รีวิวการใช้งาน AI-powered Smart Router เราเตอร์รุ่นใหม่จากทาง AIS ช่วยเพิ่มความเร็ว-ลดค่าหน่วงของสัญญาณและมาพร้อมกับ Wi-Fi 6

AIS Fibre ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย โดยทีมวิศวกรพัฒนา Wi-Fi อัจฉริยะ ครั้งแรกในเมืองไทย จาก Artificial Intelligence – AI และ Machine Learning – ML ผ่าน AI-powered Smart Router  เพื่อจัดสรร Data Traffic ช่วยลดค่าหน่วงของสัญญาณและเพิ่มความเร็วสัญญาณให้มากขึ้น โดยเราเตอร์รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับ wifi 6 ด้วยนะครับ น่าจะตอบโจทน์สำหรับกลุ่มเกมเมอร์ สตรีมเกม และ live ขายของออนไลน์ เป็นอย่างยิ่ง

สำหรับแพ็คเกจใหม่ที่มาพร้อมกับ AI-powered Smart Router จะเป็นแพ็กเกจ POWER4 ADVANCE ที่ให้ความเร็วสูงถึง 1000/1000Mbps ในราคาสุดคุ้มเพียง 1,299 บาท สำหรับลูกค้าทั่วไป และพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการ AIS แบบรายเดือนอยู่แล้ว สามารถสมัครได้ในราคาเพียงแค่ 799 บาทเท่านั้นเองครับผม คุ้มมากๆ

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ กดที่นี่

ทำไมต้อง AI-powered Smart Router (ข้อมูลจากผู้ให้บริการ)

สำหรับ Wi-Fi อัจฉริยะนี้ มาพร้อมกับ AI-powered Smart Router ซึ่งมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • มีฟังก์ชัน AI ช่วยคัดแยกประเภทข้อมูลบริการ เพื่อจัดลำดับการใช้งานที่สำคัญภายในบ้าน
  • เพิ่มความเร็วหน่วยประมวลผล (Network Processor) ให้สามารถจัดสรรปริมาณการใช้งาน (offload Wi-Fi traffic) พร้อมกับเพิ่มอัตราความเร็วของการใช้งานให้กับแอปพลิเคชันที่ถูกระบุเป็นลำดับสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มความเร็วด้วยการผสานเทคโนโลยี Wi-Fi Slicing และ Wi-Fi Multimedia ที่เข้ามาช่วยลดค่า ความหน่วง (Latency) ช่วยให้ไม่เกิดสัญญาณค้างหรือกระตุก

 

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ สมาร์ทโฟนระดับเรือธงและโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆภาครับสัญญาณ Wifi จะติดตั้ง wifi6 มาให้พร้อมใช้งานกันแทบจะหมดแล้วครับ ในเมื่ออุปกรณ์ของเรารองรับการใช้งานแต่ตัวส่งสัญญาณกับทำงานได้ไม่เต็มที่ก็เหมือนไร้ประโยชน์ ผมจึงอยากจะแนะนำ AI-powered Smart Router จากทาง AIS ให้รู้จักกัน จ่ายเงินติดตั้งไม่ต้องไปจ่ายซื้อเราเตอร์เทพเพิ่มก็ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

หน้าตาของ AI-powered Smart Router จุดเด่นหลักๆจะมาพร้อมกับเสาส่งสัญญาณ 4 แท่ง รองรับการปล่อยสัญญาณความเร็วสูง

Wi-Fi อัจฉริยะ สามารถบริหารแยกท่อการใช้งานครอบคลุมใน 3 กลุ่มบริการยอดนิยม ได้แก่

  1. Game Application ได้แก่ ROV, League of Legends, Free Fire, PUBG Mobile, Call of Duty, Dota 2, World of Warcraft, Overwatch, Hearthstone, CSGO, Apex Legends, FIFA20 และ Mobile Legends
  2. 2. Work & Learn Application ได้แก่ ZOOM, Microsoft Teams, Webex และ Google Meet
  3. Live & Streaming Application ได้แก่ YouTube, Facebook และ Tik Tok

 

จากที่ใช้งานจริง บอกเลยว่าความแรงและความนิ่งไม่ธรรมดาจริงๆ โดยเฉพาะค่า Ping ต่ำมากๆ

ตัวเราเตอร์ นอกจากจะจัดสรร Data Traffic ได้เป็นอย่างดี เรายังสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานได้อย่างละเอียดและยังสามารถเข้าไปดูข้อมูลต่างๆได้ด้วยเช่น กำลังมีอุปกรณ์ไหนใช้งานอยู่

สรุป

สำหรับเกมเมอร์ที่เน้นสตรีมเป็นหลัก แม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการไลน์ขายของ รวมไปถึงกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา น่าจะเหมาะกับเทคโนโลยีและแพคเกจนี้เป็นอย่างมาก ความเสถียรและความแรงของสัญญาณทำออกมาได้ดีจริงตามโฆษณาครับ (ตำแหน่งที่ทดสอบ แถวนวมินทร์ กม.8)

Related articles

รู้จัก DeepSeek: AI น้องใหม่แซงหน้า GPT – ร่วมมือกับ AMD ผนวกเข้ากับ AMD Instinct

พี่จีนทำโลกตะลึงอีกแล้ว ด้วยการเปิดตัว DeepSeek ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเคียงกับเจ้าตลาดอย่าง OpenAI ChatGPT แถมยังใช้ต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าหลายเท่า...

สรุปงาน CES 2025 – ปีนี้ AMD เปิดตัวอะไรเด็ด ๆ บ้างไปดูกันเล้ยยย !!

งาน CES 2025 ปีนี้ หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะอยากเห็นเทคโนโลยีน่าตื่นเต้นจากหลาย ๆ ค่าย และในบทความนี้แอดจะพาเพื่อน...

ดูดวงปีใหม่ 2025 แบบฉบับคน IT ด้วย AI ทั้งอ่านไพ่ทาโรต์และวิเคราะห์ Birth Chart

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว วันนี้แอดมีเรื่องน่าสนุก ๆ และหลายคนน่าจะชื่นชอบมาฝาก คือ การดูดวง 55555 แต่สำหรับชาว Extreme...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า