ขอกราบสวัสดีพี่น้องชาว Extreme PC ทุกๆท่าน อีกเช่นเคย วันนี้ผมก็มี Mechanical Gaming Keyboard ที่น่าสนใจมารีวิวให้ทุก ๆ ท่านได้รับชมกันอีกเช่นเคย โดยเจ้าคีย์บอร์ดที่ผมจะนำมารีวิววันนี้ เป็นคีย์บอร์ดที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับท็อป ๆ เลยก็ว่าได้สวยเเหวกเเนวไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร เรียบง่ายไม่เลอะเทอะ เเละต้องการความพรีเมี่ยมของคุณภาพสินค้าไม่ว่าจะงานประกอบต่าง ๆ รวมถึงวัสดุที่ใช้ ซึ่งที่ผมได้กล่าวมาก็คือเจ้า Mionix Wei นั้นเอง แบรนด์ Mionix ก็เป็นแบรนด์ที่เขาได้ทำ Gaming gear มาสักพักเเล้ว มีความถนัดในการทำสินค้า Gaming gear ที่ไม่เหมือนใครเน้นคุณภาพเเละการออกแบบดีไซด์โทนสีที่ไม่เหมือนใครอยู่เเล้วเรื่องคุณภาพก็อยู่ในระดับที่สูงมาก ๆ อยุ่เเล้วโดย Mionix นั้นก็ออก Keyboard มาเพียงรุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น ณ ปัจจุบัน เพราะเขาไม่ได้ทำการเเตกรุ่นย่อยเยอะ ๆ เน้นจับกลุ่มตลาดเฉพาะเป็นพิเศษ วันนี้ผมก็จะนำเจ้า Mionix Wei มาเเกะกล่องเเละรีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกัน เชิญไปรับชมกันได้เลยครับ
สำหรับด้านหน้ากล่องจะมีการ Preview รูปสินค้าไว้ชัดเจน พร้อมกับ สโลเเกนเขาคือ For Gamers And Artists คือไม่ได้เหมาะกับเเค่เกมเมอร์ ยังเหมาะกับคนที่ชื่นชอบศิลปะความสวยงามที่ไม่เหมือนใครด้วยการออกเเบบที่เป็นเอกลักษณ์เเละดีไซด์ต่าง ๆ ของตัวสินค้า Mionix ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของเขา โดยมาในชื่อรุ่นว่า Wei นั้นเอง
ส่วนของด้านล่างตัวกล่อง
ด้านข้างกล่องก็จะบอกจุดเด่นเเละฟังชั่นต่าง ๆ ของเจ้า Mionix Wei ไว้เป็น Keywords
ด้านหลังกล่องก็จะฟรีวิวรูปสินค้าขณะใช้งาน ซึ่งตัวที่ผมนำมารีวิวนั้นจะเป็นแป้นพิมแบบ US Layout โดนเจ้า Mionix นั้นได้เลือกใช้ Switch คุณภาพอย่าง Cherry MX Red Sw อีกด้วย
เมื่อเปิดกล่องมาก็จะพบเจอกับแผ่นโฟมกันกระเเทกอย่างดี
คำคมของเขาเยอะจริง ๆ เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ดี กล่องเเพ็คเกจก็น่ารักหวานเเหววดีเหมือนกัน
เมื่อนำแผ่นโฟมกันกระแทกออกก็จะพบเจอกับเจ้า Mionix Wei สุดงามของเรานั้นเอง
สำหรับ Mionix Wei ก็จะมากับสายไฟที่ติดมากับตัว Keyboard เลย
ข้างในกล่องก็จะมีคู่มือการใช้งานมาให้
และยังมีสติกเกอร์ Mionix เเถมมาใช้ใช้เก๋ ๆ ด้วยอีกสองชิ้นจะนำไปติด Notebook หรือ แปะอะไรก็ได้ตามใจชอบ
สายไฟของคีย์บอร์ดจะเป็นสายไฟเส้นใหญ่หุ้มด้วย PVC อย่างดีมีการทำสายขดเป็นเกลียวให้ยืดระยะสายไฟได้สะดวก ทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานเวลาต้องการขยับหรือเคลื่อนย้ายตัว Keyboard ตัวสายไฟนั้น จะติดมากะตัว Keyboard เลยไม่สามารถถอดเเยกได้
หัวการเชื่อมต่อเป็น USB Type-A 2.0 แบบปกติ จุดข้อต่อของสายต่าง ๆ จะมีการทำฉนวนแข็งหุ้มตรงจุดที่มีการหักงอบ่อย ๆ เพื่อลดการหักงอของสายไฟที่มากเกินไฟทำให้ท้องเเดงข้างในอาจจะหักด้านในได้ ลดการเกิดความเสียหายของสายไฟได้
ด้านซ้ายของตัวคีย์บอร์ดนั้นทำการแปะ LOGO Mionix มาให้ด้วยเพิ่มความสวยงาม เป็นแผ่นยางนิ่ม ๆ ที่ทำการสกรีนตัวหนังสือลงไป
สำหรับ Keyboard ตัวนี้เลือกใช้กรอบ Switch แบบใสเพื่อทำให้เเสงไฟ RGB นั้นลอดออกมาได้สว่างสดใสและสวยงามมากยิ่งขึ้น
ปุ่มจะเป็นแบบยกลอย ทำให้เรานั้นสามารถจัดการกับการทำความสะอาดได้ง่านขึ้น เมื่อมีฝุ่นลงไปในล่อง Keyboard ก็ทำการนำเเปรงปัดฝุ่นได้อย่างง่ายดาย เเถมยังได้เรื่องความสวยงามในการโชว์ไฟอีกด้วย
วัสดุแผงที่รองตัว Switch เอาไว้นั้นเลือกใช้เป็นแผ่นอลูมิเนียมขึ้นรูปอย่างดีทำให้เพิ่มความเเข็งเเรงทนทานเวลากดใช้งานหนัก ๆ รู้สึก Premium มาพร้อมกับสีเทาทำเป็นผิวด้านทำให้ไม่ติดคราบสกปรกต่าง ๆ
กรอบ Body รอบ Keyboard เลือกใช้เป็นพลาสติก ABS เเข็งอย่างดีทั้งหมด โดยโทนสีจะตัดกับแผงตรงแป้นพิมพ์นิดหน่อย กรอบพลาสติก ABS นี้ ตกไม่เเตกง่ายมีความเหนียวของเนื้อพลาสติกอยู่พอสมควรจากที่ได้ทดสอบ มีการปั้ม Logo Mionix ไว้ด้านล่างขวาเก๋ ๆ ไว้อีกด้วย
เมื่ออยู่ในที่มืด เเสงไฟนั้นสีสันสวยงามมาก ๆ เลยทีเดียวเชียว โดยโทนเเสงไฟเเละ Effect ไฟ RGB ของเขานั้นจะไม่เหมือนใครให้โทนสีหวาน ๆ ออกเเนวพาสเทลนิด ๆ เเละยังสามารถปรับ Code สีไฟ RGB 16.8 ล้านสี ได้ปกติอยากได้แบบไหนก็ปรับได้ตามใจชอบเลยจ้า Mionix เขาจะมีโทนสีหลักที่ได้เขาได้เลือกมาให้เราเลือกใช้ด้วยสะดวกมาก ๆ
ดูจากมุมไหนไม่ว่าจะ ที่มืดหรือสว่างก็สวยงามจริง ๆ ผมละอยากให้ผู้ชมมาเห็นกับตาตัวเองไฟนั้นสี สดใสสวยงามสว่างมาก โทนสีไม่เหมือนใครดี เเละ ลูกเล่นเยอะมาก ๆ อีกด้วย
Keyboard เป็นแบบ 104 KEY ตามมาตราฐานทั่วไปมี Keypad มาให้ได้ใช้งานกันเเละสายไฟไม่เหมือนใครอย่างที่บอกทำให้ใช้งานสะดวกขึ้นเยอะเวลาจะย้ายคีย์บอร์ดไม่ต้องค่อยห่วงเรื่องสายไฟ
ด้านหลังจะเป็นแผ่นยางกันลื่นได้อย่างดี ทั้งหมดแผ่นใหญ่เลยเเละมีการปั่ม Logo Mionix เอาไว้แปลกใจตรงที่ไม่มีขายกระดับตัว Keyboard อยู่เหมือนกันเเต่เข้าใจว่าเขาให้ใช้คู่กับแผ่นรองข้อมือแทนเลยตัดจุดนี้ออกไปเเต่ก็ไม่ได้มีปัญหาในการใช้งานลำบากแต่อย่างใด
เจ้า Mionix Wei นั้นก็เลือกใช้ Switch จากทาง Cherry โดยเป็น Cherry MX Red Switch นั้นเองให้สัมผัสที่นุ่มเงียบกดได้ฟิ่ลลิ่งนำหนักที่ดี ไม่ต้องใช้น้ำหนักกดมากสบายนิ้วมือเเละตอบสนองได้ดี ส่วนเรื่องความทนทานหายห่วงเนื่องจากใช้ Switch ยอดที่ยมของ Cherry อยู่เเล้วที่เครมการกดที่ 50 ล้านครั้งสบายใจได้เลยทีเดียวเรื่องความทนทาน ยังมี Muitimedia Key มาให้ได้ใช้งาน
สำหรับลูกเล่นการปรับตั้งค่าต่าง ๆ ก็สามารถปรับได้ผ่าน Software ได้อีกด้วยสะดวกสบายดี Software ก็หน้าตาโล่งดี สวยงามใช้งานง่ายไม่สับซ้อนดูเป็นมิตรดีครับ ส่วนใครไม่ชอบก็ยังสามารถปรับเเสงสีไฟหรือค่าต่าง ๆ เล็กๆน้อยๆ ได้แบบ On-the-fly บนตัว keyboard เลยครับส่วนลูกเล่นไฟหน้าตา Software การปรับต่าง ๆ ดูเพิ่มเติมได้จากคลิปที่เเนบด้านล่างบทความนี้เลยจ้า
สำหรับบทสรุปหลังจากที่ได้ลองใช้งานมาสักพักเจ้าตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบคีย์บอร์ดเเสงสีสวย ๆ แบบไม่เหมือนใครอยากได้วัสดุงานประกอบที่ดีตอบสนองการใช้งานได้ดีทุกด้านทั้งเล่นเกมหรือพิมพ์งานต่าง ๆ เเละพร้อมจ่ายเพื่อคุณภาพราคาค่าตัวของมัน ก็คุ้มกับคุณภาพของมันจริง ๆ ถึงราคาอาจจะดูสูงเเต่เมื่อเทียบกับงานประกอบ วัสดุ เเละการดีไซด์ที่ถือว่าทำมาได้ดี คิดมาเยอะมาก ๆ ซื้อไอเดียร์ดี ๆ เหมือนงานศิลปะชิ้นนึงนั้นเอง ถือว่าราคาไม่ได้เเรงเกินไปเลย การใช้งานจริงตอบสนองการใช้งานได้ดี วัสดุดีเป็นกรอบพลาสติกดูทนทาน Premium มากไม่เหมือนกับที่ผมได้เคยสัมผัสมาเลย เเสงสีสวยใครที่มีงบประมาณพอผมก็เเนะนำให้มีไว้ใช้งานสักตัวไม่ผิดหวังแน่นอนเลยทีเดียวครับได้ลองใช้เเล้วอยากซื้อไว้ใช้งานเองเลยทีเดียวเชียว ผมก็ขอลาเพียงเท่านี้จ้า รอบหน้าเจอกันใหม่ครับชาว Extreme PC
You must be logged in to post a comment.