Review: Xiaomi Mi Wifi Router Pro AC2600 สัญญาน WiFi แรงทะลุทะลวง
สัญญาน wifi ที่บ้านไม่แรงเลย เน็ตแรงไม่ทั่วบ้าน สััญญานติดๆดับๆ เน็ตกระตุก เล่นแล้วค้างต้องรีโมเดม ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงประสบปัญหาพวกนี้กันอยู่ใช่มั้ยละครับ แน่นอนว่า อุปกรณ์ภายในบ้านเรานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันด้วยไม่ใช่เพียงแค่โทษผู้ให้บริการเครื่อข่ายเท่านั้น (แต่เอาจริงๆ มันก็โทษเขาได้และ) เพราะว่าอุปกรณ์ที่จะแปลงสัญญานเน็ตมาให้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆนั้นก็มีความสำคัญเช่นกันครับ หลายๆท่านเคยได้ยินการต่อบริจโหมดกันบ้างมั้ยเอ่ย ? มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อินเตอร์เน็ตบ้านเราแรงและสเถียนขึ้นได้เช่นกันครับ โดยสำหรับวันนี้ผมก็มี เร้าเตอร์ ที่น่าสนใจจากประเทศจีนแต่แบร์ดโด่งดัง นั้นก็คือ Xiaomi Mi ที่เคยปังเรื่องของโทรศัพท์มือถือมาก่อน สำหรับวันนี้ก็จะมาเป็นเจ้า Xiaomi Mi Wifi Router Pro AC2600 เป็นตัวสเปคเทพแต่มาในราคาเบาๆเพียงประมาณ 3500 บาท ประกันศูนย์จากไทยเลยทีเดียวและครับ เอาเป็นว่าเดียวเราไปดูกันเลยดีกว่า
สำหรับตัวกล่องนั้นก็มาเรียบๆสีดำสวยงาม ทางด้านหน้ากล่องนั้นต้องบอกว่าเป็นภาษาจีน 100% เลยทีเดียว ทางผมเองอ่านไม่ออกรู้แค่เป็นรุ่น Pro และรองรับความเร็วของสัญญาน Wi-Fi ที่ AC 2600 ครับ
ทางด้านหลังนั้นก็มีบอกคุณสมบัติพิเศษต่างๆของตัวเร้าเตอร์เอาไว้ ตรงนี้แปลไม่ออกแต่ก็มีภาพแสดงน่าจะเดาๆกันได้ โดยข้อเสียของตัวนี้ต้องบอกเลยว่ามีแค่อย่างเดียวคือเรื่องของภาษา แต่ตอนใช้งานนั้นมี FW ตัวภาษา Eng ให้เราใช้งานกันแล้วครับ ก็สบายใจกันไป
เปิดกล่องออกมา สาเหตุที่ตัวกล่องมันยาวเพราะว่าเสารับสัญญานนั้นมันไม่สามารถถอดออกได้นั้นเองครับ ดังนั้นเราไม่สามารถเปลียนเสาอัพเกรตได้
ภายในกล่องไม่มีอะไรเยอะคู่มือการใช้งานที่อ่านไม่ออก 1 เล่ม อแดปเตอร์แปลงไฟ จ่ายพลังงานให้กับเร้าเตอร์ 1 ตัวและตัวเร้าเตอร์ครับ
หน้าตานั้นต้องบอกว่าดูเรียบๆมากเหมาะวางภายในห้องดูหรูสวยงามดี เสาไม่ได้ยาวมากจนเกะกะแต่มันกลับส่งสัญญานได้ไกลเป็นพิเศษเลยทีเดียวและครับ
หันไปทางด้านข้างกันหน่อยจะเป็นสีดำสนิท มีทำเป็นตะแกรงเส้นๆเอาไว้ให้ความร้อนและลมสามารถเข้าผ่าน ระบายความร้อนออกมาได้
ทางด้านหลังนั้นจะมีช่องสำหรับเสียบสายและอุปกรณ์ต่างๆทั้งหมด โดยช่องเสียบสาย Lan ริมซ้ายสุดที่เป็นสีน้ำเงินจะเป็นช่องสำหรับ WAN ที่เป็นเส้นอินเตอร์เน็ตมาหรือสายหลักที่เราจะทำบริจให้เสียบไปยังช่องนี้ครับ ส่วนอีก 3 ช่องที่เหลือเป็นสีดำนั้นจะเป็นช่อง Lan ปกติ ดังนั้นต้องบอกว่ามีช่องน้อยกว่าทั่วๆไป 1 ช่องเพราะปกติรุ่นใหญ่ประมาณนี้จะอยู่ที่ขั้นต่ำ 4 ช่อง และสวิตช์ Reset รูเล็กๆ พร้อมทั้งช่องเสียบ USB 3.0 เอาไว้ต่ออุปกรณ์ต่างๆได้และรูกลมๆสุดท้ายนั้นจะเป็นช่องสำหรับเสียบสายไฟเลี้ยงของตัวเร้าเตอร์ครับ
แกะ! งานนี้ต้องแกะดู ของจีนมีใครหลายคนบอกว่า ภายในห่วย ภายนอกดูดี แต่มันไม่ใช่สำหรับ MI ครับ แค่เปิดด้านข้างออกมาส่องดูก็พบกับฮิตซิงค์ขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่กว่าแบร์ดดังๆอีกดึงความร้อนและระบายความร้อนได้ดีแน่นอน
แกะออกมาดู PCB กันสักนิด ใช้งานเป็นสีดำ ทางด้านหลังดูโล้งสะอาดตา เพราะชิพหลักๆจะอยู่ทางด้านหน้าทั้งหมด โดยสายของเสาอากาศนั้นจะเป็นสายตรงไปยังเสาและมีการล๊อกจัดเก็บเอาไว้ละเอียดมาก
ส่วนของเสานั้นต้องบอกว่าไม่สามารถถอดเปลียนได้ แต่ความแรงของสัญญานนั้นดีแน่นอนเพราะสายมันวิ่งขึ้นไปยังเสาเลยทีเดียวครับ ก็เป็นข้อเสียเล็กๆของเจ้า Mi
สำหรับทางด้านหน้าจะเป็นฮิตซิงค์สีดำขนาดใหญ่ ตรงนี้ดึงความร้อนออกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
โดยการใช้งานนั้นๆเราจะดูได้ว่าโหลดใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างไรเท่าไร และยังมีการบอกสถาณะว่าตัว เร้าเตอร์นั้นใช้โหลด CPU และ Ram ไปเท่าไรครับ และจำได้มั้ยว่ามันมีช่อง USB 3.0 ตรงนี้สามารถเสียบ HDD ได้เลยเอาไว้เป็นระบบ Cloud อยู่ในบ้านขนาดเล็กๆได้เลย
สำหรับเรื่องของ Wi-Fi นั้นเราสามารถตั้งชื่อแยกจากกันได้ทั้งสัญญาน 2.4G และ 5 G ครับ โดยตรงคำว่า Switch นั้นจะเป็นการเปิดโหมดทะลุทะลวง ทำให้ส่งสัญญานได้ไกลกว่าปกติครับ โดยวันนี้การทดสอบผมจะเปิดเอาไว้ โดย DHCP นั้นก็ไม่มีอะไรมากครับเป็นการตั้งค่าทั่วๆไป
เรื่องของความปลอดภัยเราก็สามารถตั้งเลือกแต่ละอุปกรณ์ได้เช่นกันว่าไม่ให้เข้าอะไรหรือตั้งต่าไม่ให้ลูกๆภายในบ้านใช้งานอะไรพวกนี้ก็เซตได้ เรื่องของกำหนดวง Lan นั้นก็เซตได้เหมือนเราเตอร์ทั่วๆไปครับ
สำหรับการเซตความเร็วนั้นทางผมแนะนำว่าให้เราพิมพ์กำหนดค่าเองดีกว่าจะกดเทสความเร็วเองครับเนื่องจากว่าเหมือนไปทดสอบความเร็วที่ SV ต่างประเทศ ทำให้ได้ค่าความเร็วไม่ค่อยตรง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากนัก และในส่วนของการเซต IP นั้นก็สามารถเซตแต่ละเครื่องได้อิสระ
สำหรับการเซต DDNS และการตั้ง Port forwarding นั้น เร้าเตอร์ตัวนี้ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ โดยเราสามารถเพิ่มหรือ ADD ได้ทันที
เรื่องของการทำ VPNs นั้นก็มีมาให้เช่นกันสามารถเซตผ่านเจ้า Xiaomi Mi Wifi Router Pro AC2600 ได้ทันที และเจ้าเร้าเตอร์ตัวนี้ก็รองรับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆแบบ Plug and Play ได้ด้วย
สำหรับหน้าสุดท้ายนี้จะเป็นหน้าจัดการอัพเดต FW ครับ โดยทุกเครื่องที่ซื้อผ่านทาง RCP หรือตัวแทนจากประเทศไทยนั้นจะมีการอัพ FW จากโรงงานมาให้เรียบร้อยเลยครับและได้เซตเป็น AP โหมดมาให้จากโรงงาน คือเสัียบสาย Lan เข้าไปก็จะเป็นตัวปล่อยสัญญานเลยทันทีครับ
Test
สำหรับการทดสอบนี้จะทดสอบกับ สภาพแวดล้อมบ้านผม โดยตั้งไว้ที่ห้องในสุดของบ้าน ตัวหลักที่ผมใช้งานจะเป็น ASUS ROG Rapture GT-AC5300 อินเตอร์เน็ตบ้านความเร็ว 50/20 Mb ของทาง True โดยการทดสอบจะเน้นไปในส่วนของสัญญาน Wi-Fi และใช้งานจริงผ่านการเล่นอินเตอร์เน็ตไม่ได้ทดสอบการโอนถ่ายข้อมูลไฟล์แต่อย่างใด และเชื่อมต่อผ่านสัญญาน 5 GHz
ภาพในการทดสอบภาพกลางจะเป็น ASUS ROG Rapture GT-AC5300 และ ภาพขวาสุดจะเป็น Xiaomi Mi Wifi Router Pro AC2600
ระยะ 0 เมตร
ระยะนี้คือวางมือถือไว้ข้างเราเตอร์เลยนะครับ ผลการทดสอบ เรียกว่า เทียบรุ่นพี่ใหญ่ติดๆ การทดสอบนี้ผมจะกดทดสอบทั้งหมด 3 ครั้งและนำครั้งที่ดีที่สุดมาแสดง
ระยะ 25 เมตร กำแพง 2 ชั้น
ไกลขึ้นมาหน่อย จุดนี้เป็นการยื่นที่หน้าบ้าน หรือจุดที่ผมไปยื่นล้างรถหน้าบ้านบ่อยๆ ผ่านกำแพงบ้าน 2 ชั้นเป็นกำแพงปูนหนา ความเร็วตัว Mi นั้นมีดรอปลงไปเล็กน้อยครับ
ระยะ 40 เมตร กำแพง 3 ชั้น (นอกบ้าน)
ระยะนี้เอาตรงๆผมไม่เคยใช้งานจริงเพราะมันเป็นการไปยืนที่นอกบ้านผมเลยและไกลมากเทสเป็นแบบเฉียงจากตัวบ้าน ตอนนี้ไม่เจอสัญญาน 5GHz แล้ว ทั้ง 2 เราเตอร์ เจอแต่สัญญาน 2.4 Ghz เท่านั้น การทดสอบก็เรียกว่า จิ๋วแต่แจ่วจริงๆครับ เทียบเคียงรุ่นพี่ได้พอสมควรเลยทีเดียว โดนความเร็วน้อยกว่าตัวหลักที่ใช้งานอยู่ 1-2 Mbps นะครับแต่ถ้าคิดเป็นเปอร์เซนจะอยู่ประมาณ 25-50% แต่ถ้ามองย้อนกลับไปเสาสัญญานมีน้อยกว่า เท่าตัว และราคาค่าตัวต่างกันมากถึง 5 เท่า ! ก็จบไปแล้วสำหรับการทดสอบในวันนี้ต้องบอกว่ามันมีความโดดเด่นเรื่องของการส่งสัญญาน Wi-Fi จริงๆครับ สัญญานแรงแบบทะลุทะลวงมากถ้าทำการเปิดโหมดส่งกำลังสูง สามารถส่งไปได้ไกลถึงขั้นนอกบ้านเลย เรื่องของการจัดการอินเตอร์เน็ต ถ้าอุปกรณ์ภายในบ้านไม่เกิน 20-30 ชิ้น ตัวนี้มันรองรับไหวแบบสบายๆเลยทีเดียว ไม่ใช่หมายความว่าเกินกว่านี้รับไม่ไหวนะครับ รับไหวแต่อาจจะมีอืดลงบ้างด้วยสเปคที่ไม่ได้สูงมากแต่เรื่องของราคาโคตาคุ้มเพราะขายอยู่เพียง 3500 บาท เท่านั้น สำหรับวันนี้ทางผมก็คงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ
ราคา 3,500 บาท
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง https://www.rcpglobal.co.th/ ที่ได้ส่งอุปกรณ์มาทดสอบ และเป็นผู้นำเข้าสินค้าและรับประกันภายในประเทศไทย
You must be logged in to post a comment.