Review: Cooler Master MasterCase Maker 5 สร้างสรรค์ความต้องการได้ตามใจ
สวัสดีครับทุกๆท่าน ชาว ExtremePC ทุกๆท่าน สำหรับช่วงนี้ทาง CoolerMaster Thailand เรียกว่ากำลังเดินเครื่องนำสินค้ารุ่นต่างๆเข้าไทยมาเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวไปพักใหญ่ๆ และมีการทำคอนเซป MasterCase ไปได้สักพักแล้วหลังจากอะไรๆเริ่มลงตัวก็เริ่มมีทั้งสินค้าและอุปกรณ์เสริมต่างๆออกมาอย่างมากมายเลยทีเดียวครับ สำหรับวันนี้ทางผมก็ได้รับเคสอีกตัวหนึ่งในรุ่นของ Cooler Master MasterCase Maker 5 หลังจากที่ทางผมเคยได้รีวิวเจ้าเคส CoolerMaster Master Case 5 ไปแล้วซึ่งทาง Coolermaster จะมีเคสในตระกูลเดียวกันออกมา 3 รุ่นครับ โดยจะเป็นตัว case 5 ต่อมาจะเป็น Pro 5 และท๊อปสุดในตระกูลก็คือ Maker 5 นั้นเองครับ โดยแต่ละเวอร์ชันนั้นสามรถทำการอัพเกรตได้เหมือนกันทั้งหมดแต่ของที่มาเริ่มต้นจะแตกต่างออกไปนั้นเองครับ โดยตัว Maker 5 จะมีใส่จัดเต็มมาทั้งหมด อาจจะมีอุปกรณ์ฟังค์ชันเสริมเพิ่มเติมมาขายอีกนั้นเองครับ
โดยตัว Maker 5 นั้นจะได้รับการอัพเกรดตัว Fron panal ทางด้านหน้าของตัวเคสโดยจะรองรับ USB3.1 Type-c เพิ่มเติมนั้นเองครับ
อย่างที่บอกไปครับว่าคำว่า Master Case นั้นจะใช้งานโครงรุ่นเดียวกันแต่ทุกชิ้นส่วนนั้นสามารถถอดเปลียนหรือสลับกันหรือจะเป็นการซื้อมาอัพเกรดได้นั้นเองครับ ทำให้เคสนี้สามารถเล่นได้ไม่รู้จบเลยทีเดียว
สำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆนั้นในไทยกำลังจะมีโชว์รูมเพื่อเอาไว้ซื้ออะไหล่หรือชิ้นส่วนต่างๆมาเพิ่มเติมภายในเคสของท่านๆได้นั้นเองครับ ถือว่าเป็นเคสที่ซื้อมาแล้วสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อย่างไม่รู้จบ
มาดูกันที่ตัวกล่องกันก่อนเลยครับ โดยกล่องนั้นจะเหมือนกันทุกรุ่นของทาง CoolerMaster โดยรุ่นนี้จะเป็นตัว MAKER 5 นั้นเองครับ จะเห็นว่าล่างกล่องเล็กๆจะมีเขียนเอาไว้ว่า With FreeForm Modular System Customize Adjust Upgrade เรียกได้ว่าเล่นได้ไม่รู้จบจริงๆ
แกะกล่องออกมาก็จะเจอกับกล่องเหล็กอยู่หนึ่งใบเจ้ากล่องเหล็กนี้จะมีฐานเป็นแม่เหล็กเอาไว้ดูดติดข้างเคสได้อีกด้วยครับ พอผมแกะออกมาดูสินค้าภายในนั้นค่อนข้างจะถูกใจครับ เพราะว่าเอาจริงๆแล้วเคสหนึ่งตัวใส่น๊อตที่แถมมาให้ไม่หมดหรอกแล้วก็เก็บยากแต่พอมีกล่องใส่มาให้เรียบร้อยแบบนี้ทำให้ดูดีขึ้นมาเลย โดยตัวของที่มีมาให้นั้นจะเป็นชุดน๊อตสำหรับยึดชิ้นส่วนต่างๆภายในเคส สายเคเบิลไทลเอาไว้จัดเก็บสายไฟ ชุดยึดพัดลมหม้อน้ำและตัวยึดเพิ่มเติมต่างๆภายในเคส
รายละเอียดเล็กๆที่ยี่ห้ออื่นไม่มีก็คงจะเป็นชุดน๊อตต่างๆนั้นทาง CoolerMaster ได้มีการเขียนบอกเอาไว้ทั้งหมดว่าแต่ละชิ้นนั้นใช้ส่วนไหนของตัวเคสทำให้เราไม่ใช้งานน๊อตผิดเกลียวอย่างแน่นอนครับ
มาดูหน้าตาเคสพระเอกของงานนี้กันเลยดีกว่าครับ โดยตัวเคสนั้นจะยังคงเป็นโทนสีดำเช่นเดิม โดยพลาสติกชุดนี้ต้องบอกว่าสามารถนำไปทำสีสรรค์เพิ่มเติมได้อย่างง่ายเลยทีเดียวครับ โดยเคสชุดนี้เรียกว่าใส่เต็มแม๊คเลยทีเดียวมีทั้งหลังคาและฝาหน้าแบบเพิ่มการเก็บเสียง และยังมาพร้อมกับฝาเคสแบบใสมองเห็นภายในเคสได้อีกด้วยครับแต่ถ้าใครยังคิดว่าใสไม่พอยังมาฝาแบบกระจกให้เลือกอัพเกรดได้อีก
โดยทางด้านหน้าเคสนั้นถ้าใช้งานไดร์ฟ DVD ก็สามารถเปิดออกมาได้แบบนี้ เท่สุดๆเลยทีเดียวครับ
โดยตัวฝาหน้าเคสนั้นสามารถถอดออกมาได้เลยโดยการถอดนั้นเพียงแค่ยกเท่านั้นครับก็หลุดออกมาแล้ว
โดยจะเห็นว่าตัวเคสรุ่นนี้ได้มีการติดตั้งฉนวนเก็บเสียงเข้ามาเพิ่มเติมทำให้เคสตัวนี้สามารถเก็บเสียงพัดลมและเสียงการทำงานต่างๆภายในตัวเคสเงียบลงอีกด้วยครับ
โดยฝานี้ก็ไม่ได้ทำให้เคสนั้นร้อนจนเกินไปเพราะว่าได้มีการเจาะรูเพื่อให้อากาศเข้าได้จากทางด้านล่างนั้นเองครับ
มาดูด้านบนของตัวเคสนี้กันต่อเลยดีกว่าโดยตัวเคสนี้ได้มีการต่อเติมหลังคาขึ้นมา เพื่อให้สามารถติดตั้งชุดน้ำหรือตัวหม้อน้ำได้นั้นเองครับ
โดยถ้าตัว Fronpanal นั้นรุ่นนี้จะมีการอัพเกรตขึ้นมามีช่องเสียบ USB 3.0 Type-c และก็สวิตช์ควบคุมไฟพร้อมทั้งปรับรอบพัดลมนั้นเองครับ
กลับมาดูกันที่หลังคากันต่อ โดยตัวหลังคานั้นจะสามารถถอดแผ่นปิดออกไปได้เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศเพิ่มขึ้น หรือจะพูดง่ายๆว่า สามารถเลือกให้เคสตัวนี้เน้นเก็บเสียงหรือเน้นความเย็นก็สามารถทำได้ทั้ง 2 แบบนั้นเองครับ
โดยถ้ายกตัวตะแกรงออกมาแล้วเราจะเห็นว่าเคสตัวนี้มีชุด KIT อีกหนึ่งอย่างมาให้เพื่อให้รองรับการติดตั้งพัดลมหรือชุดหม้อน้ำได้นั้นเองครับ โดยสามารถติดหม้อน้ำได้ทั้ง 12 และ 14 ซ.ม. เลยทีเดียวงานนี้เคสตัวเดียวให้ครบเซต
เปิดฝาข้างออกมาดูภายในกันเลยดีกว่าครับ โดยภายในนั้นเรียกว่ากว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียวและครับ
การติดตัั้ง HDD ต่างๆนั้นก็สามารถถอดออกได้เช่นเคยและสามารถย้ายขึ้นบนหรือลงล่างได้ทั้งหมดเพราะว่าบางคนไม่ได้ใช้งานไดรฟ์ DVD หรือไม่ได้ติดตั้ง HDD เยอะแต่ต้องการติดตั้งหม้อน้ำก็สามารถถอดย้ายออกไปได้ทั้งหมด
หรือใครอยากแอบไปเลยก็เอามาไว้ทางด้านล่างในส่วนของชั้นพาเวอร์ซัพพลาย
จากภาพแรกที่เปิดฝาเคสไม่รู้จะมีใครตาดีหรือเปล่าเพราะตัวเคสนี้ได้มีการแถมไฟ LED มาให้ด้วย 1 แท่ง และยังสามารถซื้อมาติดตั้งเพิ่มเติมก็ทำได้ครับ โดยตัวแถบไฟอันนี้จะมาในรูปแบบของแม่เหล็กสามารถติดตั้งส่วนไหนก็ได้ภายในเคสโดยไม่ต้องใช้เทปกาวเพราะมันเป็นแม่เหล็กสามารถติดตั้งได้ทันที
มาดูทางด้านหลังของตัวเคสนี้กันเลยดีกว่าครับ โดยต้องบอกว่าโดยรวมจะเหมือนกับตัว case 5 ทั้งหมด แต่ตัวเคสนี้ได้มีการเพิ่มกล่องคอลโทรของตัวพัดลมและไฟ LED โดยพัดลมไหนอยากควบคุมนั้นก็ให้นำสายมาเสียบที่กล่องตัวนี้
มาดูตัวกล่องกันชัดๆดีกว่าครับโดยตัวกล่องนี้จะมีฝาครอบใสๆเอาไว้ปิดช่องเชื่อมต่อเอาไว้ทั้งหมดเผื่อเวลาเราปิดฝาเคสแล้วจะได้ไม่ช๊อตนั้นเองครับ
เปิดฝาออกมาดูจะเห็นว่าตัวแผงนี้จะมีชุดภาคจ่ายไฟพร้อมทั้งช่องต่อสาย Sata Power เอาไว้เพื่อให้สามารถมีไฟไปเลี้ยงพัดลมและไฟ LED ได้นั้นเองครับ โดยจะรองรับพัดลมทั้งหมด 6 ตัวด้วยกันพร้อมทั้งไฟ LED ทั้งหมด 4 อัน
การเก็บสายไฟนั้นจะมีรองเอาไว้เดินสายไฟพร้อมที่รัดสายเพื่อให้เก็บเรียบร้อยเป็นระเบียบ
ทางด้านหลังของตัวเคสนั้นจะเห็นว่าตัวเคสได้มีการเจาะรูระบายความร้อนเอาไว้ทั้งหมด โดยทางด้านหลังนั้นจะใส่พัดลมได้ทั้ง 12 และ 14 ซ.ม แต่ที่มีความแปลกใหม่นั้นก็คือตัวช่องยึดพัเลมนั้นจะสามารถเลือนขึ้นลงได้ ทำให้สามารถปรับระดับใช้งานได้อย่างง่ายดายครับ
สำหรับการติดตั้งตัวพาเวอร์ซัพพลายนั้นก็สามารถติดตั้งได้ทางด้านหลังของตัวเคสโดยเราสามารถถอดตัวยึดออกจากเคสได้
โดยเราถอดออกมายึดกับตัวพาเวอร์ให้เรียบร้อยก่อนและทำการเสียบกลับเข้าไปยังตัวเคสเรียกว่าสะดวกสบายเวลาติดตั้งและในอนาคตนั้นถ้าพาเวอร์ซัพพลายที่เราติดตั้งไปยาวเกินเราสามารถขยับออกมาทางด้านหลังตัวเคสได้อีกด้วยครับ
ด้านล่างจะมีแผ่นกันฝุ่นติดมาให้เรียบร้อยดึงออกมาทำความสะอาดได้ง่ายๆ
ก็จบกันไปแล้วสำหรับการพรีวิวตัวเคส Cooler Master MasterCase Maker 5 หลังจากที่ทางผมเคยได้รีวิวเจ้าเคส CoolerMaster Master Case 5 ถ้าจะให้พูดกันตรงๆมันคือ body เดียวกันต่างกันตรง Part ชิ้นส่วนภายนอกเท่านั้นเปรียบเหมือนกับการที่เราซื้อรถยนต์แล้วมาเปลียนกันชนหรือชิ้นส่วนต่างๆของตัวรถหรือตัวเคสทำให้หน้าตาเปลียนไปมีการเสริมหรือเล่นออฟชั่นได้อย่างต่อเนื่องครับ ก็ถือว่าเป็นเคสที่เล่นแล้วไม่รู้จบเลยทีเดียวและครับสามารถนำไป Mod เคสต่อยอดได้เรื่อยๆไม่รู้จบ อย่างในการติดตั้งรอบนี้ทางผมได้ลองประกอบการ์ดจอทั้งหมด 2 ตัว ก็ทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีไม่ดูอึดอัดแต่อย่างใด สายไฟนั้นสามารถจัดเก็บได้สวยงามไม่จำเป็นต้องใช้งานสายถักอะไรมากมายเลยครับ สำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวลาไปแต่เพียงเท่านี้ไว้พบกันใหม่ สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.