Review: AMD Radeon RX 480 Polaris 10 การ์ดจอที่ตอบโจทย์ชาวเกมส์เมอร์ในราคาประหยัด

สวัสดีครับทุกๆท่าน สำหรับในวันที่ 29 เวลา 20.00 ของบ้านเรานั้นก็เป็นเวลาเปิดตัวของการ์ดจอจากทาง AMD ที่มีกำหนดการเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกสำหรับเจ้า AMD RX 480 หรือ Polaris นั้นเองครับ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ทาง AMD ก็ได้ออกมาตอบโจทย์ชาวเกมส์เมอร์ที่กระเป๋าตังไม่หนักมากเพราะทาง AMD ยังคงคิดว่าการที่เราจ่ายเงินไปแล้วได้ประสิทธิภาพที่กลับมาคุ้มค่า เป็นเรื่องที่ดีนั้นเองครับ โดยสำหรับความแรงจะเป็นอย่างไรนั้นเดียวเราไปดูกันดีกว่า งานนี้ขอแอบกระซิบเล็กๆว่า เลิกบ่นว่า AMD ร้อนและกินไฟไปได้เลยเพราะมันกินไฟทั้งเครื่องใช้พาเวอร์ 300W ยังพอ !! เอาเป็นว่าเดียวเราไปดู รีวิว AMD RX 480 กันเลยดีกว่าครับ

อย่างที่บอกไปว่าทาง AMD นั้นได้ดูว่า 84% ของตลาดโลกที่คนซื้อการ์ดจอไปเล่นเกมส์นั้นจะอยู่ในช่วงราคา 100-300$ ด้วยกันทำให้ทาง AMD ออกเจ้าตัว RX 480 มาเพื่อตอบสนองคอเกมส์นั้นเองครับ

หรือว่าถ้าใครคิดว่าเงินไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไรนักแต่อยากได้ความแรงแบบสุดๆทาง AMD ก็มีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับเงินที่จ่ายไป โดยตัว AMD RX 480 ถ้านำมาต่อแบบ CF แล้วจะให้เฟรมเรทที่สูงกว่าการ์ดจอรุ่นท๊อปของอีกค่ายที่ราคาสูงกว่า เรียกว่า ได้ทั้งความสวยงามในการต่อ 2 ใบและยังประหยัดเงินอีกด้วย

โดยจริงๆแล้วทาง AMD นั้นจะทำการออกการ์ดจอมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน โดยรุ่นต่ำสุดที่มีแผนก็คือ AMD RX 460 ที่ออกมาตอบโจทย์ร้านเกมส์หรือคนเล่นเกมส์ออนไลน์ต่างๆนั้นเองครับ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ก็ไม่ต้องต่อไฟเลี้ยงเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยจะใช้พลังงานเพียงแค่ 75 W เท่านั้นเอง !

อีกรุ่นทัดมาจะเป็นเจ้าตัว AMD RX 470 ครับโดยตัวนี้จะเหมือนและคลายกับตัว RX480 แต่ได้ทำการลดสเปคมาเล็กน้อยและขายในราคาที่ถูกกว่าพร้อมทั้งกินไฟเพียงแค่ 110 W เท่านั้น!!

โดยพระเอกของงานนี้จะเป็นเจ้า AMD RX 480 ที่วันนี้จะมาทำการรีวิวกันนะครับ โดยตัวการ์ดจอจะมีจุดเด่นเลยก็คือกินไฟเพียงแค่ 150W เท่านั้นและยังมีแรมมาให้สูงถึง 8 GB และมันก็สวนทางกับราคาเพราะว่าทาง AMD ได้เปิดราคาขายในไทยมาแล้วที่ 9,900 บาทสำหรับราคาการ์ด REF นั้นเองครับ

โดยรอบนี้ทาง AMD ไม่ได้เปิดตัวแค่การ์ดจอเพราะทาง AMD ยังเจาะกลุ่มตลาด Overclock เช่นเดิมโดยได้เพิ่มซอฟแวร์ WattMan ที่สามารถจัดการพลังงานเพิ่มไฟ ปรับพัดลมหรือว่าทำการ Overclock ก็สามารถทำได้ทั้งหมดครับ

ภาพโครงสร้างภายในตัว GPU

โดยต้องบอก้ลยว่าเจ้า AMD RX 480 นั้นสามารถรองรับการใช้งานแบบ 5K ได้ โดยมาพร้อมกับ DisplayPort 1.3 ตัวใหม่ล่าสุด

Software WattMan

สำหรับเจ้า RX 480 นั้นก็สามารถ Overclock ได้นะครับไม่ใช่ว่า Overclock ไม่ได้ไม่ต้องตกใจ โดยในรอบนี้ทาง AMD จะมีซอฟแวร์ตััว วัตร์แมน หรือ wattman นั้นเองครับ ทำให้สามารถปรับความเร็วตัวการ์ดหรือ เพิ่มไฟเพิ่มรอบพัดลมได้

เรียกว่างานนี้ AMD เจาะกลุ่มตลาดตั้งแต่ user และนัก Overclock เลยทีเดียว ถ้าใครอยากปรับแต่งก็สามารถทำได้ไม่ต้องกลัวเสียหายเพราะทาง AMD ได้ทำการล๊อกค่าต่างๆเอาไว้ที่จุดปลอดภัยถ้า ลากแล้วไม่สเถียนก็กดรีเซตกลับค่าเดิมได้ง่ายๆครับ

มาดูหน้าตาของตัวการ์ดจอ AMD RX 480 กันดีกว่าครับโดยทาง AMD ยังคงคอนเซปกล่องดินสอเอาไว้ โดยผมเชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้ยังมีความกลัวเกียวกับความร้อนบนการ์ด REF ในส่วนนี้ผผมขอบอกเลยว่าเลิกกังวนไปเลยเพราะผมได้ทดสอบแบบเดิมๆไม่ปรับแต่งใดๆ FULL LOAD อยู่แค่ 80 องศานิดๆและถ้าได้ปรับรอบพัดลมแล้วจะเหลือเพียง 60 กว่าองศาเท่านั้น โดยตัวพัดลมนั้นจะใช้งานเป็นพัดลมโบวเวอร์แบบปกติทั่วๆไปครับ

สำหรับทางด้านบนหรือทางด้านข้างของตัวการ์ดก็มีคำว่า RADEON เอาไว้โดยจะเป็นสีแดงสวยงาม โดยรอบนี้ทาง AMD เอาจริงเอาจังกับ Radeon เป็นอย่างมากครับ

หน้าตาจากทางด้านบนสวยงามคลาสสิกไม่ตกยุคสมัย

โดยทางช่องเสียบไฟเลี้ยงเชื่อมต่อนั้นจะใช้งานจำนวน 6 pin แค่หัวเดียวเท่านั้นโดยต้องบอกเลยว่ามันกินไฟแค่เพียง 150 W เท่านั้น

โดยถ้าเราดูตัวการ์ดจอจากทางด้านหลังนั้นจะเห็นว่าแผ่น PCB ยางเพียง 2/3 ของตัวการ์ดจอเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นพื้นที่ของตัวพัดลมแปลว่าถ้า AMD จะทำการ์ดแบบ NANO หรือว่า ITX นั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดเลย

โดยทางด้านหลังนั้นเขาก็ได้ทำการเจาะช่องเอาไว้เพื่อให้ลมสามารถเข้าไปได้ และยังช่วยลดเสียงรบกวนเวลาทำงาน โดยผมลองเล่นเกมส์แบบพัดลม auto นั้นต้องบอกเลยว่าเสียงเงียบมากๆครับ

สำหรับทางด้านหลังตัวการ์ดจอหรือ port การเชื่อมต่อนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ช่องด้วยกันโดยจะมีช่อง DP จำนวน 3 ช่องด้วยกันและช่อง HDMI อีกจำนวน 1 ช่องให้ใช้งานเชื่อมต่อครับ

แน่นอนว่าวันนี้ทาง ExtremePC จะทำการชำแหลกเจ้า RX 480 เพื่อมาดูกันชัดๆเลยดีกว่าครับ โดยพอแกะออกมาแล้วจะเห็นว่าตัวการ์ดนั้นสั้นมากๆแต่ความสามารถของมันนั้นร้ายกาจมากเลยทีเดียวครับ

โดยรอบนี้ทาง AMD จะใช้งาน RAM แบบ GDDR5 โดยการ์ดทที่ผมได้รับมานั้นจะใช้งาน RAM ของทาง Samsung เรียกได้ว่าถ้าใครจะซื้อไปขุดบิตคอย bitcoin ต้องตามหาการ์ดจอที่ใช้งานแรมยี่ห้อนี้อย่างแน่นอนครับ

สำหรับการ์ดจอตัวนี้ในส่วนของภาคจ่ายไฟจะโดนย้ายไปอยู่ทั้งฝั้งซ้ายมือแทน โดยจะมีทั้งหมด 6 เฟสด้วยกันครับ

สำหรับหน้าตาของชิพ RX480 นั้นรอบนี้จะมีกระบวนการผลิตที่ 14 nm เท่านั้นทำให้ประหยัดพลังงานและกินไฟน้อยลงกว่าเดิมเป็นอย่างมากครับ โดยโคดเนมของตัว GPU จะใช้ชื่อ Ellesmere มีขนาดของตัว did อยู่ที่ 232 mm

สำหรับตัวฮิตซิงค์นั้นผมอาจจะไม่ได้ทำการแกะทั้งหมดโดยตัวฮิตซิงค์จะระบายความร้อนทั้ง GPU RAM และชุดภาคจ่ายไฟ

โดยการระบายความร้อน GPU นั้นจริงๆแล้วฮิตซิงค์ไม่ได้ใหญ่มากมาย แต่ตรงหน้าสัมผัสนั้นได้ใช้งานเป็นทองแดง เพื่อดึงความร้อนออกจากตัว GPU ได้เป็นอย่างดี

ตัว fin ระบายความร้อนนั้นรอบนี้จะมีแบบหนา+ห่าง ทำให้เสียงรบกวนเวลาใช้งานนั้นลดลงไปเป็นอย่างมากครับ

บรรยากาศขณะทำการทดสอบ

สำหรับสเปคในการทดสอบนั้นจะใช้งานเป็นชุดเดิมทั้งหมด

อัตราการกินไฟก็บอกเลยว่าทำออกมาได้แบบน่าตกใจเพราะมันหล่นมาอยู่เกือบล่างสุดของตารางนั้นแปลว่ามันกินไฟน้อยมากๆเลยและครับ

เรื่องของความร้อนก็อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่ามันร้อนน้อยมากๆเพราะกินไฟเพียงแค่ 150 W ทำให้การ์ด REF นั้นความร้อนก็น้อยตาม ซึ่งถ้ามีตัว non Ref ออกมานั้นก็คงไม่ต้องพูดถึงความเย็นเพราะน่าจะทำออกมาไม่เกิน 60-70 องศาแบบสบายๆอย่างแน่นอนครับ

AMD Radeon RX 480 Overclock 1350 MHz Ram 2130 MHz

AMD Radeon RX 480 Crossfire
Overclock 1340MHz

จบไปแล้วสำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของเจ้า AMD RX 480 ก่อนจากไปก็ขอทิ้งท้ายในการทดสอบแบบ Overclock และแบบผลทดสอบต่อการ์ดจอจำนวน 2 ใบหรือ AMD RX 480 crossfire นั้นเองครับ ก็เป็นไปอย่างที่ AMD ได้บอกเอาไว้ว่าถ้าทำการต่อ 2 ใบแล้วความแรงจะแรงกว่าคู่แข่งหรือตัว 1080 นั้นเองครับ แถมราคาที่ได้รับนั้นจะถูกกว่ากันเกือบๆ 7000 พันบาทเลยทีเดียว!! โดยการทดสอบในรอบนี้ทางเราได้ใช้งานตัวไดรเวอร์ในรุ่น 16.6.2 beta ปัญหาในการทดสอบอาจจะมีนิดๆหน่อยๆแต่ก็ยังถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี ถ้าไดรเวอร์ตัวเต็มออกแล้วน่าจะให้ผลคะแนนที่ดีกว่านี้เป็นอย่างมากครับ ก่อนจากไปอีกนิดผมเห็นยังมีความเชื่อผิดๆเกียวกับการเล่นการ์ดจอ 2 ใบ แล้วต้องหาเมนบอร์ดมที่เป็น 16x  16x แล้วผลเทสจะแรง ส่วนนี้ต้องบอกเลยนะครับเป็นความเชื่อผิดๆ คนชอบให้ข้อมูลผิดๆกันเพียบจริงๆแล้วไม่ได้มีผลต่อประสิทธิภาพและความแรงแต่อย่างใดเลย ดูจากการที่ผมเทสการ์ดจอจำนวน 2 ใบข้างต้นแล้ว จะเห็นว่าการ์ดจอผมจะวิ่งที่ 8x เท่านั้นครับ แต่คะแนนที่ออกมานั้นก็ไม่ได้ต่ำกว่าปกติแต่อย่างใด สำหรับ ผลการทดสอบแบบ crossfire นั้นติดตามเอาไว้ดีๆครับ สำหรับวันนี้ทางผมก็ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ

ราคา 9,900 บาท