รีวิว realme 11Pro+ 5G ตัวเครื่องดีไซน์สวยหรูดีไซเนอร์จากแบรนด์ GUCCI พร้อมกล้องหลังระดับ 200MP มีระบบกันสั่น SuperOIS

realme 11 Pro Series 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วโดยจะมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันครับ นั้นคือ realme 11Pro 5G และรุ่นที่ผมกำลังจะรีวิวนี้คือ realme 11Pro+ 5G โดยทั้งสองรุ่นจะมีความคล้ายคลึงกันมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องการออกแบบ หน้าจอแสดงผล แต่ที่ต่างกันชัดเจนคือเครื่องกล้องหลังนั้นเองครับ สำหรับรีวิวนี้จะรีวิวเจ้า realme 11Pro+ 5G ตัวพี่ก่อนนะครับ

SPEC realme 11Pro+ 5G

หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2412×1080 พิกเซล , Refresh Rate 120Hz , รองรับการแสดงเฉดสี 1 พันล้านสี , ขอบเขตสี 100% DCI-P3
รองรับ 5G
ชิปประมวลผล CPU Dimensity 7050 5G
GPU Mali-G68 MC4
RAM 12 GB พร้อมเทคโนโลยี Dash Memory Engine
ROM UFS3.0 ขนาด 512 GB
ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.1
กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 200+8+2 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น SuperOIS
ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
Wi-Fi 6 802.11 a/b/g/n/ac/ax
BT 5.2 , NFC
แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 100W
ราคา 16,990 บาท วางจำหน่าย 2 สีคือ สี Sunrise Beige และ Oasis Green

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ภายในกล่องทั้งหมดจะมีดังนี้

ตัวเครื่อง realme 11Pro+ 5G พร้อมติดฟิมล์หน้าจอมาให้แล้ว
Adapter SUPERVOOC 100W
สาย USB-C
เคสซิลิโคนใส
เข็มจิ้มซิม
คู่มือพร้อมใบรับประกัน

วัสดุและการออกแบบดีไซน์

ทีมออกแบบจากทาง realme ได้ร่วมมือกับ Matteo Menotto อดีตนักออกแบบลายพิมพ์และสิ่งทอจาก GUCCI ได้ช่วยกันออกแบบ realme 11Pro+ 5G ออกมา โดยเลือกใช้วัสดุ Premium Lychee Vegan Leather หนังวีแกนเกรดพรีเมียมลายลิ้นจี่ที่ให้สัมผัสเหมือนหนังแท้มาเป็นฝาหลังของรุ่นนี้ โดยจะมีทั้งหมด 2 สีด้วยกันคือสี Sunrise Beige และ Oasis Green ตรงแถบตรงกลางจะเป็น 3D Woven Texture เป็นการถักทอลวดลายช่วยให้ตัวเครื่องดูมีความพรีเมี่ยมมากขึ้น

กรอบโลหะอลูมิเนี่ยมระดับสูง ตัวเครื่องมีความบางมากๆแม้จะมากับแบตเตอรี่มากถึง 5000mAh ก็ตาม แต่บางเพียง 8.7 มม. และเบาเพียง 189 กรัม ถือว่าบางและเบามากๆครับ ( ขนาดตัวเครื่อง 161.6 x 73.9 x 8.7 มม.)

หน้าจอแสดงผลแบบขอบโค้ง Curved Vision Display พาแนลจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2412×1080 พิกเซล , อัตราค่า Refresh Rate 120Hz , อัตราค่า Touch Sampling Rate 360Hz, สูงสุดถึง 1260Hz ช่วยให้การแสดงผลที่ไหลลื่น ทัชหน้าจอที่ดีมากๆ หน้าจอรองรับการสแสนลายนิ้วใต้หน้าจอ และมีขอบจอทั้งสี่ด้านบางมากๆ ช่วยให้มีัสัดส่วนพื้นที่หน้าจอสูงถึง 93.65%

หน้าจอเจาะรูวางกล้องหน้าซ่อนอยู่ภายใน กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล / ขอบหน้าจอด้านบนจะมีเซ็นเซอร์วัดแสงและลำโพงสนทนา

หน้าจอรองรับการแสดงเฉดสี 1 พันล้านสี , HDR10+ , ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ที่แสดงผลหน้าจอได้สวยงามมากๆในเรทราคานี้ อัตราส่วนคอนทราสต์: 5,000,0001 , ค่าความสว่างสูงสุด 950 nits และปรับความสว่างอัตโนมัติได้ถึง 20,000 ระดับ มีระบบป้องกันสายตาปรับความสว่างหรี่กระพริบของแสงแบบ 2160Hz PWM Dimming ได้รับการรองรับจากสถาบัน TÜV Rheinland นะครับ

ด้านล่างตัวเครื่องจะมี ถาดซิมการ์ด / ไมค์สนทนา / พอร์ต USB-C และลำโพงหลัก

ถาดซิมรองรับ 2 ซิมนะครับ ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอกนะ

ด้านซ้ายจะไม่มีอะไรนะครับ ปล่อยโล่งๆ

ด้านบนจะมี ไมค์ตัดเสียงรบกวน และลำโพงตัวที่สอง

ฝั่งขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power

โดยส่วนตัวของผมเอง realme 11Pro+ 5G ถือว่าออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องได้สวยงามมากๆ วัสดุมีความหรูหรา ช่วยให้น่าถือใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ

realme 11Pro+ 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย realme UI 4.1 สามารถปรับแต่งไอคอนและรูปแบบการแสดงผลได้ รองรับการใช้งานแอพคู่เช่นเคยนะครับ

ประสิทธิภาพการทำงาน

realme 11Pro+ 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด CPU Dimensity 7050 5G สถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร ทำงานแบบ 8 core 64 bit (2 ARM^® Cortex-A78 @2.6GHz และ 6 ARM^® Cortex-A55 @2.0GHz) ความถี่สูงสุด 2.6GHz / GPU Mali-G68 MC4

จากที่ทดสอบมาถือว่าทำงานได้ดีมากๆ และประหยัดพลังงานสุดๆกับชิประดับกลางแบบนี้

หน่วยความจำขนาดใหญ่จุใจมากๆ

RAM 12 GB พร้อมเทคโนโลยี Dynamic RAM สามารถเพิ่มได้เป็น 12+12 GB
ROM UFS3.0 ขนาด 512 GB

สำหรับการเล่นเกมจะมี Hyper Boot เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตัวเครื่อง พร้อมกับการแจ้งเตือนต่างๆขณะเล่นเกม

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.45 มุมการถ่ายภาพ 90 องศา

โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ โหมด Portrait, โหมด Pano, โหมดถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ Ultra-wide, โหมด AI Beauty, ตรวจหาใบหน้าอัตโนมัติ, ฟิลเตอร์ในการถ่ายภาพ, โหมด Super Nightscape, AI Scene Recognition สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด FHD

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า realme 11Pro+ 5G

กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งการทำงานได้ดังนี้

เลนส์หลัก ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.69 มีระบบกันสั่น OIS (เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 SuperZoom Camera)
เลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.2 มุมกว้าง(FOV) 112 องศา
เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F2.4

โหมดการถ่ายภาพจะมีดังนี้ โหมดความละเอียด 200MP , ซูมอัตโนมัติ Auto-zoom, โหมด Street Photography, โหมดถ่ายภาพดวงจันทร์, โหมด Starry Pro), โหมด Super NightScape, Pano, โหมด Professional Mode, โหมด Portrait, HDR, AI Scene Recognition, AI Beauty, ฟิลเตอร์ในการถ่ายภาพ, สแกนตัวอักษร, ระบบแก้ไขรูปพอร์เทรท, ถ่ายภาพแบบ One Take, ถ่ายภาพหมู่ Super Group Portrait

ตัวอย่างภาพถ่ายระยะซูม 4x จากกล้องหลัง realme 11Pro+ 5G

ภาพถ่ายระยะ 2x

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดมุมกว้างเมื่อเทียบกับระยะปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด AUTO

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน

แบตเตอรี่

realme 11Pro+ 5G เห็นเครื่องบางและเบาแบบนี้แต่จริงๆแล้วติดตั้งแบตเตอรี่มาให้มากถึง 5000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานจริง ใช้งานครบวันสบายๆครับ แถมยังรองรับชาร์จเร็ว SUPERVOOC 100W สามารถชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาเพียง 26 นาที มีระบบป้องกันมากถึง 38 ระดับ ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland Safe Charge Certification

สรุป

สำหรับ realme 11Pro+ 5G กับค่าตัวที่ 16,990 บาท ถือว่าให้สเปคมาดีมากๆแทบจะทุกๆด้านเลยครับ หลักๆคือวัสดุและการดีไซน์ที่เรียบหรูมากๆ จอแสดงผลคมชัดสีสันสวยงาม กล้องหน้าและกล้องหลังถือว่าให้มาดีครับ จุจใจกับหน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 512GB เก็บภาพได้แบบจุกๆ แถมเรื่องแบตเตอรี่ชาร์จเร็วถึง 100W บอกได้เลยว่าจบครบในเครื่องเดียวจริงๆ