Review:ASRock G10 ตอบโจทย์เครือข่ายไรสายภายในบ้าน
อินเตอร์เน็ต…. คำคำนี้ผมเชื่อว่าบ้านทุกคนต้องมีกันเกือบหมดกันทุกคนและโมเดมตามบ้านเรานั้นเชื่อว่าหลายๆคนก็คงยังคงใช้งานที่ทางผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแถมมาให้เท่านั้น และถ้าใครใช้งานแบบหนักๆหรือเปิดทั้งวันต้องมีอาการค้างหน่วงมากวนใจบ้างและครับนี้และคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องต่อกล่องเร้าเตอร์เพิ่มเพื่อแบ่งหน้าที่ให้มาใช้งานที่กล่องแยก เพราะเราจะใช้งานกล่องเดียวก็ไม่ได้เพราะต้องแปลงสัญญานจากผู้ให้บริการมาก่อน ดังนั้นวันนี้ทางผมก็ได้กล่องเทพๆจากทาง ASRock G10 ที่เป็นหน้าที่แปลงสัญญาน ปล่อยไปทาง LAN หรือกระจาย Wi-Fi ภายในบ้านและยังสามารถเซตค่าอินเตอร์เน็ตเพื่อการเล่นเกมส์ได้อีกด้วยและครับ ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานโดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นเกมส์ออนไลน์เป็นชีวิตจิตใจ เอาเป็นว่าเดียวเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ
แพ็คเกจนั้นทำออกมาแบบสวยงามดีเลย และใช้ชื่อเต็มตัวว่า ASRock GAMING เพราะว่าทำออกมาเพื่อตอบโจทย์เกมส์เมอร์นั้นเองครับ เดียวจะไปบอกท้ายๆบทความว่ามันตอบโจทย์อย่างไร ตัวโมเดมเราเตอร์อันนี้จะใช้งานชื่อรุ่นว่า G10 Gaming Router
ทางด้านหลังของตัวกล่องนั้นก็จะมีบอกว่าเอาไว้ใช้งานได้ทั้งแบบเพื่อการเล่น Game หรือจัดการพวก Storage และเครื่องปริ้นภายในบ้านได้นั้นเองครับ
โดยสเปคของเจ้า G10 นั้นมีความน่าสนใจอย่างยิ่งตรงที่มันสามารถปล่อยสัญญาน Wi-Fi ได้ทั้งแบบ 2.4 GHz และ 5.0 GHz ได้พร้อมๆกัน และยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ AC อีกด้วยครับ โดยจะสามารถทำความเร็วผ่าน Wi-Fi ได้สูงสุดที่ 1733 Mbps เลยทีเดียว การใช้งานหนักๆก็สบายๆเพราะมีแรงรองรับการทำงานสูงถึง 512 Mb เลยทีเดียวครับ
แกะกล่องออกมาก็จะมีคู่มือสอนการใช้งานเบื่องต้นพร้อมทั้งอแดปเตอร์แปลงไฟเพื่อเอาไว้ใช้งานกับกล่องเราเตอร์ พร้่อมทั้งสาย Lan 1 เส้นเพื่อให้เชื่อมต่อกับตัวโมเดมเดิมได้นั้นเองครับ เพราะซื้อมาแล้วเราก็ควรที่จะเซต bridge mode เพื่อให้กล่องที่เราซื้อมาเป็นตัวประมวลผลทั้งหมดนั้นเอง
สำหรับตัวกล่อง ASRock นั้นจะเป็นสีดำเงาสวยงามมากๆครับ โดยเราจะมองไม่เห็นเสาอากาศแต่อย่างใดแต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะจริงๆแล้วตัวเสานั้นจะอยู่ภายในกล่อง โดยมีมากถึง 8 เสาเลยทีเดียวเรื่องการกระจายสัญญานบอกได้เลยว่าไกลมากหายห่วงครับ
ทางด้านหลังนั้นก็มาแบบเน้นเรียบหรูซะมากกว่า โดยจะมีช่องสำหรับระบายความร้อนเอาไว้ทั้งหมด 2 แถว
โดยการทำงานนั้นจะมีไฟสีน้ำเงินติดอยู่ทางด้านหน้าหนึ่งดวง โดยตรงนี้ไฟค่อนข้างสว่างมากๆ ถ้าใครไม่ชอบนั้นสามารถเซตปิดไฟได้เช่นกันครับ
ช่องพิเศษอีกตัวหนึ่งที่เอาไว้เสียบอุปปกรณ์เสริมเพื่อให้เอาไว้เล่นสตีมออกไปทางจอภาพต่างๆ
โดยการเชื่อมต่อทั้งหมดนั้นจะมีช่องอินฟาเรท เอาไว้สำหรับนำรีโหมดของอุปกรณ์ต่างๆมาเซตค่าและเรียนรู้เอาไว้ เพื่อวันหลังนั้นเราสามารถใช้งานผ่านระบบ Wi-Fi ได้เลยเช่นการเปิดทีวีหรือแอร์เป็นต้น สามารถทำจากนอกบ้านได้ทันที ถือว่าเป็นอีกฟีคเจอร์หนึ่งที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นภายในบ้านเลยทีเดียวครับ ต่อมาจะเป็นปุ่มสำหรับเอาไว้รีเซตสัญญาน Wi-Fi เผื่อเวลามีปัญหาอะไร โดยตัวเราเตอร์นี้จะมีช่องเสียบสาย Lan มาให้ทั้งหมด 4 ช่องด้วยกัน อีกช่องหนึ่งจะเป็นช่อง WAN เอาไว้ต่อสายจากโมเดมผู้ให้บริการเพื่อต่อทำ Bridge Mode นั้นเองครับ อีก 2 ช่องนั้นน่าจะคุ้นเคยคือช่องสำหรับ USB 3.0 สามารถเสียบพวก HDD หรือเครื่องปริ้นเพื่อเอาไว้ควบคุมได้เช่นกันครับ ถัดมาจะเป็นปุ่มรีเซตและเปิดปิดเครื่องพร้อมช่องต่อตัวอแดปเตอร์แปลงไฟ
You must be logged in to post a comment.