Review: AMD RYZEN 7 1800X 8 core 16 thread ตระกูลใหม่ของการประมวลผล
สวัสดีครับทุกๆท่านสำหรับวันนี้เชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวเกียวกับ CPU AMD น่าจะรอคอยมายาวนานแสนนานว่าเจ้า AMD RYZEN ที่จริงแล้วมันดีจริงหรือแค่ข่าวลวงหลอก เพราะก่อนหน้าที่จะมาถึงวันนี้ต้องบอกเลยว่ามันมีข่าวลื่อและข่าวหลุดมายาวนานมากกว่า 1 ปีเลยทีเดียวครับ จนชื่อที่จะเรียกแบบจริงๆก็คือ RYZEN โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันเป็น RYZEN 7 RYZEN 5 RYZEN 3 ที่ออกมาแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานตามรูปแบบต่างๆ อารมณ์คลายๆฝั้งสีฟ้า ทำให้ผู้คนที่จะซื้อ CPU มาใช้งานสักตัว สามารถเข้าใจได้ง่ายมากกว่าแต่ก่อนที่แบ่งออกเป็นทั้ง APU A หรือ FX ทำให้คนที่จะประกอบคอมพิวเตอร์เลือกซื้อไม่เข้าใจและสับสนนั้นเองครับ
สำหรับ CPU ตัวนี้ ต้องบอกว่า AMD มีความตั้งใจในการผลิตเป็นอย่างมากครับ โดยตอนแรกทาง AMD คาดหวังความแรงที่จะเพิ่มขึ้นจากตัว FX เอาไว้ที่ 40 % ด้วยกัน แต่หลังจากที่ทำกันมาจนเสร็จก็ได้ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 52 % เลยทีเดียวและครับ
สำหรับตัว ZEN CORE นั้นจะเป็นแบบ X86 CPU จะมีระบบ Threads เข้ามาช่วยแล้ว โดยจะมี 2 Threads ต่อ 1 Core CPU ต่อมาดูส่วนของระบบ Cache นั้นจะมีทั้งหมดหลักๆ 4 ตัวด้วยกันครับโดยจะมีแคส L และ D เพิ่มเข้ามา โดย Cache 2 หรือ L2 นั้นจะ
หัวใจหลักของประสิทธิภาพที่ได้มานั้นมาจากทั้ง Core และ Cache แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คงจะเป็นใช้พลังงานน้อย!
สำหรับโครงสร้างของตัว CPU จะเห็นว่ามี Core อยู่รอบนอกด้วยกันทั้ง 4 Core และมีแคสต่างๆเอาไว้ส่งถ่ายข้อมูลเชื่อมต่อกันระหว่างแกน CPU ทั้งหมดครับ
เรื่องของ TIMING การใช้พลังงานกับความถี่ของตัว CPU โดยจะเห็นว่าการออกแบบตัว CPU ที่ขนาด 14 nm นั้นจะทำให้การกินไฟน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะได้ผลพลอยได้คือการทำงานจะมีความร้อนที่น้อยลงและสามารถออกแบบ CPU ให้ใส่ทรานซิสเตอร์ได้มากยิ่งขึ้น
อีกจุดหนึ่งของประสิทธิภาพตัว CPU จะทำให้ได้ความแรงมากที่สุดคือแน่นอนว่า CPU ในแต่ละ Core จะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน บาง Core กินไฟน้อยกว่า บางอันกินไฟมากกว่า เพิ่มความเร็วได้น้อยกว่าและมากกว่าไม่เท่ากัน เพราะไม่มีอะไรที่สามารถทำออกมาแล้วได้ 100% จุดนี้ AMD เลยทำให้แต่ละ Core สามารถวิ่งความเร็วแยกได้อย่างอิสระในเวลาใช้งานจริง ถ้าตัวไหนหรือ Core ไหนสามารถเพิ่มความเร็วได้ก็จะทำการยกระดับความเร็วขึ้นไปครับ
สำหรับเรื่องของการ Boost ความเร็วหรือเพิ่มความเร็วจากความเร็ว CPU เดิม ตรงนี้ต้องบอกว่า AMD มีเซนเซอร์มากกว่า 1000+ ตัวต่อ Core เลยทีเดียวเพื่อให้สามารถตรวจจับและตอบสนองได้เร็วมากที่สุดครับ โดยถ้า CPU สามารถเพิ่มความเร็วได้หรือว่ามีความเย็นที่เพียงพอต่อการทำงานก็จะปรับความเร็วขึ้นไปอัตโนมัติ
โดยถ้าเทียบกับ CPU รุ่นก่อนหน้าของทาง AMD จะเห็นว่า ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาถ้านำมาเทียบเรื่องของการกินไฟ จะให้ประสิทธิภาพมากกว่า 3.7 เท่าต่อการกินไฟเลยทีเดียว
จุดนี้ AMD นำมาท้าชนเลยว่าของทาง Intel เวลาออกรุ่นใหม่ๆมาจะเพิ่มประสิทธิภาพทีละ 8-10% ต่อ Gen เท่านั้น
โดย AMD RYZEN ที่ออกมา จะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน รหัสที่ออกมาเรียกว่าท้าชนอีกค่ายเลยทีเดียวโดยจะเป็นรหัส RYZEN 7 RYZEN 5 RYZEN3 โดยแต่ละตัวจะแตกต่างกันไปตามจำนวน Core และประสิทธิภาพ
โดยราคาเปิดตัวก็อย่างที่เราๆรู้ไปแล้วว่า AMD Thailand เปิดราคามาที่ 18900 , 14900 และ 12900 บาทตามลำดับครับ
โดยตัวชนประสิทธิภาพต่อราคาจะเห็นว่าราคา AMD ถูกกว่ากันมากถึง 55 % แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่าสูสีกันเลยทีเดียว ตรงนี้ทำให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อสได้ในราคาสบายกระเป๋ามากกว่า
หรือถ้าเป็นตัวล่างลงมาหน่อย ราคา AMD ก็ถูกกว่าแต่ยังได้ประสิทธิภาพและความแรงมากกว่าในด้านของโปรแกรมทำงาน
โดยตัวชนและตัวชูโรงที่ AMD ตั้งใจทำออกมาเลยก็คงจะเป็นเจ้า AMD RYZEN 7 1700 ที่ออกมาท้าชนและต่อกรกับ Core i7 7700K โดยในด้านประสิทธิภาพในการทำงานจะเห็นว่ากินขาดเป็นทุ่งแบบไม่ต้องสงสัยครับ
โดยอย่างที่ข่าวหลุดออกๆไปก็คือตัว AMD RYZEN จะเป็น CPU แบบปลดล๊อกสามารถ Overclock ได้ทุกตัว ไม่จำเป็นต้องมีรหัส X ต่อท้าย
สำหรับเรื่องของการ Overclock นั้นทาง AMD จะมีโปรแกรม AMD RYZEN MASTER UTILITY
สำหรับตระกูล AMD RYZEN 5 นั้นจะออกมาในช่วงกลางปีครับ โดยจะมีราคาออกมาต่ำกว่า 300 $ จะเป็น CPU ที่ทำประสิทธิภาพออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวใหญ่ๆแน่นอน
สำหรับตัว RYZEN 5 นั้น จะมีออกมาเป็นตัว RYZEN 5 1600X ที่มี 6 Core 12 Threads มีความเร็วพื้นฐานที่ 3.6 GHz และสามารถบูตเพิ่มได้มากถึง 4.0 GHz ด้วยกัน
โดยตัว RYZEN 5 1600X นั้นจะมาเทียบหรือแข่งกับเจ้า Core i5 7600K โดยตรงนี้ทาง AMD เคลมมาว่าคะแนนโปรแกรม Cinbench ของทาง AMD สูงมากถึง 1132 แต่เจ้า I5 นั้นได้เพียงแค่ 702 เท่านั้นครับ
โดยถ้าเทียบออกมาเป็นเปอร์เซนแล้วจะแรงมากกว่ากันถึง 69% เลยทีเดียวและครับ
โดยตัวที่จะมา Q2 นั้นจะมีตัว 5 1600X และ 5 1500X ตรงนี้อาจจะต้องสังเกตุดีๆสักนิดเพราะตัว 1600X จะมี Core อยู่ที่ 6 Core 12 Thread แต่ 1500X จะมี 4 Core 8 Thread เท่านั้นการเลือกซื้อก็ต้องมองดีๆเพราะถ้าพลาดจะหายไป 2 Core เลยทีเดียวครับ
โดยแต่ละรุ่นนั้นจะออกมาตามโรทแมพนี้ก็คือวันที่ 2 มีนาคม จะเปิดตัวรุ่นใหญ่ RYZEN 7 และตัว RYZEN 5 นั้นจะมาตอน Q2 ส่วนรุ่นเล็กสุดหรือ RYZEN 3 จะมาหลังกลางปีไป
เทคโนโลยี่ XFR หรือที่หลายๆคนบอกว่ามันจะเร่งความเร็ว CPU ไปตามการระบายความร้อนที่ดี ส่วนนี้จริงเพียงแค่ครึ่งเดียวครับ โดยเจ้า XFR ใน CPU แต่ละรุ่นจะมีลิมิตในการเพิ่มความเร็วที่แตกต่างกัน โดยตัว RYZEN 7 1800X นั้น จะเป็นความเร็วเดิมที่ 3.6 GHz และมี Turbo Boost ไปที่ 4.0 GHz และมี XFR สุดที่ 4.1 GHz ส่วนนี้คือ CPU เราจะวิ่งความเร็วตั้งแต่ 3.6 GHz ไปจนถึง 4.1 GHz แบบแกว่งไปมาครับ ตรงนี้การระบายความร้อนจะมีบทบาทคือถ้าเราทำให้ CPU เย็นได้มากเท่าไร ตัว CPU จะไปอยู่ความเร็วที่สูงเข้าใกล้ 4.1 GHz มากที่สุดนั้นเองครับ
ในส่วนของเรื่อง Memory หรือ Ram นั้น ส่วนนี้ IMC ของตัว CPU มีการพูดกันว่าสามารถรองรับได้มากถึง 4000 MHz แต่ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของเมนบอร์ดว่าสามารถรองรับได้มากขนาดไหนด้วยกันครับ แต่พื้นฐานของ AMD นั้นจะอยู่ประมาณที่ 2133 MHz ถึง 2400 MHz ด้วยกันตรงนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ โดยตรงนี้ช่วงแรกทาง AMD รีเควสชิพ Samsung “B-die” มาเลยจะทำให้ประสิทธิภาพออกมาและสเถียนมากที่สุดครับ
รหัส X ของตัว CPU นั้นไม่ได้หมายความว่ามันคือ Unlock หรือปลดล๊อกตัวคูณนะครับ เพราะเอาจริงๆแล้ว CPU AMD นั้นจะเป็นแบบปลดล๊อกทุกรุ่นสามารถทำการ Overclock ได้ทุกตัวของให้เป็นเมนบอร์ด X370 หรือ B350 ก็จะสามารถ Overclock ได้ครับโดยรหัส X คือจะเป็นระบบ XFR ที่จะมีช่วงเพิ่มความเร็วได้สูงกว่าตัวแบบไม่มี X หรือจะพูดง่ายๆว่าสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงกว่าถ้าฮิตซิงค์เราเย็นหรือระบายความร้อนได้เพียงพอ
You must be logged in to post a comment.