 7050 5G Mobile Platform (6nm) / GPU Mali-G68 MC4 เป็นชิปรุ่นใหม่ที่เน้นการใช้งานทั่วไป ข้อดีคือประหยัดพลังงาน ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

หน่วยความจำ

• RAM 8 GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion ที่สามารถเพิ่มขนาดพื้นที่ RAM ขึ้นมาเป็น 8+8 GB
• ROM 256 GB ชนิด UFS2.2 รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1TB

สำหรับการเล่นเกม จะมีฟังก์ชั่น Hyper Boots เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องให้สอดคล้องขณะเล่นเกมรวมไปถึงการตั้งค่าการแจ้งเตือนต่างๆด้วย

แบตเตอรี่ให้มามากถึง 5000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดวันแบบสบายๆครับ ไม่ต้องกังวลเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้าน หรือถ้ามีเหตุฉุกเฉินจะต้องเสียบชาร์จ ตัวเครื่องยังรองรับชาร์จไว 67W SUPERVOOC และภายในกล่องแถมที่ชาร์จเร็วมาพร้อมใช้งาน

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า Ultra-Clear Selfie Camera ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.4 มุมถ่ายภาพ 89 องศา

โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ โหมดกลางคืน, วิดีโอ, ถ่ายภาพ, พอร์ตเทรต, PANO, TIME-LAPSE, Dual-view video และสติ๊กเกอร์ รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า OPPO Reno10 5G

กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้

• เลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f1.7: เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B
• เลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.0: เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ซูมแบบออปติคอล 2 เท่า และซูมแบบดิจิทัล 20 เท่า
• เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.2: เซ็นเซอร์ Sony IMX355 มุมถ่ายภาพที่ 112 องศา

โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ โหมดกลางคืน, วิดีโอ, ถ่ายภาพ, พอร์ตเทรต, โหมดการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ, Extra HD, PANO, SLO-MO, TIME-LAPSE, Dual-view video, Microscope, สติ๊กเกอร์, สแกนตัวอักษร, และ Google Lens

สำหรับการถ่ายภาพแบบ Telephoto Portrait Camera แนะนำซูมที่ระยะ 2x นะครับ ภาพจะเทียบเท่ากับระยะทางยาวเลนส์ที่ 50mm. จะได้ภาพที่ละลายหลังสวยมากๆแถมยังคมชัดเหมือนเดิม

ตัวอย่างซูมที่ระยะ 2x

สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปโดยการใช้เลนส์เทลเเข้ามาช่วยซูม จะช่วยดึงฉากหลังเข้ามาเพิ่มความสวยของภาพ

ตัวอย่างภาพถ่ายระยะปกติและระยะซูม 2x

รอบนี้ OPPO Reno ได้นำเอาเลนส์ Ultra Wide กลับมาให้ใช้งานแล้วนะครับตามคำเรียกร้อง เท่ากับว่ารุ่นนี้มีครบๆในงบเพียง 13,990 บาท

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดปกติและโหมด Ultra Wide

สำหรับโหมดกลางคืน OPPO Reno10 5G ถือว่าทำได้ดีมากๆ เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนแถมแสงไม่ฟุ้ง

รวมภาพถ่ายโหมด AUTO จากกล้องหลัง OPPO Reno10 5G

สรุป

สำหรับ OPPO Reno10 5G ถือว่าให้สเปคมาดีมากๆ ตัวเครื่องบางและเบา หน้าจอแสดงผลได้คมชัดสวยงาม กล้องถ่ายภาพก็ให้มาครบมากๆถ่ายสวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ในเรทราคานี้ถือว่าคุ้มสุดแล้วครับกับราคาเปิดตัวเพียง 13,990 บาท จบ ครบในเครื่องเดียวจริงๆ