กราบสวัสดีทุกๆท่านพี่น้องแฟนๆชาว ExtremePC ทุกท่านครับสำหรับวันนี้นานๆเราจะได้จับของแรงๆกันบ้างโดยทางค่ายเขียวนั้นได้ทำการส่งการ์ดจอตัวแรงที่พึงเปิดตัวใหม่มาไม่นานครับนั้นก็คือ Nvidia GTX 1080 เอ๊ะ หลายๆคนน่าจะงงผมไปอยู่หลังเขาไหนมาที่บอกว่ามันพึงจะเปิดตัวเพราะเอาจริงๆแล้ว GTX 1080 นั้นเปิดตัวมานานมากๆพอสมควรเลยทีเดียวและครับแต่ความพิเศษของวันนี้คือมันเป็นเวอร์ชันแรมแบบ 11 Gbps GDDR5X นั้นเองครับหรือพูดง่ายๆว่าเป็นตัวที่แรมมีแบร์ดวิทเยอะกว่าตัวเก่าหรือรุ่นก่อนหน้านั้นเองแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการ์ดจอที่เราใช้งานอยู่นี้เป็นเวอร์ชันไหนก็สามารถดูได้ทางด้านหน้ากล่องเลยครับ หรือสามารถเช็คได้ผ่านตัวโปรแกรม GPU z เนื่องจากว่าในตอนแรกทาง Nvidia ยังไม่ได้ทำการเปิดตัว GTX 1080Ti และพึงมาได้เปิดตัวในตอนหลังนี้ทำให้ทาง Nvidia ตัดสินใจเปลียนไลน์การผลิตให้มาใช้งานแรมแบบรุ่นเดียวกับของตัว GTX 1080 Ti นั้นเองเพื่อที่จะสามารถได้ความแรงเพิ่มขึ้นทางด้านสถาปัตยกรรมของ memory ก็ถูกอัพเดทใหม่ให้มันเร็วขึ้นในรูปแบบ G5X memory. สำหรับชิปใหม่นั้นจะแรงขึ้นเป็น 11 Gb/s ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันกับ GTX 1080 Ti. มีค่า bandwidth ที่ 352 GB/s.
NVIDIA GeForce 10 Pascal Family:
ใครซื้อไปใช้งานก่อนหน้าวันเปิดตัวใหม่ไม่นานก็หลังหักกันไปตามระเบียบนะครับ ส่วนใครที่กำลังจะซื้อก็เลือกซื้อดูกันดีๆว่าจะได้ตัวไหน
โดยต้องบอกว่าการ์ดจอที่จะรีวิวในวันนี้ส่วนประกอบและจุดเด่นนั้นเพียบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตที่ใช้งานเครื่องจักร์ทั้งหมด 100 % ทำให้ได้ความเที่ยงตรงและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟ RGB ที่ออกมารองรับทุกการตกแต่งเคสตวามความชอบของผู้ใช้งานเลยทีเดียวครับ
นอกเรื่องไปไกลเพราะต้องพูดถึงเรื่องของการ์ดจอใหม่จากทาง Nvidia ก่อน โดยวันนี้ทาง ASUS ได้ทำการจัดส่งการ์ดจอ GTX 1080 11Gbps GDDR5X มาให้ทางเราทำการทดสอบครับ โดยตัวการ์ดจออยู่ในเวอร์ชัน Strix Gaming
การสังเกตที่ง่ายที่สุดนั้นให้ดูได้จากทางด้านหน้ากล่องเลยครับเนื่องจากจะมีเขียนเอาไว้ใต้ชื่อรุ่น GTX 1080 เอาไว่ว่า 11 Gbps GDDR5X นั้นเอง
สำหรับทางด้านหลังของตัวกล่องจะมีเขียนบอกรายละเอียดเอาไว้หลายๆอย่างโดยตัวนี้ผมขอเน้นเรื่องระบบระบายความร้อนแล้วกันนะครับเนื่องจากเป็นฮิตซิงค์รุ่นใหม่จากทาง ASUS ที่ได้มีการเพิ่มตัวหน้าสัมผัสของชิพ GPU ทำให้สามารถส่งถ่ายความร้อนออกมาได้ดีกว่าและยังเพิ่มความเรียบโดยการปัดเงามาจนสะท้อนเป็นกระจกเลยทีเดียว
ภายในตัวกล่องนั้นจะมีคู่มือการใช้งานจำนวน 1 เล่มพร้อมทั้งแผ่น DVD ไดรเวอร์ พร้อมสายแปลงไฟเลี้ยงการ์ดจอให้เป็น 8 Pin สุดท้ายจะเป็นตัวเอาไว้รัดเก็บสายไฟเพื่อความเรียบร้อยครับ
สำหรับตัวการ์ดจอนั้นต้องบอกว่าถ้ามองผ่านๆไปจะดูไม่ออกเลยทีเดียวว่าเป็นรุ่นไหนเพราะทางด้านหน้าของทาง ASUS GTX1080 นั้นจะมาเป็นแบบระบบระบายความร้อนแบบ 3 พัดลมเป่าลงไปยังฮิตซิงค์
โดยรอบๆตัวพัดลมของการ์ดจอนี้จะมีเส้นพลาสติกใสติดเอาไว้อยู่รอบๆเป็นเส้นๆสวยงามเพื่อให้เวลาใช้งานจะมีแสงไฟ RGB ส่องผ่านติดสว่างขึ้นมาครับ
มองจากทางด้านบนนั้นจะเห็นว่าตัวการ์ดจอมีความหนามากถึง 2.5 สล๊อตด้วยกันนั้นก็เพราะว่าทาง ASUS ได้เพิ่มพื้นที่ตัวฮิตซิงค์ขึ้นมาเพื่อให้สามารถระบายความร้อนออกไปได้ดีมากกว่าเดิมครับ
ในส่วนของทางด้านข้างหรือขอบการ์ดจอนั้นจะมีโลโก้ REPUBLIC OF GAMERS ติดเอาไว้อยู่ด้วยโดยโลโก้นี้เวลาใช้งานแน่นอนมันมีไฟส่องสว่างเช่นกัน
จุดเล็กๆบงบอกความเป็น Geforce GTX
สำหรับทางด้านหลังของตัวการ์ดจอนี้จะมีแผ่นเหล็กปิดเอาไว้ครับ โดยแผ่นนี้จะช่วยเรื่องของการเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัว PCB ของการ์ดจอไม่ให้งอไปตามน้ำหนักของตัวฮิตซิงค์ ป้องกันความเสียหายในระยะยาว
และเท่านั้นยังไม่พอส่วนของทางท้ายการ์ดจอจะมีโลโก้ ROG ติดเอาไว้เวลาใช้งานจะมีแสงสว่างส่องผ่านโลโก้ขึ้นมาครับ
สำหรับตรงส่วนของภาคชุดคอลโทรการจ่ายไฟจะมีการเจาะรูเอาไว้ให้เรามองเห็นแยกออกมาเป็นทั้งหมด 4 ชุดด้วยกันครับ
แน่นอนว่าการ์ดจอตัวนี้ยังสามารถเชื่อมต่อแบบ SLI ได้เช่นกันและมันก็รองรับการต่อ SLI กับ GTX 1080 ตัวเก่าที่ไม่ใช่แรม 11 Gbps ได้นะครับในส่วนนี้แอดมินลองแล้วผ่าน
สำหรับไฟเลี้ยงของตัวการ์ดจอนั้นจะต้องเสียบสาย PCI-E แบบ 8 pin และ 6 pin อย่างละหนึ่งด้วยกันครับ โดยพาเวอร์ซัพพลายต้องการใช้งานประมาณ 650 W ขึ้นไป
สำหรับรูๆตรงนี้จะเป็นจุเอาไว้เช็คไฟเลี้ยงส่วนต่างๆของตัวการ์ดจอเหมาะสำหรับนัก Overclock แบบ EXTREME นั้นเอง
สำหรับการเชื่อมต่อออกสู่จอภาพนั้นจะมีพอร์ต DVI-D , HDMI จำนวน 2 พอร์ต , Display Port จำนวน 2 พอร์ต
และพิเศษกว่าใคร ตรงตำแหน่งท้ายการ์ดจอนั้นมีช่องสำหรับเสียบพัดลมแยกแบบ 4 pin มาให้อีกด้วย ทำให้คนที่มีพัดลมภายในเคสเยอะๆ สามารถเก็บสายและเชื่อมต่อสายได้ตามความต้องการมากยิ่งขึ้น
CPU
|
AMD RYZEN 7 1800X @4.0 GHz |
CPU Cooler
|
Be quiet! DARK ROCK PRO 3 |
Thermal Compound
|
CoolerMaster Master GEL MAKER NANO |
Mainboard
|
ASUS Crosshair VI HERO |
Memory
|
G.Skill FLARE X 3200 MHz 16 GB CL 14 |
VGA Card
|
ASUS ROG Strix GeForce® GTX 1080 OC edition 8GB 11Gbps |
SSD
|
Team Group T-FORCE CARDEA PCIe M.2 SSD 240 GB |
SSD
|
KLEVV URBANE 480 GB |
Power Supply
|
Corsair AX 1500i
|
Chassis
|
DimasTech Easy XL |
OS
|
Windows 10 pro |
สเปคในการทดสอบเซตเอาไว้ เช่นเดิมครับ
ตัวแสงไฟ RGB นั้นก็โชว์สวยงามสามารถปรับได้หลากหลายสีต้องบอกว่าอันนี้เป็นตัวอย่างแค่บางสีเท่านั้นครับ
ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบในวันนี้ก็ถือว่าการที่ทาง Nvidia ได้ออกรุ่นเพิ่ม BW ของตัว Ram บนการ์ดจอนั้นมันส่งผลและประสิทธิภาพได้ดีระดับหนึ่งโดยถ้าดูจากกราฟผมดีๆแล้วละก็ตัว Core ในการทำงานของทาง ASUS ตัวนี้อยู่เพียง 1696 MHz เท่านั้นซึ่งต่ำกว่า GTX 1080 เวอร์ชั่นเก่าที่มีการทำงานของตัวสัญญาน GPU ที่มากกว่าแต่มันกลับได้คะแนนเยอะกว่าครับไม่แน่ว่าถ้าเรานำเจ้า ROG Strix GeForce® GTX 1080 OC edition 8GB 11Gbps GDDR5X (ชื่อยาวจริงๆ) ตัวนี้มาทำการลากเพิ่ม MHz ของตัวชิพ GPU แล้วละก็เราน่าจะได้เห็นความแรงที่เพิ่มมากกว่านี้อย่างแน่นอนอาจจะไล่รุ่นพี่อย่าง GTX 1080 Ti ได้แบบสบายๆเลยทีเดียวและครับ สำหรับในส่วนเรื่องของราคาที่เปิดตัววางขายในไทยนั้นต้องบอกว่าราคาแทบจะเทียบชนรุ่นพี่อย่าง GTX 1080 Ti เลยทีเดียวและครับแต่ความแรงที่ได้รับนั้นก็เรียกว่าเพียงพอต่อการตัดสินใจที่จะจ่ายเพิ่มเลยทีเดียว เอาเป็นว่าสำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้เอาไว้พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.