Review: ASUS X99 PRO ตอบโจทย์คนทำงานและเล่นเกมส์ได้อย่างลงตัว
สวัสดีครับทุกๆท่านกลัยมาเจอกันอีกแล้ว สำหรับในวันนี้ทางผมก็ได้รับเมนบอร์ดอีกรุ่นหนึ่งจากทาง ASUS ในชื่อรุ่นว่า ASUS X99 PRO ชื่อสั้นๆเรียบง่ายแต่ได้ใจความเลยทีเดียว สำหรับเมนบอร์ดรุ่นนี้ก็ออกมาตอบโจทย์การใช้งานในระดับกลางๆทั่วๆไปไม่ได้เน้นแรงอะไรมากมายครับ แต่มันก็ยังไม่ลืมที่จะมีความสามารถในการ Overclock แต่อย่างใด โดยตัวเมนบอร์ดในรอบนี้ก็ได้ออกมาในโทนสีขาวสวยงามสะอาดตาตัดกับสีดำดูลงตัวเป็นอย่างมากครับ เอาเป็นว่าเดียวเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันจะเป็นอย่างไร
สำหรับทางด้านหน้าของตัวกล่องนั้นก็เรียบๆง่ายๆสำหรับเมนบอร์ด ASUS โดยรุ่นนี้จะเป็นตัวกลางๆเหมาะแก่การใช้งานครบทุกรูปแบบ ทางด้านหน้ากล่องก็ได้มีการเขียนชื่อรุ่นว่า ASUS X99-PRO เอาไว้สวยงามชัดเจนครับ และเมนบอร์ดรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5 way optimization หรือว่ามีช่อง PCI มาให้มากถึง 5 ช่องนั้นเองครับ
ทางด้านหลังของตัวกล่องนั้นก็จะมีการเขียนรายละเอียดฟีคเจอร์ต่างๆของทาง ASUS ต่างๆเอาไว้คร่าวๆ โดยต้องบอกเลยว่าจุดเด่นเมนบอร์ด ASUS นั้นจะอยู่ที่ OC Socket นั้นเองครับ เพราะมันจะสามารถจ่ายกระแสไฟได้ดีกว่าปกติและยังสามารถลาก CPU ไปได้ไกลกว่าเมนบอร์ดทั่วๆไปตามท้องตลาดนั้นเอง แกะกล่องออกมาก็จะเจอกับอุปกรณ์ต่างๆภายในกล่องโดยอันที่โดดเด่นเป็นพิเศษก็คงจะเป็นเจ้า การ์ดแปลง PCI ให้เป็นช่องเชื่อมต่อ m.2 นั้นเองครับเผื่อใครต้องการเสียบใช้งานเยอะๆก็สามารถต่อเพิ่มได้
สำหรับเมนบอร์ดพระเอกของงานนี้กับเจ้า ASUS X99-PRO โดยเมนบอร์ดรุ่นนี้จะเป็นสีขาวทั้งตัวเมนบอร์ดเลยทีเดียวและตัดกับ PCB สีดำสวยงามลงตัวเป็นอย่างมากครับ ตัวขนาดเมนบอร์ดนั้นก็จัดมาเป็นแบบ ATX เต็มเคส
ทางด้านหลังของตัวเมนบอร์ดหรือในส่วนของช่อง i/o นั้นจะมีแผ่นปิดเอาไว้สวยงามและยังมีเขียนชื่อ X99 Series เอาไว้อีกด้วย
สำหรับตัวซ๊อกเก๊ตนั้นจะใช้งานเป็นแบบ OC Socket ที่จะมีขาพินเยอะกว่าเมนบอร์ดทั่วๆไปเพื่อการจ่ายพลังงานได้ดีกว่าและสามารถ Overclock ได้ไกลกว่า
ตัวภาคจ่ายไฟของเมนบอร์ดรุ่นนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 8 เฟส ด้วยกันครับ ทำให้จ่ายพลังงานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด
โดยเมนบอร์ดนี้ต้องการเสียบไฟเลี้ยงเพื่อเอาไปจ่ายพลังงานให้กับตัว CPU โดยใช้งานเป็น 8 pin จำนวน 1 ช่องด้วยกันครับ
ในส่วนของเรื่องภาคจ่่ายไฟนั้นทาง ASUS ได้ใช้งานเป็นตัว Crystal Sound 2 ทำให้ได้เสียงที่ไพเราะและเสียงที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
บนเมนบอร์ดนั้นแน่นอนว่าต้องมีชิพ PCH หรือเจ้าชิพ x99 นั้นเองครับ ทำให้มันสามารถทำงานได้ โดยส่วนนี้ทาง ASUS ก็ได้มีการออกแบบตัวฮิตซิงค์ออกมาเป็นสีขาวสวยงามเป็นอย่างมาก
สำหรับช่องเสียบเจ้าการ์ด PCI-E นั้นก็ต้องบอกว่ามีช่อง PCI-E ด้วยกันทั้งหมด 4 ช่อง และช่อง PCI-E 1x อีกจำนวน 2 ช่องด้วยกันครับ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไหนหน้ากล่องเขียนว่า 5 way optimization เดียวไปดูกันครับ
นี้คืออีกช่องของ PCI-E แต่มันมาอยู่ในรูปแบบของการเชื่อมต่อ m.2 นั้นเอง โดยส่วนนี้เราสามารถติดตั้งเข้าไปได้เลย
สำหรับในส่วนของทางด้านล่างนั้นจะมรสวิตช์ต่างๆมากมายโดยจะไล่จากจั้มเปอร์ซ้ายสุดไปขวาสุดนะครับ
ตัวจั้มเปอร์นั้นจะใช้งานเป็นการเคลีย Bios เวลาเราเซตค่าผิดพลาดก็สามารถมาแก้ได้จากตรงนี้ ต่อมาจะเป็น EZ XMP เนื่องจากผมยังเชื่อว่าหลายๆคนยังไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับหน้า BIOS ทำให้ทาง ASUS ทำสวิตช์ของการเปิดโปรไฟล์ XMP เอาไว้เลยไม่ต้องไปยุ่งกับตัว bio แต่อย่างใด ต่อมาจะเป็นสวิตช์ของ EPU เป็นการเปิดโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งหมด TPU ของทาง ASUS นั้นเองครับต่อมาจะเป็นในส่วนของทางด้านล่างนั้นเอาใจสำหรับคนใช้งานแบบไม่ใส่เคสโดยเมนบอร์ดตัวนี้จะยังคงมีสวิตช์เปิดปิดเครื่องและปุ่มรีคอมพิวเตอร์ และยังมีจอแสดงผล Debug code เอาไว้ให้อีกด้วยครับ สำหรับการเชื่อมต่อ HDD หรือ SSD นั้นผมเชื่อว่าคนใช้งานเมนบอร์ดรุ่นใหญ่ๆต้องการเชื่อมต่อ HDD เป็นจำนวนมากเพราะว่าเอาไว้ใช้งานเก็บข้อมูลเวลาตัดต่อหนังนั้นเอง โดนจะมีมาให้ทั้งหมด 10 ช่องด้วยกันครับ โดย 2 ช่องทางขวานั้นจะพิเศษหน่อยเผื่อว่าเอาไว้เชื่อมต่อแยย Sata Explees อีก 2 ช่องนั้นก็จะอยู่ทางด้านบนขึ้นมาหน่อยนั้นเองครับ
สำหรับอีกปุ่มหนึ่งของเมนบอร์ดนั้นจะอยู่ทางด้านบนๆหน่อย โดยจะเป็นปุ่ม memOK เอาไว้สำหรับคนที่ทำการ Overclock ตัว Ram แล้วไม่สามารถเปิดเครื่องขึ้นมาได้เพราะได้ไปเซตค่าผิดพลาดก็เพียงแค่กดปุ่มนี้ค่าเก่าก็จะกลับมาทำให้สามารถเปิดเครื่องใหม่ได้อีกครั้งหนึ้งนั้นเองครับ ทางด้านหลังของตัวเมนบอร์ดหรือช่อง i/o นั้นจะมี ปุ่มเคลีย Bios จำนวน 1 ตัว ช่องสำหรับการเชื่อมต่อ ps2 จำนวน 1 ช่องด้วยกัน ช่องเชื่อมต่อ USB มีมาให้มากถึง 10 ช่องเลยทีเดียวโดยจะแบ่งเป็นช่อง usb 2.0 จำนวน 4 ช่องและ usb 3.0 จำนวน 6 ช่องด้วยกันครับ ทางด้านหลังของตัวเมนบอร์ดนั้นจะเป็นแผน PCB สีดำแบบปกติทั่วๆไปครับ เอาเป็นว่าเดียวเราไปดูความแรงของเมนบอร์ดตัวนี้กันเลยดีกว่าครับ
CPU
|
INTEL Core i7 6950X |
CPU Cooler
|
Custom Watercooling |
Thermal Compound
|
CoolerMaster Master GEL MAKER NANO |
Mainboard
|
ASUS X99- pro |
Memory
|
KLEVV Cras 16 GB 3000 MHz |
VGA Card
|
Gigabyte Xtreme Gaming GTX1080 |
SSD
|
OCZ VECTOR 180 480 GB |
SSD
|
KLEVV URBANE 480 GB |
Power Supply
|
CORSAIR AX 1500i
|
Chassis
|
DimasTech Easy XL |
OS
|
Windows 10 pro |
จบไปแล้วสำหรับการทดสอบ เรียกได้ว่าจะใช้งานก็ได้หรือจะสามารถ Overclock ก็ได้แบบสบายๆเพราะว่าทาง ASUS ได้ใช้งานเจ้า OC Socket ทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟไปยังตัว CPU ได้ดีกว่าปกตินั้นเองครับ ทำให้สามารถลากไปได้ไกลกว่าและใช้งานทั่วๆไปได้สเถียนกว่ากันมาก เรื่องของการใช้งานตรงสว่นนี้ถ้าใครอยากใช้งาน PCI-E หลายๆใบบอร์ดตัวนี้ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างมากเพราะหลายๆคนยังมีความคอดอยากได้เกียวกับการต่อ SLI แล้ววิ่งที่ความเร็ว 16X ทั้ง 2 ใบ เมนบอร์ดนี้มันก็สามารถทำงานได้ตอบโจทย์เป็นอย่างมากครับ ส่วนถ้าใครจะซื้อมาแล้วใช้งานกับ CPU ที่เป็น GEN 6 ถ้าเปิดไม่ติดก็ไม่ต้องตกใจเพราะต้องทำการอัพตัว bios ก่อนนั้นเองครับ สำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.