เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อยสำหรับ ASUS Vivobook Pro 15 OLED โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ของทางค่าย โดยรุ่นนี้ยังเน้นความคุ้มค่า ราคาเข้าถึงง่าย เอาใจกลุ่มนักเรียน วัยรุ่นหรือวัยที่เริ่มทำงาน
สำหรับ ASUS Vivobook Pro 15 OLED จะโชว์จุดเด่นเรื่องหน้าจอ การแสดงผลของหน้าจอที่คมชัด สีสันสดใส เพราะเลือกใช้พาแนลจอแบบ OLED นั้นเองครับ กล้าพูดได้ว่าดีสุดในเรทราคาพอๆกัน สำหรับรุ่นที่ผมรีวิวจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i5-11300H การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max Q หน่วยความจำที่ RAM 8GB DDR4 / Storage 512GB M.2 NVMe PCIe 3.0 จ่ายทีเดียวจบๆพร้อมใช้งานเพราะตัวเครื่องติดตั้ง Windows 10 Home และ Office Home and Student 2019 มาให้พร้อมใช้งานแล้วครับ กับค่าตัวที่ 32,990 บาท ตัวเครื่องรับประกันยาวๆ 3 ปีเต็ม และปีแรกจะได้รับประกันแบบ Perfect Warranty ด้วยครับ
SPEC ASUS Vivobook Pro 15 OLED (S3500, 11th Gen Intel)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 16:9 ค่าความสว่างสูงสุด 400 nits พาแนลแบบ OLED ให้ค่าสี 100% DCI-P3 color gamut, PANTONE Validated
- ชิปประมวลผล CPU Intel® Core™ i5-11300H
- GPU Intel® Iris Xe Graphics + NVIDIA® GeForce® GTX 1650 Max Q
- RAM 8GB DDR4
- Storage 512GB M.2 NVMe PCIe 3.0
- wifi 6.0 802.11ax
- คุณภาพเสียงมาตราฐาน Harman Kardon
- Windows 10 Home + Office Home and Student 2019
- ราคา 32,990 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้
- ตัวเครื่อง ASUS Vivobook Pro 15 OLED
- Adaper ขนาด 100W
- กระเป๋าสะพายหลัง
- สติ๊กเกอร์ติดตัวเครื่อง
- คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
ASUS Vivobook Pro 15 OLED เพิ่มความโดดเด่นของฝาหลังด้วยโลโก้นูนแบบ 3D เพิ่มความโดดเด่นเห็นได้ชัด ฝาหลังวัสดุเป็นอลูมิเนียมปุ๊มขึ้นรูป สีที่ผมรีวิวคือสี สีที่ผมรีวิวคือสี Quiet Blue
ด้านหลังตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับระบายอากาศ ภายในจะติดตั้งพัดลมระบายความร้อนมาให้ทั้งหมด 2 ตัวนะครับ และตำแหน่งของลำโพงซ้าย-ขวา
หน้าจอ OLED ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 16:9 ค่าความสว่างสูงสุด 400 nits พาแนลแบบ OLED ให้ค่าสี 100% DCI-P3 color gamut, PANTONE Validated ผ่านรับรองจาก TÜV Rheinland ในการปล่อยแสงสีฟ้าที่ต่ำ ช่วยถนอมสายตา สัดส่วนพื้นที่หน้าจอสูงถึง 84%
ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ให้หน้าจอมาดีมากๆ สวยคมชัด สีสันสดได้ใจตามสไตล์ OLED เหมาะสำหรับการแต่งภาพหรือทำคอนเท็นต่างๆ รุ่นนี้ใส่การ์ดจอแยกมาให้ สามารถตัดต่อวิดีโอระดับเริ่มต้นได้เลยครับ ใครสายทำคอนเท็น ชุดเริ่มต้นราคาไม่แพงได้จอสวยๆ มาตัวนี้ไม่ผิดหวัง
ตรงขอบหน้าจอด้านบนจะมีกล้อง web cam มาให้พร้อมกับช่องปิดกล้องแบบสไลค์ เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว สำหรับไมค์จะมีฟังก์ชั่น ASUS AI Noise-Canceling เป็นโหมดช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ช่วยเพิ่มเสียงสนทนาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเวลาประชุม
ขนาดตัวเครื่อง 35.98 x 23.53 x 1.89 ~ 1.99 ซม. น้ำหนัก 1.65 กิโลกรัม
คีบอร์ดและทัชแพด
ASUS Vivobook Pro 15 OLED ติดตั้งคีบอร์ดแบบ Full Size มาให้ใช้งาน โดยมีแผง Number Pad มาให้พร้อม ตรงปุ่ม Enter จะมีลวดลายดูเด่นชัด ระยะการกด 1.35มม. ฟิลลิ่งในการพิมพ์ถือว่าดีทีเดียวเหมาะสำหรับการพิมพ์งานทั่วไป แป้นคีบอร์ดจะมีไฟ LED (backlit keyboard) มาให้พร้อม สามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ
ทัชแพดได้เพิ่มพื้นที่จากรุ่นก่อน 27% ฟิลลิ่งในการทัชถือว่าดีใช้ได้เลย รองรับมัลติทัชเช่นเดิมครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อ
ฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB2.0 มาให้ทั้งหมด 2 พอร์ต และมีไฟแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง
ฝั่งขวาจะมีช่องต่อไฟ power Adapter / USB 3.2 Gen 1 / HDMI / Thunderbolt™ 4 / microSD card reader และ ช่องหูฟังแบบ 3.5 มม. ถือว่าใส่พอร์ตมาให้ครบมาก ที่ดีงามสุดสำหรับผมคือ Thunderbolt นี่แหล่ะมีแค่พอร์ตเดียวสามารถต่อยอดใช้งานไปได้อีกเยอะเลย
ประสิทธิภาพการทำงาน
ASUS Vivobook Pro 15 OLED มาพร้อมกับ
- ชิปประมวลผล CPU Intel® Core™ i5-11300H แบบแกนประมวลผล 4 Cores/8 Threads ความเร็ว 3.10 GHz ค่า TDP สูงสุด 35W เป็นชิปประมวลผลระดับกลางๆที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงาน Office และตกแต่งภาพ
- GPU Intel® Iris Xe Graphics + NVIDIA® GeForce® GTX 1650 Max Q การ์ดจอแยกที่ใส่มาให้ สามารถตัดต่อวิดีโอระดับเริ่มต้นได้เลยครับ แรนเดอร์เร็วใช้ได้ หรือใครจะเอาไว้เล่นเกมแก้เบื่อเพื่อฆ่าเวลาตัวนี้ก็เอาอยู่ สามารถเล่นเกมได้กับหน้าจอที่ความฃละเอียด FHD
หน่วยความจำ
- RAM 8GB DDR4 แบบ on board ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่ม
- Storage 512GB M.2 NVMe PCIe 3.0
ความเร็วในการอ่านและเขียนถือว่าประทับใจ ให้มาดี
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องผ่านโปรแกรม
พัดลมระบายความร้อนติดตั้งมาให้ 2 ตัว ช่วยระบายความร้อนได้ดีมีประสิทธิภาพ
ระบบปฏิบัติการ
ASUS Vivobook Pro 15 OLED ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home และ Office Home and Student 2019 แบบถูกต้องลิขสิทธิ์มาให้ใช้งานเรียบร้อย และสำหรับรุ่นนี้เขาจัดกิจกรรมแลกรับ Adobe Creative Cloud ได้ฟรีด้วยนะครับ
แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม MyASUS ไว้สำหรับตั้งค่าเบื้องต้นของตัวเครื่อง รวมไปถึงดูการทำงานของตัวเครื่อง และ Link to MyASUS เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถทั้งแชร์หน้าจอ โอนไฟล์
แบตเตอรี่
ASUS Vivobook Pro 15 OLED ให้แบตเตอรี่มาที่ 63WHrs ส่วน Adapter จะให้มาที่ 120W ถ้าใช้งานทั่วไปจะอยู่ได้ราวๆ 8-9 ชั่วโมงนะครับ แต่ถ้าอยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน ลากยาวๆ 13 ชั่วโมงได้เลย ส่วนถ้าจะทำงานด้านกราฟฟิดหรือตัดต่อวิดีโอแนะนำเสียบชาร์จไว้ตลอดนะครับ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดี
สรุป
ASUS Vivobook Pro 15 OLED กับค่าตัว 32,990 บาท ถ้าผมจะตำหนิคงมีแค่เรื่องเดียวคือ ช่องเพิ่มแรมควรมีให้เพื่อการอัพเกรดในอนาคต นอกนั้นไม่มีที่ติแล้วครับ ตัวเครื่องทำออกมาสวยหรูดูพรีเมี่ยม ดูแพง ถึงจะเป็นซีรี่ย์ตัวน้อง(รองจาก Zenbook) หน้าจอแสดงผล สามารถแสดงผลได้สวยงามมากๆ สีสันสดใส ใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คจอสวยไว้ตกแต่งภาพหรืองานวิดีโอ ตัวนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน สเปคที่ให้มาโดยรวมถือว่าดีมาก
ขอชื่นชม ASUS ที่กล้าใส่จอดีๆในซีรี่ย์เล็ก ไม่ว่าจะดูหนังหรือทำงานก็ฟินสุดๆ
You must be logged in to post a comment.