[Review] Transcend 830S – M.2 SATA SSD แรงแบบพอเพียง ราคาคุ้มค่า

วันนี้เรามาต่อกันที่ SSD ราคาถูกอีกรุ่นหนึ่ง นั่นก็คือ Transcend 830S – M.2 SATA SSD ที่ให้ประสิทธิภาพเพียงพอในการใช้งานทั่วไป เจาะกลุ่มโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กโดยเฉพาะ

Introduction

SSD ตัวนี้ ใช้ชิป 3D NAND ที่มาพร้อมกับความทนทานในการใช้งาน และยังรักษาประสิทธิภาพไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ประกอบกับการมี DDR3 DRAM Cache ช่วยให้การขนส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

Transcend 830S เป็น M.2 SSD ที่สามารถใช้ได้ทั้งสล็อต Form factor type 2242 และ 2280 อีกทั้งยังมีความยาวเพียง 80 มิลลิเมตร จึงใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อย สะดวกในการอัปเกรดในเครื่อง PC ขนาดเล็ก และโน้ตบุ๊กครับ

ทางด้านความเร็วนั้น ทาง Transcend เคลมว่า SSD รุ่นนี้ มีความเร็วในการอ่านเขียนสูงสุด 560/500 MB/s ซึ่งเร็วกว่า HDD แบบดั้งเดิมถึง 1.5 เท่า ทางด้านความเร็ว IOPS นั้น จะสามารถอ่านเขียนไฟล์ขนาดเล็กแบบสุ่ม 4k block จะอยู่ที่ 85,000 IOPS ตอบสนองต่อการใช้งานด้านกราฟฟิก และแอปพลิเคชันมัลติมีเดียได้เป็นอย่างดี

และที่ขาดไม่ได้คือ โปรแกรม SSD Scope ของ Transcend ที่ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบอายุการใช้งานของ SSD และประสิทธิภาพในการอ่านเขียนว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่อีกด้วย

Unboxing

ก่อนจะไปแกะกล่อง เดี๋ยวเรามาเช็คสเปคโดยรวมของ Transcend 830S – M.2 SATA SSD ตัวนี้กันนะครับ ว่าจะมีความเร็ว, ความจุ หรือฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าสนใจ

หลังจากที่มีภาพสเปคอยู่ในหัวแล้ว เรามาเริ่มแกะกล่องกันสักเล็กน้อย จะเห็นได้ว่า SSD น่าจะทุกรุ่นจะใช้กล่องแบบเดียวกัน รุ่นที่ผมนำมารีวิว 1TB ครับ

ตัว SSD จะเป็นแบบเปลือย ด้วยการออกแบบที่ไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามมากนัก (เพราะยังไงก็ต้องถูกนำไปใส่ในโน้ตบุ๊กที่ปิดฝาเครื่องมิดชิด) จึงเน้นความถูกและประสิทธิภาพเป็นพอครับ

Benchmark

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพนั้น จะมีการใช้โปรแกรมยอดนิยมอย่าง AS SSD และ CerystalDiskMark เพื่อวัดความเร็วในการอ่านเขียนของ SSD ครับ

ส่วน AIDA64 จะเน้นทดสอบประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูล ซึ่ง SSD ตัวนี้ทำออกมาได้ดีตรงสเปค ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สุดท้ายคือโปรแกรม PCMark 8 อันนี้จะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ SSD ร่วมกับโปรแกรมที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน ซึ่ง Transcend 830S ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของ SATA SSD ครับ

สรุป…

เอาเป็นว่าผมฝากฝังเจ้า Transcend 830S ไว้กับเพื่อน ๆ อีกรุ่นหนึ่งละกันนะครับ เพราะด้วยประสิทธิภาพของ SATA SSD ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม, การเปิดเครื่อง, การถ่ายโอนข้อมูล แม้กระทั่งการดึงข้อมูลมาทำงาน ก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกใจผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย แถมยังรับประกันมากถึง 5 ปีเลยทีเดียว!!!

สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ความจุ ได้แก่ รุ่น 256 GB (1,350 บาท), 512 GB (2,590 บาท) และ 1 TB (5,323 บาท) ราคานี้อ้างอิงจากช้อปใน LAZADA นะครับ ใครสนใจลองไปหาซื้อกันได้เลย