รีวิว HUAWEI FreeBuds 4 หูฟังแบบ TWS คุณภาพเสียงดี และมีระบบตัดเสียงรบกวน Noise Cancellation 2.0

HUAWEI FreeBuds 4 หูฟังแบบ TWS รุ่นใหม่ของทางค่าย โดยชูจุดเด่นเรื่องการตัดเสียงรบกวนแบบใหม่ Open-Fit Active Noise Cancellation 2.0 พร้อมกับเทคโนโลยี Adaptive Ear-Matching ช่วยตัดเสียงรบกวนแบบใหม่และช่วยให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง(hi-res audio) ตัวหูฟังดีไซน์ใหม่ เพื่อปรับแรงดันของอากาศขณะสวมใส่ ช่วยให้การสวมใส่สบายขึ้น มีน้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม ต่อข้าง และตัวหุฟังรองรับการแท็บสั่งงานอีกด้วย คุณสมบัติคร่าวๆถือว่าน่าสนใจมากครับ เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลย

SPEC HUAWEI FreeBuds 4

ขนาดไดรเวอร์ 14.3 มม.
ตอบสนองความถี่สูงถึง 40kHz
ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Open-Fit Active Noise Cancellation 2.0
ไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว
ชิพ Kirin A1
เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2
มาตราฐานกันน้ำ IPX4
แบตเตอรี่ หูฟัง 30 mAh(ต่อข้าง) / เคส 410 mAh

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

ชุดหูฟังพร้อมเคสชาร์จ
สาย USB-C
คู่มือเริ่มต้นการใช้งาน และบัตรรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

ตัวเคสชาร์จออกแบบมาทรงกลมแต่เน้นความบางเบา โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 58 มม. และความหนาที่ 21.2 มม. มีน้ำหนักเพียง 38 กรัม แบตเตอรี่ภายในจะอยู่ที่ 410 mAh วัสดุเป็นพลาสติกเคลือบผิวออกด้านด้านดูสวยงามดีครับ ด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะมาให้

พอร์ตการชาร์จจะเป็น USB-C รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้ 2.5 ชั่วโมง

ด้านข้างจะมีปุ่มสำหรับการเชื่อมต่อ

ฝาพับมีความแข็งแรงดี

ชุดหูฟังถูกออกแบบดีไซน์ใหม่ ดีไซน์แบบ Open-Fit จะช่วยปรับแรงดันอากาศให้สมดุลขณะสวมใส่ และมาพร้อมกับเทคโนโลยี Adaptive Ear-Matching เพื่อตรวจจับโครงสร้างของรูหูของแต่ละคนและการสวมใส่ ช่วยให้การตัดเสียงมีคุณสมบัติดีขึ้น

ที่ตัวหูฟังจะมีไมค์มาให้มากถึง 3 ตัวต่อข้าง เพื่อการรับเสียงและตัดสัญญาณรบกวนรอบข้าง

ขนาดโดยประมาณ สูง: 41.4 มม. กว้าง: 16.8 มม. หนา: 18.5 มม. น้ำหนัก 4.1 ก. ที่ตัวหูฟังแต่ละข้างจะมีแบตเตอรี่ขนาด 30 mAh ตัวหูฟังมีระบบกันละอองน้ำ กันฝั่น มาตราฐาน IPX4 สามารถสวมใส่ขณะออกกำลังกายได้ครับ ไม่ต้องกังวลขณะเหงื่อออก

ที่ก้านหูฟัง รองรับการสั่งงานด้วยการสัมผัสด้านข้าง

สำหรับการเชื่อมต่อ จะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 ช่วยให้การรับส่งสัญญาณเสถียรขึ้น ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไป จะมีหน้าต่าง Pop-up แสดงข้อมูลของแบตเตอรี่ให้เมื่อเปิดเคสพร้อมใช้งาน

สำหรับใช้งานกับการเล่นเกม(Low Latency Gaming Mode) ถ้าเชื่อมต่อผ่านระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ค่าความหน่วงของเสียงอยู่ที่ 90 ms ส่วนการเชื่อมต่อผ่านทั่วไปจะอยู่ที่ 150 ms

เพื่อใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life เข้ามาติดตั้งบนสมาร์ทโฟนก่อนนะครับ รองรับทั้งแอนดรอยส์และ iOS เพื่อการปรับตั้งค่าได้อย่างละเอียด

เมื่อเชื่อมต่อเสร็จและเข้าไปใน HUAWEI AI Life จะสามารถเข้าไปดูข้อมูลของแบตเตอรี่ทั้งเคสและตัวหูฟัง ปรับเปิดและปิดระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ / ปรับความคมชัดของเสียงขณะคุยสาย / ปรับเปิด-ปิด การทัชสั่งงานบนหูฟัง และ การปรับ EQ ของเสียง

จุดเด่นของ HUAWEI FreeBuds 4 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อมกันได้ทั้งหมด 2 ตัว (แต่ใช้คุยจะใช้งานของไมค์แค่ข้างเดียวนะครับ จับสัญญาณข้างที่ถูกเชื่อมต่อก่อน)

คุณภาพเสียง

HUAWEI FreeBuds 4 มาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาด 14.3 มม. ไดอะแฟรมที่มีส่วนประกอบของพอลิเมอร์ผลึกเหลว (LCP) รองรับการตอบสนองต่อย่านความถี่สูงสุดถึง 40 kHz รองรับไฟล์ Hi-Res

รูปแบบและรสนิยมในการรับฟังจะแตกต่างกันออกไป จุดนี้ผมขอเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับสำหรับเรื่องคุณภาพของเสียงจากที่สดสอบมา เสียงกลางคมชัดดีครับ เบสปานกลางอาจจะไม่ตึ๊บเท่าพวกตระกูลอินเอียร์ ถ้าสายฟังเพลงจะถูกใจมากสำหรับเพลงแนว pop เมื่อนำมาฟังขณะรับชมภาพยนต์และดูยูทูป การรับสัญญาณของเสียงถือว่าดีมากๆ แทบจะไม่มีขาดช่วงของสัญญาณเสียง

แบตเตอรี่

ระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ สำหรับการชาร์จหนึ่งครั้ง 100% เปิดดูหนังได้ยาวๆถึง 2 เรื่องครับ สามชั่วโมงกว่าๆสบายๆจากที่ทดสอบมาเองนะครับ(ปิดโหมดตัดเสียงรบกวนรอบข้าง)

สรุป

HUAWEI FreeBuds 4 ให้คุณสมบัติมาถือว่าครบถ้วน ทั้งระบบตัดเสียงรบกวน และมีไมค์มาให้มากถึงสามตัวต่อข้าง สามารถพูดคุยสนทนาชัดเจน ตัวเคสหูฟังมีความบางและเบาพกพาง่ายไม่เป็นภาระสำหรับการพกออกไปใช้งานข้างนอก ถ้าใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานถึง 14 ชม.(เปิดระบบตัดเสียงรบกวน) ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานของหนึ่งวันได้สบายๆครับ

น่าจะเหมาะกับกลุ่มที่ไม่ชอบหูฟังแบบ in-ear เน้นการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เน้นการสวมใส่สบายเป็นหลัก

HUAWEI FreeBuds 4 พิเศษราคา 4,499บาท(จากราคาปกติ 5,999 บาท) มีให้เลือกทั้งสีเงินSilver Frost และสีขาว Ceramic White พร้อมรับฟรีบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือนรวมมูลค่า 387 บาท