Review: AMD RYZEN 7 1800X  8 core 16 thread ตระกูลใหม่ของการประมวลผล

สวัสดีครับทุกๆท่านสำหรับวันนี้เชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวเกียวกับ CPU AMD น่าจะรอคอยมายาวนานแสนนานว่าเจ้า AMD RYZEN ที่จริงแล้วมันดีจริงหรือแค่ข่าวลวงหลอก เพราะก่อนหน้าที่จะมาถึงวันนี้ต้องบอกเลยว่ามันมีข่าวลื่อและข่าวหลุดมายาวนานมากกว่า 1 ปีเลยทีเดียวครับ จนชื่อที่จะเรียกแบบจริงๆก็คือ RYZEN  โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันเป็น RYZEN 7  RYZEN 5 RYZEN 3  ที่ออกมาแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานตามรูปแบบต่างๆ อารมณ์คลายๆฝั้งสีฟ้า ทำให้ผู้คนที่จะซื้อ CPU มาใช้งานสักตัว สามารถเข้าใจได้ง่ายมากกว่าแต่ก่อนที่แบ่งออกเป็นทั้ง APU A หรือ FX ทำให้คนที่จะประกอบคอมพิวเตอร์เลือกซื้อไม่เข้าใจและสับสนนั้นเองครับ

สำหรับ CPU ตัวนี้ ต้องบอกว่า AMD มีความตั้งใจในการผลิตเป็นอย่างมากครับ โดยตอนแรกทาง AMD คาดหวังความแรงที่จะเพิ่มขึ้นจากตัว FX เอาไว้ที่ 40 % ด้วยกัน แต่หลังจากที่ทำกันมาจนเสร็จก็ได้ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 52 % เลยทีเดียวและครับ

สำหรับตัว ZEN CORE นั้นจะเป็นแบบ X86 CPU จะมีระบบ Threads เข้ามาช่วยแล้ว โดยจะมี 2 Threads ต่อ 1 Core CPU  ต่อมาดูส่วนของระบบ Cache นั้นจะมีทั้งหมดหลักๆ 4 ตัวด้วยกันครับโดยจะมีแคส L และ D เพิ่มเข้ามา  โดย Cache 2 หรือ L2 นั้นจะ

หัวใจหลักของประสิทธิภาพที่ได้มานั้นมาจากทั้ง Core และ Cache แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คงจะเป็นใช้พลังงานน้อย!

สำหรับโครงสร้างของตัว CPU จะเห็นว่ามี Core อยู่รอบนอกด้วยกันทั้ง 4 Core และมีแคสต่างๆเอาไว้ส่งถ่ายข้อมูลเชื่อมต่อกันระหว่างแกน CPU ทั้งหมดครับ

เรื่องของ TIMING การใช้พลังงานกับความถี่ของตัว CPU โดยจะเห็นว่าการออกแบบตัว CPU ที่ขนาด 14 nm นั้นจะทำให้การกินไฟน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะได้ผลพลอยได้คือการทำงานจะมีความร้อนที่น้อยลงและสามารถออกแบบ CPU ให้ใส่ทรานซิสเตอร์ได้มากยิ่งขึ้น

อีกจุดหนึ่งของประสิทธิภาพตัว CPU จะทำให้ได้ความแรงมากที่สุดคือแน่นอนว่า CPU ในแต่ละ Core จะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน บาง Core กินไฟน้อยกว่า บางอันกินไฟมากกว่า เพิ่มความเร็วได้น้อยกว่าและมากกว่าไม่เท่ากัน เพราะไม่มีอะไรที่สามารถทำออกมาแล้วได้ 100% จุดนี้ AMD เลยทำให้แต่ละ Core สามารถวิ่งความเร็วแยกได้อย่างอิสระในเวลาใช้งานจริง ถ้าตัวไหนหรือ Core ไหนสามารถเพิ่มความเร็วได้ก็จะทำการยกระดับความเร็วขึ้นไปครับ

สำหรับเรื่องของการ Boost ความเร็วหรือเพิ่มความเร็วจากความเร็ว CPU เดิม ตรงนี้ต้องบอกว่า AMD มีเซนเซอร์มากกว่า 1000+ ตัวต่อ Core เลยทีเดียวเพื่อให้สามารถตรวจจับและตอบสนองได้เร็วมากที่สุดครับ โดยถ้า CPU สามารถเพิ่มความเร็วได้หรือว่ามีความเย็นที่เพียงพอต่อการทำงานก็จะปรับความเร็วขึ้นไปอัตโนมัติ

โดยถ้าเทียบกับ CPU รุ่นก่อนหน้าของทาง AMD จะเห็นว่า ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาถ้านำมาเทียบเรื่องของการกินไฟ จะให้ประสิทธิภาพมากกว่า 3.7 เท่าต่อการกินไฟเลยทีเดียว

จุดนี้ AMD นำมาท้าชนเลยว่าของทาง Intel เวลาออกรุ่นใหม่ๆมาจะเพิ่มประสิทธิภาพทีละ 8-10% ต่อ Gen เท่านั้น

โดย AMD RYZEN ที่ออกมา จะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน รหัสที่ออกมาเรียกว่าท้าชนอีกค่ายเลยทีเดียวโดยจะเป็นรหัส RYZEN 7  RYZEN 5  RYZEN3 โดยแต่ละตัวจะแตกต่างกันไปตามจำนวน Core และประสิทธิภาพ

โดยราคาเปิดตัวก็อย่างที่เราๆรู้ไปแล้วว่า AMD Thailand เปิดราคามาที่ 18900 , 14900 และ 12900 บาทตามลำดับครับ

โดยตัวชนประสิทธิภาพต่อราคาจะเห็นว่าราคา AMD ถูกกว่ากันมากถึง 55 % แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่าสูสีกันเลยทีเดียว ตรงนี้ทำให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อสได้ในราคาสบายกระเป๋ามากกว่า

หรือถ้าเป็นตัวล่างลงมาหน่อย ราคา AMD ก็ถูกกว่าแต่ยังได้ประสิทธิภาพและความแรงมากกว่าในด้านของโปรแกรมทำงาน

โดยตัวชนและตัวชูโรงที่ AMD ตั้งใจทำออกมาเลยก็คงจะเป็นเจ้า AMD RYZEN 7 1700 ที่ออกมาท้าชนและต่อกรกับ Core i7 7700K โดยในด้านประสิทธิภาพในการทำงานจะเห็นว่ากินขาดเป็นทุ่งแบบไม่ต้องสงสัยครับ

โดยอย่างที่ข่าวหลุดออกๆไปก็คือตัว AMD RYZEN จะเป็น CPU แบบปลดล๊อกสามารถ Overclock ได้ทุกตัว ไม่จำเป็นต้องมีรหัส X ต่อท้าย

สำหรับเรื่องของการ Overclock นั้นทาง AMD จะมีโปรแกรม AMD RYZEN MASTER UTILITY 

สำหรับตระกูล AMD RYZEN 5 นั้นจะออกมาในช่วงกลางปีครับ โดยจะมีราคาออกมาต่ำกว่า 300 $ จะเป็น CPU ที่ทำประสิทธิภาพออกมาได้ดีไม่แพ้ตัวใหญ่ๆแน่นอน

สำหรับตัว RYZEN 5 นั้น จะมีออกมาเป็นตัว RYZEN 5 1600X ที่มี 6 Core 12 Threads มีความเร็วพื้นฐานที่ 3.6 GHz และสามารถบูตเพิ่มได้มากถึง 4.0 GHz ด้วยกัน

โดยตัว RYZEN 5 1600X นั้นจะมาเทียบหรือแข่งกับเจ้า Core i5 7600K โดยตรงนี้ทาง AMD เคลมมาว่าคะแนนโปรแกรม Cinbench ของทาง AMD สูงมากถึง 1132 แต่เจ้า I5 นั้นได้เพียงแค่ 702 เท่านั้นครับ

โดยถ้าเทียบออกมาเป็นเปอร์เซนแล้วจะแรงมากกว่ากันถึง 69% เลยทีเดียวและครับ

โดยตัวที่จะมา Q2 นั้นจะมีตัว 5 1600X และ 5 1500X ตรงนี้อาจจะต้องสังเกตุดีๆสักนิดเพราะตัว 1600X จะมี Core อยู่ที่ 6 Core 12 Thread แต่ 1500X จะมี 4 Core 8 Thread เท่านั้นการเลือกซื้อก็ต้องมองดีๆเพราะถ้าพลาดจะหายไป 2 Core เลยทีเดียวครับ

โดยแต่ละรุ่นนั้นจะออกมาตามโรทแมพนี้ก็คือวันที่ 2 มีนาคม จะเปิดตัวรุ่นใหญ่ RYZEN 7 และตัว RYZEN 5 นั้นจะมาตอน Q2 ส่วนรุ่นเล็กสุดหรือ RYZEN 3 จะมาหลังกลางปีไป

เทคโนโลยี่ XFR หรือที่หลายๆคนบอกว่ามันจะเร่งความเร็ว CPU ไปตามการระบายความร้อนที่ดี ส่วนนี้จริงเพียงแค่ครึ่งเดียวครับ โดยเจ้า XFR ใน CPU แต่ละรุ่นจะมีลิมิตในการเพิ่มความเร็วที่แตกต่างกัน โดยตัว RYZEN 7 1800X นั้น จะเป็นความเร็วเดิมที่ 3.6 GHz และมี Turbo Boost ไปที่ 4.0 GHz และมี XFR สุดที่ 4.1 GHz ส่วนนี้คือ CPU เราจะวิ่งความเร็วตั้งแต่ 3.6 GHz ไปจนถึง 4.1 GHz แบบแกว่งไปมาครับ ตรงนี้การระบายความร้อนจะมีบทบาทคือถ้าเราทำให้ CPU เย็นได้มากเท่าไร ตัว CPU จะไปอยู่ความเร็วที่สูงเข้าใกล้ 4.1 GHz มากที่สุดนั้นเองครับ

ในส่วนของเรื่อง Memory หรือ Ram นั้น ส่วนนี้ IMC ของตัว CPU มีการพูดกันว่าสามารถรองรับได้มากถึง 4000 MHz แต่ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของเมนบอร์ดว่าสามารถรองรับได้มากขนาดไหนด้วยกันครับ แต่พื้นฐานของ AMD นั้นจะอยู่ประมาณที่ 2133 MHz ถึง 2400 MHz ด้วยกันตรงนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ โดยตรงนี้ช่วงแรกทาง AMD รีเควสชิพ Samsung “B-die” มาเลยจะทำให้ประสิทธิภาพออกมาและสเถียนมากที่สุดครับ

รหัส X ของตัว CPU นั้นไม่ได้หมายความว่ามันคือ Unlock หรือปลดล๊อกตัวคูณนะครับ เพราะเอาจริงๆแล้ว CPU AMD นั้นจะเป็นแบบปลดล๊อกทุกรุ่นสามารถทำการ Overclock ได้ทุกตัวของให้เป็นเมนบอร์ด X370 หรือ B350 ก็จะสามารถ Overclock ได้ครับโดยรหัส X คือจะเป็นระบบ XFR ที่จะมีช่วงเพิ่มความเร็วได้สูงกว่าตัวแบบไม่มี X หรือจะพูดง่ายๆว่าสามารถเพิ่มความเร็วได้สูงกว่าถ้าฮิตซิงค์เราเย็นหรือระบายความร้อนได้เพียงพอ

สำหรับ SET KIT ที่ผมได้รับการทดสอบนั้นผมก็ได้มาจากงานที่จัด San Francisco โดยจะเป็นแพ็คเกจแบบลังไม้สวยหรูมากๆ  ทางด้านหน้าก็มีปั้ม AMD RYZEN เอาไว้

เปิดกล่องออกมาจะเจอะกับ กล่อง CPU ตัวท๊อปสุด AMD RYZEN 7 1800X พร้อมแรม โดยเมนบอร์ดจะอยู่ทางด้านล่าง

โดยกล่องนี้ต้องบอกว่าเป็น Set ทำให้สำหรับสือรีวิวจริงๆครับ เพราะ AMD RYZEN เขาได้เปลียนเทคโนโลยี่ใหม่หมดเลยมีบัตรตัวช่วยเอาไว้ทำ Review ผมบอกเลยว่าใช้เวลาไป 3-4 วันกว่าจะเสร็จ

เอาของออกมาให้หมดกล่องโดยจะมี CPU MB RAM และก็ฮิตซิงค์

พระเอกของงานนี้เลยก็คงจะเป็นเจ้า AMD RYZEN 7 ตัวนี้ โดยจะมีโลโก้ติดเอาไว้ทางด้านหน้ากล่องเลย พร้อมเลข 7 ที่มุมกล่องเพื่อบอกว่าเป็น RYZEN 7 นั้นเองครับ

โดยถ้ามองทางด้านบนจะมีป้ายบอกเอาไว้สำหรับสเปค CPU โดยตัวที่ผมได้รับมาจะเป็น AMD Ryzen 7 1800X โดยตัว CPU นี้จะมี 8 core 16 thread  มีความเร็ว CPU ที่ 3.6 GHz ด้วยกันครับและมีระบบ Boost ไปที่ 4.0 GHz

ตัวกล่องมองจากด้านข้างก็จะเห็นตัว CPU เดียวเราแกะออกมาดูกันดีกว่าครับ โดย CPU รุ่นนี้จะไม่มีซิงค์แถมมาให้นะครับ

สำหรับในสกล่องก็จะมี CPU พร้อมสติเกอร์สุดเท่ โดยตัว CPU นั้นจะมีการเขียนบอกรุ่นเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นตัว AMD Ryzen 7 1800X  พร้อมกลางกระดองเขียนเอาไว้ตัวใหญ่เลยเท่มากๆ  โดย CPU ตัวนี้ยังคงใช้งานเป็นขา Pin เช่นเดิมมีทั้งหมด 1331 ขาด้วยกันครับ ใช้งานได้กับเมนบอร์ด AM4

สำหรับตัวแรมนั้นใน SET จะให้แรมเป็นของ Corsair VLENGEANCE LPX บัส 3000 MHz ความจุ 16 GB ครับ

สำหรับฮิตซิงค์นั้นทาง AMD ในตอนแรกหรือที่ส่งรีวิวนั้นไม่ได้ใช้งานฮิตซิงค์แถมมาให้เพราะเขายังผลิตไม่ทันครับเลยได้ให้ตัว Noctua NH-U12S SE-AM4 มาให้เป็นฮิตซิงค์ที่ออกแบบขายึดมาเพื่อซ๊อกเกต AM4 มาโดยเฉพาะ

สำหรับฮิตซิงค์แกะออกมาดูก็ไม่ได้เป็นตัวใหญ่อะไรครับเป็นรุ่นทั่วๆไปที่ใช้งานภายในบ้านเรา ถือว่าถ้าเทสกับฮิตซิงค์นี้ผ่านแบบสบายๆก็ถือว่าตัว CPU AMD RYZEN ไม่ได้ร้อนอะไรมากมาย

สำหรับเมนบอร์ดนั้นคนที่ได้ไปงานเปิดตัวจะมีได้รับกันคนละหนึ่งตัวโดยจะเป็นการสุ่มยี่ห้อตัวผมนั้นได้เป็นเจ้า ASUS CROSSHAIR VI HERO เป็นตัวท๊อปสุดจากทาง ASUS สายพันธ์ ROG แท้ๆ รองรับการใช้งานอย่างหนักและการ Overclock ได้สบายๆ

หน้าตาเมนบอร์ดคร่าวๆ สำหรับรีวิวเมนบอร์ดตัวนี้ผมจะทำออกมาเป็นบทความแยกนะครับวันนี้ขอโฟกัสที่ตัว CPU ก่อน

ติดตั้งก็ไม่ได้ยากอะไรกับ CPU AM4 จะเป็นขาพินวางลงไปให้ตรงล๊อกก็ปิดล๊อกเป็นอันเรียบร้อยแล้วครับ

หลังจากประกอบเซตที่ AMD จัดมาให้ทางผมทั้งหมดนั้นก็จะได้ประมาณนี้ตามภาพ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ หาพาเวอร์กับ SSD อีกหนึ่งลูกก็สามารถใช้งานได้แล้ว อ่อ เกือบลืมบอกไปว่าเมนบอร์ด AMD รอบนี้ก็รองรับ M.2 แล้วนะครับ สามารถใช้งานได้แล้วและ RAM จะเป็นแบบ DDR4 เรียบร้อย

บรรยากาศขณะทำการทดสอบ ทั้งหมด 3 เซต

ชุดแรกจะเป็นแบบเดิมๆที่ทาง AMD จัดเซตมาให้ แรมผมปรับวิ่งที่บัส 2933 MHz

ชุดที่ 2จะเป็นแบบเดิมแต่ผมได้ทำการเปลียนชุดระบายความร้อนเป็นชุดน้ำ พร้อมทั้งเปลียนแรม และปรับไปวิ่งที่บัส 3600 MHz เพื่อให้เห็นว่า IMC ของตัว CPU สามารถรองรับบัสแรมความเร็วสูงถึง 3600 MHz ได้สบายๆ และเค้นประสิทธิภาพ Overclock CPU ไปได้นิ่งๆที่ 4.0 GHz

ส่วนสำหรับ Intel 7700K นั้นจะใช้งานแบบเซตเดิมๆ กับปรับตัวคูณไปที่ 5.0 GHz แบบไม่ได้ปรับเปลียนอะไรมากมาย อย่ามองว่าเมนบอร์ด ITX แต่เอาจริงๆแล้วประสิทธิภาพไม่ดอยอย่างแน่นอน

Test

ถ้าดูจากโปรแกรม CD R15 นี้จะเห็นว่าการทำงานแบบหลายๆ Core หรือ multi thread จะเห็นว่ารอบนี้ AMD ได้รับเปลียนใหม่หมด สามารถเรียกประสิทธิภาพออกมาได้ดีถึงดีมากโดยเฉพาะโปรแกรมทำงานครับ จะเห็นว่าความแรงของ CPU ตัวนี้เยอะกว่าคู่แข่งแบบหลายขุม แต่ถ้าวัดกันแบบ Core เดียวจะเห็นว่าความแรงจะพอๆกัน

สำหรับโปรแกรม Super Pi โปรแกรมนี้ เชื่อว่าแฟนบอย AMD อาจจะไม่ได้คาดหวังมากเพราะที่ผ่านมา AMD ไม่เคยแรงกว่าเลย

สำหรับการเทสในโปรแกรม CPU-Z นั้นจะเห็นว่าการทำงานแบบ 1 Core หรือใช้งาน CPU เพียง 1 แกนนั้น คะแนนที่ได้รับจะดอยกว่าเจ้า Intel 7700K อยู่เล็กน้อย ทำให้เห็นว่าประสิทธิภาพต่อ Core นั้นแพ้อยู่เล็กน้อยแต่ถ้าเป็นการทำงานรวมหลายๆ Core หรือ ทุกหัวของ CPU แล้วนั้น AMD RYZEN ตัวนี้ต้องไปเทียบกับ CPU Intel ที่ใช้งานบนซ๊อกเกต 2011 มากกว่าแต่ทว่าตัวผมไม่มีให้ทดสอบ ก็ต้องขออภัยครับ แต่คะแนนเจ้าตัว AMD Ryzen 1700 ก็แรงกว่าเจ้า 7700K อยู่เยอะแน่นอนครับ

สำหรับโปรแกรม FRYRENDER จะเป็นโปรแกรมที่จำลองการทำงานแบบ RENDER ภาพหรือคลายๆอารมณ์ตัดต่อหนังแต่งรูปภาพนั้นเองครับ จำลองการทำงานโดยหน่วยที่แสดงในกราฟคือเวลาที่ใช้กว่าจะประมวลผลเสร็จครับ จะเห็นว่าความเร็วเดิมๆของเจ้า AMD RYZEN 7 1800X ใช้เวลาไปเพียง 2 นาที 35 วินาทีด้วยกันแต่ Intel Core i7 7700K ใช้เวลาไปมากถึง 3 นาที 30 วินาทีด้วยกันถึงแม้ว่าจะทำการ Overclock ไป 5.0 GHz ก็ลดเวลาลงมาได้เพียง 15 วิเท่านั้น ส่วนนี้เพราะตัว Core Ryzen 7 1800X มีมากกว่าทำให้ในด้านการใช้งานต่างๆ ชนะขนาดอย่างไม่ต้องสงสัย

โปรแกรม Benchmark ชื่อดังอย่าง FireStrike นั้น จะเห็นว่าคะแนนของ AMD Ryzen 7 1800X ก็กินนิ่มไปแบบสบายๆ

โดนโปรแกรมนี้ต้องบอกว่าถ้าเราจะดูประสิทธิภาพของ CPU เพียงอย่างเดียวให้ดูที่คะแนน Physics Score เพราะว่าฉากนี้จะใช้งานคะแนนที่ CPU ในการประมวลผลเป็นหลัง คะแนนที่ได้รับมานั้นก็กินแบบทะลุขาดไปเลยครับ โดยถ้าได้ทำการ Overclock เพิ่มไปที่ 4.0 GHz แล้ว สามารถท้าชน Intel Core i7 ของซ๊อกเกต 2011 ได้อย่างสบายๆ

มาถึงเรื่องของการเล่นเกมส์กันก่อนครับ สำหรับเกมส์แรง Tomb Raider นั้นจะเป็นเกมส์ที่ AMD เคยใช้งานโปรโหมดการ์ดจอของตัวเอง จะเห็นว่าเฟรมเรทที่ได้สูงกว่าทาง Intel อยู่พอสมควร แต่ตรงนี้ ความต่างของราคาอาจจะเยอะอยู่ เพราะจริงๆแล้ว Intel Core i7 7700K ทาง AMD จัดให้ชนกับ AMD Ryzen 7 1700 ที่ราคา 12900 บาท

อีกเกมส์หนึ่งกับ DirtRally ทาง AMD ก็ยังกินนิ่มชนะไปได้สบายๆแต่ถ้าตัว Intel ได้ทำการ Overclock ไปที่ 5.0 GHz ก็แซงไปได้สบายๆ

สำหรับเกมส์ SniperElite3 จะเห็นว่าตรงนี้ CPU Intel สามารถทำงานได้ดีกว่า 10 เฟรมด้วยกันครับ ตรงนี้ AMD ถือว่าเป็นการบ้านเลยว่าจะมีแพชสำหรับมาแก้ส่วนนี้ ว่าจะแก้ผ่าน Driver หรือผ่าน Bios หรือว่าอัพเดตแพชเกมส์ในอนาคต

อีกหนึ่งเกมส์กับ Hitman ตรงนี้ผมประบเป็นให้ใช้งานผ่าน DirectX 12  เจ้า AMD Ryzen ก็ยังแพ้ทาง Intel อยู่เช่นกันครับ ผ่านมาเท่านี้ก็จะเริ่มเห็นว่า CPU AMD Ryzen นั้นจะเหมาะกับการทำงานมากในตอนนี้แต่เรื่องเล่นเกมส์ต้องรอทางค่ายเกมส์ต่างๆอัพเดตแพชใหม่

ต่อมาเป็นเกมส์ GTA V เกมส์ชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องของการกินสเปค CPU ครับ เกมส์นี้จะเป็นเกมส์แนว OpenWorld ต้องใช้พลังของ CPU ในการประมวลผลค่อนข้างเยอะครับ แต่รอบนี้ AMD ยังสอบตกเช่นเดิม คะแนนที่ทำออกมาได้เฟรมเรทน้อยกว่าทาง Intel อยู่ 15% ครับ แต่ก็อย่างที่บอก อาจจะต้องรอทางค่ายเกมส์ต่างๆอัพเดตแพชใหม่เพื่อให้รองรับ CPU ของทาง AMD มากขึ้น

สำหรับเกมส์ Batman นั้นจะเห็นว่าเจ้า AMD Ryzen 7 1800X ก็กลับมาผงาดขึ้นอีกรอบหนึ่ง โดยสามารถทำเฟรมเรทได้เยอะกว่าเล็กน้อยแต่เรื่องของเฟรมเรทต่ำสุด AMD ทำผลงานได้ดีกว่าเยอะพอสมควรเลยทีเดียวเนื่องจาก CPU ที่มีหลาย Core ทำให้ตรงนี้ได้เปรียบ

เกมส์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่ AMD ชูโรงตอนเปิดตัวการ์ดจอ AMD RX 480 ครับ ตรงนี้ Ryzen ก็ทำผลงานออกมาได้ไม่ค่อยดีแพ้อยู่พอสมควร

สำหรับเรื่องของการกินไฟนั้นทั้งระบบอยู่ประมาณ  310 W เท่านั้น ใช้พลังงานเทียบเท่าตัว Intel Core i7 7700k และความร้อนในการทำงานสูงสุดอยู่ที่ 80 องศานิดๆ สำหรับฮิตซิงค์ลมที่มากับเซต Kit ครับ

ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบน่าจะตอบโจทย์ทุกข้อสงสัย สำหรับกการรีวิวของวันนี้น่าจะถือว่าโอเคในหลายๆส่วนแต่ยังไงเรื่องของการทำงาน AMD Ryzen 7 1800X ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอนแบบสบายๆกินขาด CPU Intel ที่เป็นแบบ 4 Core แบบไม่ต้องสงสัยครับ แต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องของด้านการเล่นเกมส์ ตรงนี้ต้องรอดูท่าทีไปอีกสักพักหนึ่งว่าถ้าทางค่ายเกมส์ต่างๆจะอัพเดตแพชแล้วจะแรงขึ้นสักแค่ไหน แต่ตรงนี้บอกก่อนเลยนะครับว่าถ้าเทียบกับ CPU 6800K หรือตัวต่างๆของซ๊อกเกต 2011 นำมาเล่นเกมส์ก็ได้ผลที่เทียบเท่ากันครับ ถ้ายังไงทางผมหาเจ้า Intel Core i7 6800K มาได้จะนำมาทำการทดสอบให้ดูกันครับว่าแตกต่างกันขนาดไหนอ่อ อีกส่วนหนึ่งคือนักสตีมเกมสหรือแคสเกมสนั้น บอกเลยว่าต้องชอบ CPU AMD RYZEN เป็นอย่างมากเพราะจะไม่มีผลกระทบต่อ Fps เลยแม้แต่น้อยทำให้เราสามารถเล่นเกมส์ไปได้พร้อมสตีมให้คนอื่นดูได้อย่างไม่มีสะดุด สุดท้ายนี้ก็บอกเลยว่ามันเป็น CPU ที่ทำให้ตลาดของคอมพิวเตอร์กลับมาคึกคักอีกรอบครับ  สำหรับวันนี้ผมก็ขอตัวลาไปก่อน  สำหรับภาพสดๆนั้นติดตามได้ที่แฟนเพจเฟสบุค https://www.facebook.com/ExtremePCExpc/  เวลา 2 ทุ่มตรง ในวันที่ 3 มีนาคม 2560  สวัสดีครับ