Review : ASUS MAXIMUS VIII EXTREME สุดยอดความแรงจัดเต็มแบบ Extreme
กราบสวัสดีครับทุกๆท่านชาว ExtremePC สำหรับวันนี้เราได้รับของแบบ Extreme สุดๆจากทาง ASUS โดมนเป็นเมนบอร์ดในรุ่น Extreme หรือที่ใครหลายๆคนรู้จักในตระกูล ROG นั้นเองครับ สำหรับในวันนี้ก็จะเป็นเมนบอร์ดรุ่น ASUS MAXIMUS VIII EXTREME สำหรับรุ่นนี้ก็เรียกว่าออกมาเกือบหลังสุดของ Z170 เลยก็ว่าได้เพราะทาง ASUS นั้นได้ทำการออกแบบมาเป็นอย่างดีใส่ใจในทุกรายละเอียดเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าถ้าใครที่ชื่นชอบการ Overclock แบบถึงขีดสุดแล้วต้องชอบอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าเดยวเราไปดูกันเลยดีกว่าครับ
สำหรับตัวแพ็คเกจของกล่องเมนบอร์ดนั้นก็บอกเลยว่ายังไม่มีอะไรแตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้าแต่อย่างใดเลยทีเดียวถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้านั้นจะมี I เพิ่มขึ้นมาเพียงหนึ่งตัวนั้นเองครับ โดยทางด้านหน้ากล่องนั้นจะมีบอกรุ่น ASUS MAXIMUS VIII EXTREME เอาไว้ชัดเจณ สำหรับรุ่นนี้ก็ยังคงมีแถม OC Panal มาให้
สำหรับทางด้านหลังของตัวกล่องนั้นจะมีการบอกรายละเอียดฟีคเจอร์ต่างๆของเมนบอร์ดเอาไว้
แกะกล่องออกมาทั้งหมดมาดูส่วนของแถมต่างๆกันก่อยเลยดีกว่าครับ สำหรับอุปกรณ์ต่างๆนั้นทางผมก็ขอแบ่งส่วนเพราะว่าในรุ่น ASUS MAXIMUS VIII EXTREME นั้นมีของแถมมาให้เยอะจริงๆ โดยของแถมที่ให้มานั้นจะเป็นสาย Sata ทั้งหมด 8 เส้นด้วยกัน และอุปกรณ์ช่วยใส่ cpu หัวต่อสายไฟหน้าเคส สายเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ HUB ช่วยต่อพัดลมภายในเคส
อีกชุดหนึ่งจะเป็น OC Panal ไว้สำหรับปรับแต่งตั้งค่า Overclock โดยถ้าใส่ภายในเคสนั้นก็จะมีช่องแปลงมาให้เสียบในส่วนของไดรฟ์ DVD ภายในเคส โดยจะมีสายพิเศษเอาไว้สำหรับต่อลงเมนบอร์ด แผ่น I/O หลังเคส สาย SLI และเสารับสัญญาน Wi-Fi
ถัดมาจะเป็น ป้ายคล้องประตู คู่มือการใช้งานและติดตั้ง แผ่น DVD ไดรเวอร์ สติเกอร์ ROG เท่ๆ และสติเกอร์เอาไว้แปะสาย HDD บอกว่าเป็นลูกไหน
เอาและครับมาดูกันที่พระเอกของงานเลยดีกว่าครับ สำหรับตัวเมนบอร์ดนั้นจะเป็นขนาด ATX หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นเมนบอร์ดขนาดใหญ่สุดที่คอมพิวเตอร์ตามบ้านใช้งานกัน โดยตัวเมนบอร์ดรุ่นนี้จะเน้นโทนสีดำตัดกับสีแดงเช่นเดิมตามแบบฉบับของ ROG
สำหรับเรื่องของภาคจ่ายไฟนั้นทาง ASUS ก็ได้ให้มามากถึง 13 เฟสด้วยกัน รอบนี้มาแปลกๆเป็นเลขคี่ แต่เท่านี้ก็เพียงพอต่อการจ่ายพลังงานให้กับตัว CPU ได้อย่างสบายๆแล้ว
สำหรับการจ่ายพลังงานให้กับ CPU นั้นจะใช้งานไฟเลี้ยงแบบ 4+8 PIN เพิ่มเติมเพื่อให้ CPU ที่เวลาทำการ Overclock แบบโหดๆสามารถจ่ายพลังงานได้เพียงพอ
สำหรับ Ram นั้นสามารถเสียบได้ทั้งหมด 4 แถวด้วยกันโดยรองรับความจุได้มากถึง 64 GB เลยทีเดียว โดยเรื่องของบัสแรมนั้นไม่ต้องกังวลว่าสูงไปจะใส่ได้มั้ยเพราะเชื่อว่าแรมบัสสูงแค่ไหนเมนบอร์ดนี้ก็รองรับแน่นอนครับ
ปุ่มฟังค์ชันต่างๆที่ทาง ASUS ได้ให้มาโดยจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ปุ่ม Reset และถัดมาจะเป็นสวิตช์สำหรับปิดเปิดช่อง PCI-E และจั้มเปอร์เปิดปิดช่อง RAM ต่างๆโดยจุดนี้เหมาะกับคนที่เอาไปเล่น Extreme แบบ Ln2 โดยถ้าเราไม่ได้ใช้งานเราสามารถปิดได้ครับ มาดูแถวล่างกันต่อเลยจากขวาไปซ้ายเช่นกันโดยจะเป็นไฟ Dbug Code เอาไว้บอกปัญหาต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ จั้มเปอรเปิดการใช้งาน LN2 MODE และสวิตช์ SLOW MODE เอาไว้ปรับลดตัวคู่ให้ต่ำสุดเอาไว้ประหยัด LN 2 เวลาเราไม่ได้ใช้งานเครื่องหรืออยากหยุดพัก ถัดมาจะเป็นปุ่ม Retry และปุ่ม Safe boost เอาไว้เวลาเราไปตั้งค่า Overclock แล้วไม่สามารถเปิดเครื่องได้ก็เพียงแค่กดปุ่มนี้เท่านั้น สุดท้ายจะเป็นปุ่ม MEMOK สำหรับปุ่มนี้ก็มีเอาไว้สำหรับคนที่ชอบ Overclock Ram โดยถ้าบูตไม่ขึ้นเราไม่จำเป็นต้องตัั้งค่าใหม่ทั้งหมดจะเป็นการคืนค่า Ram อย่างเดียว ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งข้ึ้นนั้นเองครับ
ทางด้านหลังของช่อง I/O นั้นจะมีแผ่นปิดทำลวดลายมาสวยงามเลยทีเดียวครับโดยได้มีการเขียนรุ่นเอาไว้สวยงาม
เรื่องการเชื่อมต่อไปสายทางด้านหน้าเคสนั้นเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็จัดเต็มสำหรับช่อง USB 3.0 ทางด้านหน้าเคสโดยสามารถใช้งานได้ทั้งหมด 4 ช่องด้วยกัน
ฮิตซิงค์ของชิพ PCH นั้นทาง ASUS ก็ได้ใส่ลูกเล่นใหม่ๆอย่างเช่นการเปลียนสีไฟได้เองตามที่เราต้องการอีกด้วยครับ
โดยเมนบอร์ดรุ่นนี้จะรอบรับการเสียบ HDD ทั้งหมด 8 ช่องด้วยกัน โดยเมนบอร์ดรุ่นนี้จะมีช่อง U.2 มาให้เสียบใช้งานกับ SSD รุ่นใหม่ๆอีกด้วยเรียกว่าถ้าเราจะใช้งานนั้นเราก็ไม่ต้องไปหาหัวแปลงมาเสียบที่ช่อง M.2 อีกต่อไปครับ
สำหรับการเช่อมต่อของตัวการ์ดจอนั้นจะมีทั้งหมด 6 ช่องด้วยกันโดยจะเป็น PCI-E 16 X จำนวน 4 ช่องและ PCI-E 1X จำนวน 2 ช่องด้วยกัน
เรื่องของระบบเสียงนั้นทาง ASUS ก็ได้ใส่ Supreme FX มาให้เช่นเดิมเพิ่มเติมคือปรับปรุ่งเรื่องระบบเสียง
สำหรับทาง ASUS นั้นก็ได้จัดคาปาซิสเตอร์ทองมาเลยทีเดียวทำให้เสียงที่ได้รับมานั้นค่อนข้างที่แจ่มเลยทีเดียว
สำหรับทางด้านล่างของตัวเมนบอร์ดนั้นจะมีช่องเสียบหัวโมเลคแบบ 4 pin เพื่อที่เวลาเราติดตั้งการ์ดจอหลายๆใบแล้วไฟไม่เพียงพอก็ให้เสียบจ่ายไฟเพิ่มที่ช่องนี้
สำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็แน่นอนว่ามีช่องให้เสียบ M.2 และเราจะเห็นว่าเมนบอร์ดรุ่นนีจะมี Bios จำนวน 2 ตัวด้วยกัน เพื่อที่เวลา Bios ตัวไหนเสียเราก็สามารถสลับไปใช้งานอีกตัวหนึ่งได้
ทางด้านหลังของเมนบอร์ดนั้นจะเป็นสีดำแบบเรียบๆเลยทีเดียว โดยจะมีแผ่นเหล็กช่วยยึดละระบายความร้อนในส่วนของภาคจ่ายไฟและยึดชิพ PCH
ทางด้านหลังของตัวเมนบอร์ดนั้นจะมีช่องเสียบต่างๆโดยดูจากซ้ายไปขวากันก่อนเลยเริ่มแรกจะเป็นปุ่มเคลีย Bios และปุ่มแฟรช Bios ถัดมาจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 ช่อง ช่องเสียบเสาอากาศ WI-FI ช่องเสียบ HDMI และ Display Port ช่องเสียบสาย Lan ช่องเสียบ usb 3.0 และ USB 3.1 Type-c ช่องเสียบแบบ PS2 และช่องเสียบ USB 3.0 อีกจำนวน 2 ช่องและช่องเสียบลำโพง
CPU
|
INTEL Core i7 6700k |
CPU Cooler
|
Custom Watercooling |
Thermal Compound
|
CoolerMaster Master GEL MAKER NANO |
Mainboard
|
ASUS MAXIMUS VIII EXTREME |
Memory
|
GEIL Super Luce CL 16-16-16 |
VGA Card
|
MSI GTX 980TI LIGHTNING 6GB |
SSD
|
Ocz Vector 180 480 GB |
SSD
|
KLEVV URBANE 480 GB
|
Power Supply
|
CORSAIR AX 1500i
|
Chassis
|
DimasTech Easy XL |
OS
|
Windows 10 pro |
รายละเอียดสเปคสำหรับในการทดสอบ
จบไปแล้วสำหรับการทดสอบสำหรับเจ้า ASUS MAXIMUS VIII EXTREME นั้นก็ต้องบอกก่อนว่า การปรับแต่งตั้งค่า Overclock ต่างๆนั้นมันทำได้ละเอียดกว่าเมนบอร์ดทั่วๆไปเพราะถ้าใครพร้อมที่จะเล่นแบบ Extreme นั้นเมรบอร์ดรุ่นนี้ก็พร้อมที่จะทำให้เกิดความแรงแบบสถิติโลกได้ง่ายๆเพียงใจพร้อมเท่านั้นเอง ฮ่าๆ แต่ในวันนี้ที่เทสในความเร็ว 4.6 GHz นั้นก็เพราะอยากใช้เป็นค่าพื้นฐานเดิมๆที่เคยทดสอบบนทุกเมนบอร์ดที่ผ่านๆมานั้นเองครับ ก็เรียกได้ว่าคะแนนและผลทดสอบต่างๆนั้นก็จัดได้ว่าสูงกว่าพื้นฐ้านหรืออยู่ในระดับพื้นฐานทั่วๆไปนั้นเองครับ เรื่องของการติดตั้งนั้นก็รองรับการใส่การ์ดจอหลายๆใบหรือช่องเสียบต่างๆนั้นก็เพียงพอถ้าใครใช้งาน HDD หลายๆลูกแล้วนั้นก็เมนบอร์ดตัวนี้ทางผมก็คิดว่าเพียงพอต่อความต้องการเลยทีเดียวและครับ สำหรับวันนี้ทาง ExtremePC ก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.