Review:LINKSYS EA8300 MAX-STREAM AC2200 TRI-BAND WI-FI ROUTER
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว ExtremePC ช่วงนี้ต้องบอกว่ามีอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบเครือข่ายมามากจริงๆครับ ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตในบ้านเรานั้นต้องการความแรงความเร็วมากยิ่งขึ้นและต้องสเถียนด้วยถึงจะใช้งานได้อย่างราบลื่นถูกต้องมั้ยครับ ดังนั้นอุปกรณ์ที่ตั้งอยู่ภายในบ้านเราอย่างตัว Router นั้นก็มีความจำเป็นหรือมีสเปคที่เราต้องเลือกใช้งานเช่นกันครับ การที่เราใช้งาน Router ที่ทางเครือข่ายแถมมาให้นั้นก็แค่ถามมาให้ใช้งานได้ไม่ได้หมายว่าใช้ดี นะครับ โดยหลายๆท่ายน่าจะเคยอ่านเจอเกี่ยวกับการต่อบริจโหมด นั้นก็คือหา Router ตัวอื่นมาทำหน้าที่ประมวลผลและใช้งาน Router ของเครือข่ายเผื่อแแค่แปลงสัญญานเท่านั้นครับ สำหรับวันนี้ทางผมก็มีตัวเทพอีกหนึ่งตัวจากทาง LINKSYS แบร์ดดังในไทยที่เรียกว่าสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานเลยทีเดียวครับ สำหรับ LINKSYS นี้ รอบนี้จะเป็นตัว AC 2200 ความเร็วเรียกว่าระดับบนๆ ของตอนนี้ได้เลย ไม่นับพวก AC 5300 นะครับ สำหรับเร้าเตอร์ตัวนี้เน้นหนักไปในการถ่ายโอนข้อมูลใหญ่ๆได้อย่างสบายๆไม่ว่าจะเป็น MAX-STREAM หรือการเชื่อมต่อ MU-MIMO TRI-BAND ก็มีมาครบถือว่าเป็น Router ที่ออกแบบมาพร้อมฟีคเจอร์ใหม่ๆใส่มาให้เต็มๆเลยทีเดียวครับ
สำหรับตัวกล่องนั้นจะเป็นสีขาวฟ้าครับ Router รุ่นนี้จะเป็นเทคโนโลยี่แบบ TRI-BAND เลยทีเดียวความเร็วในการรับส่งข้อมูลมากถึง 2.2 Gbps เลยทีเดียวครับ โดยการรับประกันนั้นทางด้านหน้ากล่องมีแปะเอาไว้ชัดเจนคือ 3 ปี ก็ถือว่านานพอสมควรเลย เรื่องของการสตีมหนังหรือถ่ายโอนข้อมูลภายในบ้านนั้นหถ้าเป็นหนังระดับ 4K ก็สามารถดูได้อย่างลื่นไหลสบายๆครับ หรือการเชื่อมต่อแบบ MU-MIMO นั้นก็ทำได้มีมาพร้อม
ทางด้านหลังของตัวกล่องนั้นก็มีบอกเอาไว้ว่าคลื่นสัญญานแต่ละชุดน้ั้นเหมาะเอาไว้สำหรับเชื่อมต่ออะไรครับ โดย BAND 1 นั้นจะเป็นงานเบาๆอย่างเช่นการส่งข้อมูลเล็กน้ยหรือ Email ครับ โดยรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เก่าเช่น N หรือ G ความเร็วสูงสุดที่ 400 Mbps
BAND 2 จะเน้นไปในส่วนของการโอนไฟล์ หรือการส่งข้อมูลเกี่ยวกับวีดีโอครับ ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 867 Mbps
BAND 3 นั้นจะเน้นไปในเรื่องของการใช้งานหนักๆอย่าง ดูหนัง 4K และการเล่นเกมส์จะได้ความสเถียนมากกว่าครับ
สำหรับอุปกรร์ภายในกล่องนั้นจะมีคู่มือการใช้งานพร้อมทั้งชุดอแดปเตอร์แปลงไฟเพื่อจ่ายกระแสไฟไปยังตัวเราเตอร์ พร้อมกับสาย Lan แบบ CAT5e และแผ่น ไดรเวอร์โปรแกรม
สำหรับตัว Router นั้นจะมีสีดำสนิททั้งตัวครับ โดยเสาอากาศนั้นจะมีทั้งหมด 4 เต้นด้วยกันและไม่สามารถถอดเปลียนได้ ส่วนนี้อาจจะเป็นข้อเสียเล็กๆเลยของ เจ้า EA8300 เพราะหลายๆคนอยากทำการอัพเกรตเสาสัญญานไหนมันรับส่งได้ไกลมากขึ้ยแต่ไม่สามารถทำได้ครับ
สำหรับการเชื่อมต่อนั้นจะมีช่อง WAN หรือช่อง Internet สีเหลือ 1 ช่อง ช่องนี้ให้นำสายสัญญานมาเชื่อมต่อเข้าไป จำทำให้มันประมวลผลแทนตัวหลัก โดยเราต้องเซตให้เป็น บริจโหมดก่อนไม่งั้นมันจะหลายเป็นแค่ AP เท่านั้นครับ และช่อง Lan อีก 4 ช่องนั้นเอาไว้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เราต้องการใช้งาน โดยEA8300 นี้เขาได้ทำสวิตช์ปิดเปิดเอาไว้ด้วย และปุ่มรีเซตสีแดงๆค่อนข้างกดง่ายนิดหนึ่งไม่จำเป็นต้องเอาอะไรไปจิ้มแต่อย่างใดครับ สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลนั้นก็จะมีช่อง USB 3.0 มาให้หนึ่งช่องด้วยกัน
สำหรับทางด้านหลังนั้นจะมีสเปคบอกรายละเอียดของตัวเร้าเตอร์เอาไว้ครับ โดยรหัสผ่านของ Wi-Fi นั้นถ้าใครซื้อมาเซตใช้งานไม่เป็นเสียบเป็นอย่างเดียวก็สามารถใช้งานได้เลยทันทีเช่นกันโดยจะมีรหัสผ่านอยู่ทางด้านล่างใต้ตัวเครื่องครับบอกว่ารหัส Wi-Fi คืออะไรแต่ตรงนี้เราสามารถเปลียนได้ตามปกติ
ตัว WPS นั้นมีมาให้เช่นเดิมเอาไว้สำหรับเชื่อมต่อแบบรวดเร็วเพียงแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้น
สำหรับทางด้านบนที่เราเห็นสีดำๆนั้นจริงๆมันมีสัญลักษณ์ซ่อนเอาไว้อยู่ครับ ตรงนี้ผมแกะออกมาแล้วเอาไฟฉายส่องสำรวจดูว่ามีอะไรบ้างโดยจะมีแจ้งบอกว่า เชื่อมต่อสาย Lan ต่อออกอินเตอร์เน็ตและสุดท้ายไฟ WPS ครับ ส่วน โลโก้ LINKSYS นั้นก็ทำออกมาโปร่งแสงเวลาใช้งานก็จะมีแสงไฟส่องสว่างสวยงาม
ไม่พลาดที่จะลองแกะดูภายในครับ โดยภายในนั้นจะไม่มีพัดลมระบายความร้อนแต่อย่างใด โดยส่วนตัวผมนั้นรู้สึกว่ารุ่นใหม่ๆจะไม่มีพัดลมแล้วเนื่องจากมันไม่ได้ร้อนมากแบบแต่ก่อน โดยข้างในจะมีฮิตซิงค์ทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัครับ เอาไว้ดึงความร้อนของตัว CPU เสียดายตัวเล็กไปหน่อยแต่มันก็สามารถระบายความร้อนได้ไหวสบายๆ
SETUP
สำหรับการใช้งานนั้นถ้าใครซื้อมาแค่จะทำให้ส่งสัญญานไกลขึ้นหรือเซตไม่เป็นก็เสียบสายเข้าช่องเหลือแล้วใช้งานได้เลย รหัสจะอยู่ข้างใต้ Router ครับแต่ถ้าใครเซตเป็นนั้นก็ให้เข้าไปที่ 192.168.1.1 User และรหัสก็ เป็น admin ครับ พอเข้ามาแล้สเราจะพบกับฟังค์ชันมากมาย ทั้งในเรื่องของการจัดการสัญญานและรับบต่างๆหรือสามารถดูได้ด้วยว่าอุปกรณ์ตัวไหนเชื่อมต่อกับเราเตอร์เราอยู่บ้างนั้นเองครับ
สำหรับการจัดการควบคุมเข้าใช้งานอย่างเพื่อนมาบ้านไม่อยากให้รหัสหลักก็สามารถทำได้เช่นครับครับหรือถ้าในบ้านใครมีเด็กอยากจะจำกัดเวลาเล่นก็สามารถเซตได้เช่นกัน โดยเราสามารถตั้งได้ถึงขั้นให้เด็กหรืออุปกรณ์ชิ้่นนั้นๆเล่นเน็ตได้ตอนช่วงเวลาไหนบ้างนั้นเองครับ
หรือถ้าเรามีคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องแล้ว เครื่องหลักที่เราต้องการความแรงของอินเตอร์เน็ตเราก็สามารถเซตได้อีกครับว่าเครื่องนี้ต้องแรงสุดอะไรประมาณนี้
สำหรับการเชื่อมต่อต่างๆนั้นอะไรก็มีมาครบ แม้กระทั้งการจัดการกับอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลครับ ถือว่าเป็น Router ที่สามารถจัดการได้ทุกอย่างเลยทีเดียวครับ เรื่องของการใช้งานจริงนั้นเดียวเราไปดูกันเลยว่า มันสเถียนประมาณไหน โดยผมจะทดสอบเป็นการใช้งานจริง และจะเน้นไปเรื่องของการส่งกำลัง Wi-Fi เป็นหลัก โดยทดสอบกับ Router ตัวเทพของทาง ASUS ที่ผมใช้งานอยู่ทุกวันเช่นเดิมทุกการทดสอบนะครับ โดยผมจะเทสใหม่ไม่นำผลเทสเก่า เนืื่องจากบางช่วงเวลาอินเตอร์เน็ตไม่เท่ากันครับ
การทดสอบเช่นเดิม วางไว้ที่จุดเดียวกัน
5 เมตร กำแพง 1 ชั้น
15 เมตร กำแพง 3 ชั้น
LINKSYS EA8300 MAX-STREAM AC2200
ASUS ROG Rapture GT-AC5300
ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบ พูดก่อนนะครับว่าถ้าเกิดเทียบกับ Router ของที่ทาง True แถมให้ผมนั้นอย่าไปเทียบเลยเพราะมันคนละเรื่องครับ โดยหลังจากทดสอบไปนั้นเรื่องของการส่งกำลัง Wi-Fi นั้นต้องบอกว่า ได้ดีเลยทีเดียวครับ โดยสามารถกระจายสัญญานได้ทั่วบ้านของผม แม้แต่ไปยื่นเกือบสุดหน้าบ้านก็ยังสามารถพอเล่นได้ครับ ถ้าดูจากการเทสทดสอบของผม อย่าไปดูตัวเปรียบเทียบกับเจ้า ASUS นะครับเพราะราคาก็ต่างกันเกินเท่าตัวแล้ว (ราคา ASUS อยู่ที่ 18900 บาท) ถ้าดูความสามารถตัวเดียวก็ถือว่ากินขาดครับ 4 เสาส่งสัญญานได้ขนาดนี้ถือว่าใช้ได้เลยครับเรื่องของการรองรับหลายๆอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi นั้นต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีสุดๆน่าจะเพราะมีระบบ MI-MO ที่ทำให้มันสามารถประมวลผลอุปกรณ์พร้อมกันได้ทั้งหมด 3 อุปกรณ์เลยทีเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าใช้งานได้ 3 อุปกรณ์พร้อมกันนะครับเพราะถ้าเกินนัี้ก็จะไปสลับใช้งานอีกโหมดหนึ่งครับ อีกเรื่องหนึ่งที่จะพูดถึงก็คือเป็นในส่วนของการใช้งานแบบง่ายๆสำหรับคนเซตไม่เป็นครับ คือถ้าใครใช้งานหรือเอาไปต่อแค่เสียบสายจาก Router เดิมเชื่อมต่อไปที่ช่องสีเหลือ ก็สามารถใช้งานได้ทันทีโดยรหัสผ่านนั้นจะอยู่ข้างใต้ตว Router ถือว่าทำจุดนี้ออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.