Review:Team Group T-FORCE CARDEA PCIe M.2 SSD 240 GB แรงสุดๆหยุดไม่อยู่
สวัสดีครับทุกท่านกลับมาเจอกันอีกแล้ว สำหรับวันนี้ก็กลับมาเจอกันอีกแล้วเนื่องด้วยในปี 2016 ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าตลาดของ SSD มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลยทีเดยวและครับ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของประสิทธิภาพและราคาที่แข่งขันจนในที่สุด การเชื่อมต่อ SSD แบบ Sata นั้นก็มาถึงขีดจำกัดเพราะว่าตัว SSD นั้นสามารถทำให้แรงได้มากกว่าช่องการเชื่อมต่อ Sata ทำให้ตอนนี้เริ่มมี SSD ที่เชื่อมต่อผ่าน M.2 ที่ใช้ระบบ NVMe การเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ หรืออารมณ์ประมาณว่าเป็นการเชื่อมต่อแบบ PCI-e ช่องเสียบการ์ดจอแต่ทำออกมาในรูปแบบช่องเชื่อมต่อ M.2 เนื่องจากมันสามารถรองรับการเชื่อมต่อของตัวข้อมูลได้เร็วมากกว่ารูปแบบ Sata หลายเท่า ดังนั้นในปีนี้เราน่าจะเริ่มเห็น SSD ที่เป็นรูปแบบ M.2 กันมากยิ่งขึ้นครับ โดยวันนี้ทาง Team
โดยตัว SSD หรือ M.2 นี้จะมีความพิเศษกว่าแบร์ดอื่นๆตรงที่เขาได้ทำการออกแบบฮิตซิงค์ขึ้นมา เรียกกว่าใหญ่กว่าแบบที่เห็นทั่วๆไปเลยก็ว่าได้ครับ เพราะจริงๆแล้ว SSD m.2 นั้นมันแรงมากก็จริงแต่หลายๆแบร์ดนั้นจะเจอปัญหาเวลาเราใช้งานนานๆจะเกิดความร้อนสะสมทำให้ความเร็วหรือสปีดลดลงตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่ทำออกมาแก้ไขปัญหาได้โดยตรง
เรื่องของความแรงนั้น T-FORCE CARDEA ได้เคลมเอาไว้ว่าอ่านเขียนได้สูงมากถึง 2600 MB/s 1450 MB/s เลยทีเดียวและครับ
ตัว M.2 นี้จะมีฮิตซิงค์ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถช่วยลดความร้อนได้ดีเลยทีเดียว ทำให้เวลาเราใช้งานนานๆจะไม่เกิดความร้อนสะสมมากจนเกินไปทำให้ความเร็วลด แต่ตรงนี้จะทำให้เราสามารถใช้งานได้เพียงคอมพิวเตอร์ PC เท่านั้นไม่สามารถใช้งานกับ Notebook ครับ
โดยตรงนี้ทาง TeamGroup ได้ทำการทดสอบกับแบร์ดอื่นๆทีไม่มีฮิตซิงค์และมีฮิตที่แปะเอาไว้แบบแบนราบครับ และพอเทียบอุณหภูมิกับของตัว T-FORCE CARDEA นั้นจะเห็นว่าความร้อนต่ำมากๆเพียงแค่ 57 องศาเท่านั้นเอง ทำให้ความเร็วในการใช้งานไม่ตกลดลงและยังทำให้เพิ่มอายุในการใช้งานอีกด้วยครับ
โดยตัวแพ็คเกจนั้นจะมาในกล่องกระดาษแบบที่ว่าต้องฉีกเท่านั้นถึงจะใช้งานได้ ทำให้มันใจได้ว่าเวลเราไปซื้อจะได้ของใหม่แน่นอนครับ โดยทางด้านหน้าจะมีขนาดความจุแปะบอกเอาไว้ โดยตัวนี้จะมีความจุที่ 240 GB ด้วยกันครับ ทางด้านหน้านั้นจะมีเขียนเอาไว้ว่าระบายความร้อนได้ดีขึ้น 15% รองรับ S.M.A.R.T. และ TRIM ด้วยกันครับ โดยต้องบอกว่า SSD อันนี้จะเป็น M.2 ที่เชื่อมต่อแบบ NVMe ครับ
ทางด้านหลังของตัวกล่องจะมีเขียนบอกสเปคเอาไว้คร่าวๆโดยตัว SSD นี้จะมีความเร็วในการอ่านมากถึง 2500 MB/s เลยทีเดียวครับ
แกะกล่องออกมาจะเจอกับตัว SSD เลยครับไม่มีอุปกรณ์อื่นใดแถมมาให้ตัว SSD นั้นจริงๆแล้วบางไม่กี่มิลแต่ ssd ตัวนี้จะมีฮิตซิงค์มาให้เรียกว่าค่อนข้างสูงพอสมควรเลยทำให้การใช้งานนานๆจะไม่เกิดความร้อนอย่างแน่นอน
ทางด้านหลังนั้นก็จะมีแผ่นเหล็กติดเอาไว้เพื่อช่วยระบายความร้อนชิพ NAND และทางด้านหลังก็มีป้ายลาเบลแปะบอกเอาไว้ครับ
แน่นอนว่าวันนี้ผมจะมาแกะให้ดูเช่นเดิม โดยพอเราแกะออกมาจะแยกได้ทั้งหมด 3 ส่วนคือ ทางด้านหน้าสุด ใส่กลางและทางด้านหลังครับ
โดยตัวชิพคอลโทรเลอร์นั้นจะใช้งานเป็นของ PHISON รหัส PS5007-11 โดยตัวคอลโทรเลอร์นี้จะใช้งานทั้งหมด 8 เลนด้วยกัน มีความสามารถในการอ่านข้อมูลได้สูงสุดถึง 2600 MB/s ครับ
โดยชิพที่ติดกับชิบควบคุมหลักหรือเป็นตัวแคชช่วยในการเก็บข้อมูล ถ้าให้อธิบายง่ายๆมันคือ RAM นั้นเองครับ ตัวนี้จะมีชิพแรมขนาด 256 MB โดยจะเป็นแบบ DDR3L-1600 เป็นชิพของทาง NANYA
โดยตัวชิพ NAND จะใช้งานเป็นของทาง TOSHIBA รูปแบบ MLC ครับ มีรหัส TA79G5NAUR โดยจะใช้งานทั้งหมด 4 เม็ตหรือ 4 ชิพด้วยกันครับ
CPU
|
Intel Core I7 7700K @ 5.0 GHz |
CPU Cooler
|
thermaltake water 3.0 riing rgb 240 |
Thermal Compound
|
CoolerMaster Master GEL MAKER NANO |
Mainboard
|
ASRock Z170 OC FORMULA |
Memory
|
T-FORCE XTREEM DDR4-4000CL18 1.35V 16GB |
VGA Card
|
PowerColor Red Devil RX480 Gaming 8 GB |
SSD
|
Team Group T-FORCE CARDEA PCIe M.2 SSD 240 GB |
Power Supply
|
Corsair AX 1500i
|
Chassis
|
DimasTech Easy XL |
OS
|
Windows 10 pro |
ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบไปแล้วในวันนี้ จะเห็นว่าความแรงในการอ่านเขียนที่ทดสอบในหลายๆโปรแกรมเฉลี่ยนๆกันแล้วความแรงในการอ่านมากถึง 2600-2700 MB/s เลยทีเดยวและครับ ถือว่าเป็น SSD ที่แรงที่สุดเท่าที่ผมเคยจับมาเลยก็ได้ครับ โดยค่าในการเขียนข้อมูลสูงมากถึง 1400 MB/s ถือว่าเป็นการประสบผลสำเร็จเลยทีเดียวครับ เรื่องของการใช้งานต่อเนื่องแบบยาวนาน ทำให้ผมพบว่าการที่ทาง TeamGroup ได้ออกแบบฮิตซิงค์เพื่อระบายความร้อนจุดนี้ทำให้ความเร็วในการใช้งานไม่ตกลงแม้จะใช้งานเป็นเวลานานก็ตามที แต่ตรงจุดนี้ใครจะซื้อไปใช้งานต้องบอกเอาไว้ก่อนว่ารองรับการใช้งานแต่เครื่อง PC เท่านั้นสำหรับเครื่อง Notebook จะไม่สามารถใช้งานได้เพราะว่าความหนาของตัวฮิตซิงค์มีความสูงมากกว่า 1 ซ.ม.ครับ ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบในวันนี้ เรื่องของขนาดความจุจะมี 240 GB และ 480 GB ด้วยกัน 2 ขนาด เรื่องของราคาขายในไทยนั้นติดตามเอาไว้ดีๆครับอีกไม่นานของน่าจะเข้าแล้ว สำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
You must be logged in to post a comment.