Review: Intel Core i5 6600K skylake 1151 จะแรงขนาดไหนต้องชม

กราบสวัสดีครับทุกๆท่าน สำหรับวันนี้นั้นก็เป็นวันเปิดตัว cpu รุ่นใหม่จากทาง Intel กันแล้วนะครับ สำหรับ Gen นี้นั้นจะเป็นของทางส่วน Skylakeโดยจุดหลักๆเลยที่เปลียนแปลงไปนั้นก็คือการย้ายชุดภาคจ่ายไฟของตัว cpu นั้นกลับออกมาอยู่ที่เมนบอร์ดเช่นเดิมและได้ทำการเปลียนแปลงมาใช้หน่วยความจำหรือ Ram ที่เป็น DDR 4 แล้วนั้นเองครับ สำหรับความแรงนั้นหลายๆคนอาจจะได้ดูข่าวที่หลุดๆไปก่อนหน้าแล้วว่ามันมีความแรงเพิ่มขึ้นมาจากตัวก่อนหน้าหรือ gen 4 1150 อยู่ที่ประมาณ 10-20% ด้วยกันสำหรับวันนี้ก็ต้องรอติดตามชมกันให้ดีว่าความแรงของมันนั้นจะได้ขนาดไหน ไปชมรายละเอียดต่างๆกันก่อนเลยดีกว่าครับ

สำหรับ cpu ที่ผมได้มานั้นจะเป็นตัว Confidential หรือตัวทดสอบนั้นเองนะครับไม่ใช่ตัวขายจริงโดยรุ่นที่ได้มาก็คือ Intel i5 6600k ครับ จุดที่เปลียนไปนั้นก็คงจะเป็น นำภาคจ่ายไฟในตัว cpu ออกมาไว้ที่เมนบอร์ดและตรงขาพิน cpu นั้นมีแปลกๆทางด้านบนและล่าง ซ้ายขวา ตรงจุดนี้ทางผมนั้นก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีอะไรพิเสษหรือเปล่านะครับ

Intel 95W “Enthusiast” Skylake-S Processors (Core i7-6700K / Core i5-6600K)

สำหรับ 2 รุ่นแรกนั้นจะเป็นรุ่นใหญ่สุดของรุ่น Skylake ตัว Top นั้นเองครับ ความพิเศษของมันก็คือมีตัว K ต่อท้ายนั้นคือการที่ตัว CPU ไมได้ล๊อกตัวคูณเอาไว้สามารถ Overclock ได้อย่างไรขีดจำกัดนั้นเองครับโดยตัว Intel I7 6700K นั้น จุดเด่นนั้นจะมี cache  8 MB ของตัว L3  ถือว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นอย่างมากนั้นเองครับ โดยความเร็วนั้นจะมีความเร็วที่ 4.0 GHz และมีการเร่งสปีดขึ้นไปถึง 4.2 GHz ด้วยกันรองรับแรม DDR 4 2133 MHz และ DDR 3 L

อีกรุ่นหนึ่งนั้นจะเป็นตัว i5 6600K นั้น cache  6 MB ของตัว L3 และสัญญานนาฬิกานั้นจะอยู่ที่ 3.5 GHz และมีการ Boost ไปได้ถึง 3.9 Ghz นั้นเองครับ
Intel 65W “Mainstream” Skylake-S Processors (Core i7 / Core i5)

อีกรุ่นหนึ่งนั้นจะอยู่ในส่วนของทั่วไปนั้น ข้อแตกต่างจะอยู่ที่ในส่วนของเรื่องการ Overlclock นั้นจะโดนตัดออกไปเพราะว่าไม่สามารถเพิ่มหรือปรับตัวคูณได้นั้นเองแต่แน่นอนว่ามันเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วๆไปครับเพราะราคานั้นจะถูกกว่าตัวที่มี K นั้นเองและเรื่องการกินไฟนั้นจะประหยัดไฟกว่ามากอยู่พอสมควรครับ สำหรับการใช้ไฟนั้นจะอยู่ที่ 65 W นั้นเองครับ

Intel 35W “Low TDP” Skylake-S Processors (Core i7 / Core i5)

สำหรับในส่วนของรุ่นประหยัดพลังงานหรือเราจะดูได้ง่ายๆว่ามันเป็นตัวกินไฟต่ำนั้นก็ดูส่วนตัวท้ายครับ โดยจะมีตัว T ต่อเอาไว้อยู่ครับ โดยหลักๆนั้นจะเป็นรุ่น i7 6700T รุ่นนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่

ต้องการใช้งานประสิทธิภาพที่สูงโดยรองลงมานั้นจะมีอีก 3 ตัวก็คือ i5-6600T i5-6500T Core i5-6400 โดยความเร็วนั้นจะอยู่ที่ช่วงประมาณ 2.8-3.6 GHz ด้วยกันก็ถือว่าเยอะอยู่พอ

สมควรเลยทีเดียวครับ

ขอบคุณภาพจาก  PCOnline

สำหรับตารางการออกขายหรือ Road map นั้นก็อย่างที่ได้ว่างไปในตอนแรกเลยนั้นเองครับ โดยได้มาวางขายในช่วงปี 2015 ถึงแม้ว่าจะไปเลื่อนเดือนไปนิดๆหน่อยๆนั้นเองครับ

สำหรับรุ่นและรายละเอียดต่างๆนั้นจะมีมาในตอนแรกทั้งหมดนี้ และในอนาคตจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ

• Intel Core i7-6700K
• Intel Core i5-6600K
• Intel Core i7-6700
• Intel Core i5-6600
• Intel Core i5-6500
• Intel Core i5-6400
• Intel Core i7-6700T
• Intel Core i5-6600T
• Intel Core i5-6500T
• Intel Core i5-6400T

สำหรับการทดสอบนั้นผมจะเซตค่าเอาไว้เป็นค่าเดิมๆทั้งหมดนะครับ แรมจะวิ่ง 2133 ต่ำสุดของ ddr4 เพื่อดูความแรงแบบเดิมๆ

 สำหรับความร้อนนั้นผมขอทำการ Overclock เพิ่มขึ้นไปที่ 4.5 GHz ด้วยกันและได้เพิ่มไฟเลี้ยงไปเกือบถึง 1.4 แต่ความร้อนนั้นอยู่เพียง 70 องศาเท่านั้นถือว่าครั้งนี้ทำการบ้านเรื่องความร้อนอกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ

Overclock Max GHz

http://valid.canardpc.com/q4r0e9

สำหรับความแรงของเจ้า cpu Skylake นั้นก็ต้องบอกว่ามันก็มีความแรงเพิ่มขึ้นจาก gen ก่อนหน้าขึ้นมา 10-20 % ตามผลการทดสอบที่เคยหลุดๆมานั้นเองครับ ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งใหม่ที่เข้ามาโดยทางผมเห็นว่าการที่ได้ใช้งานเป็น RAM DDR 4 นั้นมันก็ช่วยส่งผลการทำงานได้ดียิ่งขึ้นลดปัญหาการส่งข้อมูลไม่ทันทำให้หายคอขวดลงไปบ้างนั้นเอง แต่สำหรับใครที่ใช้งาน 1155 หรือ 1150 นั้นแล้วไม่ได้อยากเป็นถึงที่สุดนั้นก็สามารถใช้งานไปต่อได้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลียนแต่อย่างใดครับ แต่ถ้าใครอยากแรงและเป็นที่สุดนั้นผมแนะนำเลยว่า i5 6600 k นั้นดูเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดแล้วสำหรับการซื้อมาเล่นเกมส์เพราะ i7 นั้นมันแทบไม่ได้แตกต่างแต่อย่างใดเลยในการเล่นเกมส์ สำหรับราคาในการขายนั้นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10000 บาทด้วยกันครับ สำหรับวันนี้ทางผมนั้นก็คงต้องขอตัวลาไปก่อนสวัสดีครับ