Review:Qnap-TS253B ตอบโจทย์ความบันเทิงไรขีดจำกัด

กราบสวัสดีแฟนๆนะครับ วันนี้กลับมาเจอกันอีกรอบหนึ่งไม่รู้ว่าเพื่อนๆยังจำกันได้มั้ยสำหรับการทดสอบ Nas ของทาง QNAP ในรุ่น QNAP NAS TS-251A นั้นเองก็วันนี้จะเป็นอีกรุ่นหนึ่งโดยเป็นรุ่น TS-253B ก็ถือว่าเป็นรุ่นใหม่กว่าและรุ่นใหญ่กว่านั้นเองทั้งในส่วนของฟีคเจอร์การใช้งานหรือเทคโนโลยี่สเปคการทำงานใหม่ๆที่สูงขึ้น โดยต้องบอกว่าครั้งแรกที่ใช้งานหรือเปิดเครื่องแอบตกใจเล็กๆเล่นกัน เนื่องจากเครื่อง NAS ตัวนี้มีเสียงพูดตอนทำงานด้วย เช่นบอกกำลังเปิดเครื่อง อัพเฟริมแวร์หรือเซตตั้งค่าเวลาปลุกก็สามารถทำได้เช่นกันตรงนี้เรียกว่าเป็นลูกเล่นใหม่ๆครับ

Intel® Celeron® J3455 quad-core 1.5GHz CPU with AES-NI Encryption

เครื่องนี้ใช้งาน CPU เป็นรุ่น Celeron® J3455 Quad-Core 1.5GHz Upto 2.3 Ghz RAM 4GB, พอร์ต Gigabit LAN แบบคู่ ตัว Nas นั้นมีการเข้ารหัส AES 256 บิตสำหรับไดรฟ์ NAS และโฟลเดอร์แชร์ทั้งหมดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ

Extend NAS functionality with the PCIe Slot

เครื่อง Nas สามารถติดตั้งการ์ดเพิ่มเติมได้เพื่อให้เครื่อง Nas รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือการเพิ่ม SSD เข้าไปยังเครื่อง Nas ถือว่าเป็นเครื่องที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบซื้อไปแล้วอัพเกรตในภายหลัง

สำหรับตัวกล่องแพ็คเกจนั้นจะมาเป็นกล่องลูกฟูกสีน้ำตาลๆครับตัวกล่องมีขนาดไม่ใหญ่มาก อาจจะใหญ่กว่าตัว Nas เล็กน้อยเนื่องจากภายในกล่องมีการใส่โฟมกันกระแทกมาให้เป็นอย่างดี

สำหรับสเปคของตัวเครื่องนั้นจะมีติดโชว์เอาไว้ที่ข้างกล่องเลยครับโดยจะมีรีโหมดแถมมาให้ด้วย ตรงนี้ถ้าใครเอาวางไว้ข้างทีวีเรียกว่าค่อนข้างสะดวกมากๆ เปรียบได้ว่าเห็นเหมือนเครื่องเล่น DVD อีกหนึ่งเครื่องได้เลย โดยตัวเครืี่องนั้นรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และสามารถเล่นหนังแบบ 4K ULTRA HD ได้สบายๆพร้อมรองรับการใช้งาน CITRIX และ VMWARE

สำหรับภายในกล่องนั้นจะมีอุปกรณ์เชื่อมต่อของตัว Nas ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสาย Lan มีมาให้จำนวน 2 เส้นเลยเพราะ nas ตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อ Lan ทั้งหมด 2 ช่องด้วยกันครับ ต่อมาจะเป็นสายพร้อมอแดปเตอร์และคู่มือการใช้งานสุดท้ายจะเป็นรีโหมดเอาไว้สำหรับคอลโทรลตัวเครื่อง Nas และชุดถ่านเอาไว้ใช้งานครับ

สำหรับตัวเครื่อง NAS TS-253B นั้นตัวเลขข้างหน้ารุ่นหรือเลข 2 ในที่นี้ความหมายของ Qnap คือจำนวนที่จะเอาไว้ใส่ HDD ครับดังนั้น Nas ตัวนี้รองรับ HDD จำนวน 2 ลูกและติดตั้งเพิ่มแบบ M.2 SSD ได้ทางสล๊อต PCI

สำหรับปุ่มทางด้านหน้าเครื่องนั้นจะมีปุ่มเปิดปิดเครื่องและปุ่มเลือกเมนูต่างๆผ่านหน้าจอ LED โดยหน้าจอนั้นจะมองเห็นตอนที่เปิดใช้งาน

สำหรับการเชื่อมต่อทางด้านล่างนั้นจะมีช่องเสียบ SD-Card พร้อมทั้งช่อง USB Type-C และ USB Type-A ครับ ปุ่มล่างสุดนั้นจะเป็นปุ่มสำหรับทำการคัดลอกไฟล์

อย่างที่บอกไปครับว่าเครื่อง Nas ตัวนี้จะสามารถใช้งานแบบไรสายหรือนอกบ้านได้นั้นเองและส่วนนี้ทาง Qnap เองก็ยังมีแอพที่สามารถจัดการผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

สำหรับทางด้านหลังของตัวเครื่อง Nas นั้นจะมีช่องต่อมากมาย โดยหลักๆเลยจะมีพัดลมสำหรับระบายความร้อนออกไปทางด้านหลังเพื่อเวลาที่ HDD ทำงานนานต่อเนื่องจะมีความร้อนสะสมส่วนนี้จะดึงความร้อนออกไปทางด้านหลังเครื่อง โดยทางด้านบนนั้นจะมีช่อง PCI แบบสั้นเอาไว้เพื่อให้ติดตั้งการ์ดต่างๆ โดยสำหรับช่องการเชื่อมต่อนั้นจะมีแจ๊ค 3.5 mm เอาไว้ต่อระบบเสียงและช่อง HDMI จำนวน 2 ช่อง สาย Lan อีก 2 ช่อง พร้อมทั้ง USB 3.0 จำนวน 4 ช่อง ตรงนี้เรียกว่าช่องเชื่อมต่อให้มาค่อนข้างเยอะมากนี้คือข้อแตกต่างสำหรับ Nas ตัวถูกกับตัวบนๆเลยครับ

สำหรับการเปิดฝาทางด้านหน้านั้นจะมีสวิตช์เลื่อนเพื่อปลดล๊อกฝาครอบพอปลดออกได้แล้วจะดึงออกมาได้อย่างง่ายดายครับ โดยจะเห็นช่องสำหรับใส่ HDD จำนวน 2 ลูกด้วยกัน

สำหรับการทดสอบนี้จะใช้งาน HDD จำนวน 2 ลูกครับเป็นลูกละ 2.5 TB จากทาง Seagate

สเปครายละเอียดแบบชัดๆของตัว HDD ที่จะเข้าร่วมในการทดสอบวันนี้

Setup System

หลังจากติดตั้ง HDD พร้อมเชื่อมต่อสาย lan เข้าไปยังเครื่อง Nas แล้วก็ให้เข้าไปที่ IP ของเครื่อง Nas ครับแล้วจะสามารถเซตอัพได้ทันที

เข้ามาไม่มีอะไรมากครับคือให้เซต User และ Password

ส่วนอื่นๆที่ไม่สำคัญผมจะไม่พูดถึงนะครับโดยหน้านี้จะเป็นการเลือกระบบของตัว HDD ว่าเราจะใช้งานแบบไหน เป็นลูกเดียวๆแยกๆเลยหรือเซต JBOD RAID 0 1 และเซตกันพืั้นที่เอาไว้สำหรับเก็บภาพหน้าจอต่างๆตามที่เราต้องการได้อีกด้วย ถือว่ามีลูกเล่นส่วนนี้ครบครันต่อการใช้งานมากๆครับ

หลังจากตั้งค่าครบทุกอย่างตรงนี้จะบอกรายละเอียดของการใช้งานเซตค่าต่างๆเอาไว้

หลังจากเซตค่าครบทั้งหมดก็ต้องรอมันฟอแมตพาทิชันเอาไว้ทั้งหมด ตรงนี้จะรอนานนิดหนึ่งประมาณ 10-20 นาทีด้วยกันครับ

โดยขณะเปิดเครื่อง Nas นั้นจะมีจอบอกสถาณะในการทำงาน ส่วนนี้จะมีเสียงคนพูดบอกด้วย เรียกว่าแจ่มมากๆเลยทีเดียวตรงจุดนี้แล้วตัวจอนี้เราสามารถสัมผัสผ่านกรอบด้านหน้าได้ทันทีเพื่อดูสถาณะของตัวเครื่อง

เรื่องของการอัพเดตระบบหรืออัพเดต FW นั้นสามารถทำได้ผ่านตัวโปรแกรมของ Qnap เรียกว่าสะดวกมากๆเลยทีเดียว

สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ไปยังเครื่อง Nas นั้นต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ กลายมาเป็นว่าตันที่โมเดมผมแทนครับ โดยจริงๆแล้วถ้าทำ RAID 0 สามารถวิ่งได้เกือบถึง 20 MB/s แบบสบายๆแต่โมเดมเครื่อข่ายที่ผมใช้งานอยู่ภายในบ้านนั้นไม่เพียงพอครับ ส่วนนี้ต้องขออภัยด้วยครับและผู้ใช้งานใครจะใช้ก็ต้องดูระบบภายในบ้านดีๆนะครับอย่างผมระบบ Wi-Fi ไม่ถึงจริงๆ จะต่อสาย Lan นั้นก็ไม่สะดวก

มาถึงการทดลองใช้งานจริงกันบ้างครับโดยผมได้ทำการทดลองผ่านทีวี LG 4K ที่ผมใช้งานอยู่เป็นประจำจะมีฟังค์ชัน SmartShare ตรงนี้แค่ต่อทีวีเข้ากับอินเตอร์เน็ตภายในบ้านเท่านั้นก็เจอทันทีไม่ต้องเซตค่าแต่อย่างใด

ไฟล์หนังก็เจอครบทั้งหมด โดยการทดสอบผมใช้ ทีวีต่อผ่านระบบ Wi-Fi และเครื่อง Nas นั้นจะเชื่อมต่อผ่านสาย Lan ครับ การทดสอบใช้งานผ่านคอมผ่านทีวีไปพร้อมกันก็ไม่มีอาการสะดุดแต่อย่างใด

เรียกได้ว่า Nas รุ่นใหม่ตัว TS-253B ก็มีฟังค์ชันมากมายไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงคนพูดตอนเปิดปิดเครื่องหรือแจ้งปัญหาขณะการทำงานตรงนี้ผมคิดว่าช่วยได้มากเพราะถึงแม้ว่าตัว Nas จะมีจอบอกสถาณะ LED อยู่ทางด้านหน้าก็จริงแต่ 70%+ ผมเชื่อว่าคนวางเครื่อง Nas จะวางหลบๆไม่ก็ไว้มุมๆยากที่จะเข้าถึงและมองอ่านได้ยาก เรื่องของการทำ RAID นั้นก็สร้างใช้งานได้ปกติแต่อยากแรงที่ผมเจอปัญหาคือลบพาทิชันไม่ได้ขณะที่ผมเอา hddลูกอื่นที่เคยใช้มา หรือผมหาฟังค์ชันไม่เจอตรงนี้ไม่มันใจ เลยนำ hdd ไปเสียบกับคอมล้างแล้วกลับมาใช้งานก็สามารถเซตได้ปกติ ตัวเครื่องอาจจะเปิดบูทช้าบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเวลาใช้ Nas ส่วนมากเปิดคาไว้ตลอดและขณะทำงานนั่นตัวเครื่องไม่มีอาการสะดุดแต่อย่างใดลองโยนไฟล์ 4k ทิ้งเอาไว้แล้วใช้ TV เปิดก็ดูได้อย่างต่อเนื่อง (ในการทดสอบเซตเป็น RAID 0) สามารถให้การทำงานพร้อมๆกันหลายๆอุปกรณ์ได้ครับ และอีกเรื่องที่น่าสนใจตัว Nas เครื่องนี้สามารถเข้าระบบ Cloud จากนอกบ้านได้ค่อนข้างสะดวกมากๆเลยเพียงแค่ใส่ Key ที่ข้างเครื่อง Nas ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ก็ประมาณนี้ครับสำหรับ Nas ลูกนี้ สำหรับวันนี้ทางผมก็ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ